ข้ามไปเนื้อหา

ผู้ใช้:Natnarinwo/กระบะทราย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

กินผักอย่างไรให้ได้ประโยชน์เต็มร้อย[แก้]

พวกเราโชคดีที่ประเทศไทยมีผักผลไม้ให้เลือกกินตลอดปี น้องๆ จึงควรกินผักต่างๆ ตามฤดูกาล เพราะไม่แพง และปลอดภัยจากสารเคมีตกค้างด้วย การกินผักควรกินให้หลากหลายชนิดเป็นประจำทุก วันอย่างน้อยวันละ 4 ทัพพี และกินผลไม้วันละ 3-5 ชนิด เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุ เพื่อใช้ในการเจริญเติบโต และเสริมสร้างให้ร่างกายทุกระบบทำงานได้เป็นปกติมีเทคนิคง่ายๆ ที่ช่วยให้ได้รับสารอาหารและใยอาหารจากผักและผลไม้อย่างพอเพียง คือ กินให้ครบ 5 สี แล้วแต่ละสีแตกต่างกันอย่างไร

ผักผลไม้ 5 สี  
1. ผักผลไม้สีน้ำเงิน ม่วง มีสารแอนโธไซยานิน (anthocyanin) ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์และดวงตา
ได้แก่ กะหล่ำปลีม่วง หอมแดง ดอกอัญชัน เผือก มะเขือม่วง ชมพู่มะเหมี่ยว องุ่นม่วง ลูกพรุน บลูเบอร์รี่ ฯลฯ
2. ผักผลไม้สีเขียว ได้แก่ บร็อคโคลี คะน้า ผักชี บวบ หน่อไม้ฝรั่ง กุยช่าย ผักบุ้ง ผักโขม ผักปวยเล้ง ผักกาดหอม แตงกวา ถั่วลันเตา เป็นต้น
สีเขียวนั้นเกิดจากสารคลอโรฟิลล์ และยังมีแร่ธาตุอื่นๆ อีกหลายชนิด เช่น ซีแซนทีน ธาตุเหล็ก แคลเซียม และวิตามินบี 2 ที่ช่วยในการเผาผลาญอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรต
3. ผักผลไม้สีแดง มีสารไลโคพีน (lycopene) เช่น มะเขือเทศ พริกแดง แตงโม กระเจี๊ยบแดง หัวบีทรูท สตรอเบอรี่ เชอรี่ ฯลฯ
ไลโคพีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดี ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ ในร่างกายโดยเฉพาะเซลล์ผิวหนัง และช่วยลดปริมาณไขมันตัวร้ายในเลือด
4. ผักผลไม้สีขาว ได้แก่ กระเทียม เซเลอรี่ (ขึ้นฉ่ายฝรั่ง) หอมหัวใหญ่ เห็ด ขิง ข่า ลูกเดือย งาขาว ฯลฯ
มีสารอัลลิซิน มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ลดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งและเนื้องอก
5. ผักผลไม้ที่มีสีเหลืองและสีส้ม เช่น แครอท มะละกอ ฟักทอง มะม่วง ส้ม ขนุน แคนตาลูป ทุเรียน เสาวรส ฯลฯ
อุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีน มีบทบาทสำคัญในระบบภูมิต้านทานของร่างกายและเป็นสารต้านปฏิกิริยาออกซิเดชั่น
เมื่อเรากินผักผลไม้เหล่านี้ ร่างกายจะเปลี่ยนสารชนิดนี้เป็นวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา ทำให้มองเห็นในที่มืดได้ดี และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระหลากหลายชนิด
เช่น วิตามินซี และสารฟลาโวนอยด์