ผู้ใช้:Film-DekPakChong/เพลงชาติสาธารณรัฐจีน
เพลงชาติแห่งสาธารณรัฐจีน ได้กล่าวถึงวิสัยทัศน์ และมีหวังต่อประเทศชาติครั้งใหม่ และประชาชนที่มีความสามารถ และควรจะบรรลุผล และใช้สามทฤษฎีหลักของประชาชน บางครั้งชื่อเพลงชาติเรียกอีกอย่างว่า ซาน หมิง ชู-อี ซึ่งแปลว่าสามทฤษฎีหลักของประชาชน จะอยู่บรรทัดส่วนแรก แต่เพลงชาตินี้ไม่เคยถูกใช้พิธีการต่างๆ หรือ ใช้ในโอกาลอย่างเป็นทางการ
ประวัติ
[แก้]ข้อความใน"เพลงชาติสาธารณรัฐจีน" เป็นการร่วมมือกันหระหว่างสมาชิกพรรคก๊ก มิน ตั๋ง(KMT)
- หู หาน หมิน (胡漢民 Hú Hànmín),
- ถาย จี เทา (戴季陶; Dài Jìtáo),
- เหลี่ยง จง ไค(廖仲愷 Liáo Zhōngkǎi)
- ฉาว หยวน ชง (邵元沖 Shào Yuánchōng).
ได้เปิดตัวเนื้อเพลงครั้งแรก เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ.1924 ผู้บรรยายโดย ซูน ยาท เซ็น เป็นผู้พิธีการเปิดศูนย์ฝึกทหาร Whampoa
หลังจากความสำเร็จของการเดินทางไปภาคเหนือของประเทศไต้หวัน ข้อความที่ก๊กมินตั๋ง เลือกคือ เพลงสดุดีพรรคและเชื้อเชิญโดยประชาชน จะคล้อยไปตามเพลง เฉิง มู หยูน(程懋筠; Chéng Màoyún )ได้ชนะการประกวดผู้ที่มีส่วนร่วในวงมี 139 คน
24 มีนาคม ค.ศ.1930 สมาชิก ก๊ก มิน ตั๋งทั้งหทดเสนอข้อคิดเห็นเพื่อใช้ในการบรรยายโดย ซูน ยาท เซ็น ลักษณะของเพลงชาติ เนื่องจากได้มีการคัดค้านเกี่ยวกับการใช้สัญลักษณ์ของพรรคการเมืองแสดงให้เห็นต่อประชาชนทั้งหมด เพลงชาติได้แก้ไข และคณะกรรมการการวิจัย(國歌編製研究委員會)เป็นผู้ก่อตั้ง เป็นผลงานเพลงของพรรค KMT 3 มิถุนายน ค.ศ.1937 คณะกรรมการตำแหน่งกลาง (中央常務委員會) ได้ขอเสนอการอนุมัติ และในปี ค.ศ. 1943 เพลงสามทฤษฎีหลักของประชาชน กลายมาเป็นเพลงชาติแห่งสาธารณรัฐจีนอย่างเป็นทางการ
เนื้อเพลง
[แก้]ภาษาจีน
[แก้]
三民主義,吾黨所宗, ㄙ ㄢ ㄇ一ㄣˊ ㄓㄨ ˇ 一 ˋ ㄨ ˊ ㄉ ㄤˇ ㄙㄨㄛˇ ㄗㄨㄥˉ 一 ˇ ㄐ一ㄢˋ ㄇ一ㄣˊ ㄍㄨㄛˊ 一 ˇ ㄐ一ㄣˋ ㄉ ㄚˋ ㄊㄨㄥˊ ㄗ ㄦ ˇ ㄉㄨㄛ ㄕ ˋ ㄨ ㄟˊ ㄇ一ㄣˊ ㄑ一ㄢˊ ㄈ ㄥ ㄙ ㄨˋ 一 ㄝˋ ㄈ ㄟˇ ㄒ一ㄝˋ ㄓ ㄨˇ 一 ˋ ㄕ ˋ ㄘㄨㄥˊ ㄕ ˇ ㄑ一ㄣˊ ㄕ ˇ ㄩ ㄥˇ ㄅ 一ˋ ㄒ一ㄣˋ ㄅ 一ˋ ㄓㄨㄥ 一 ˋ ㄒ一ㄣ 一 ˋ ㄉ ㄜˊ ㄍㄨㄢˋ ㄔ ㄜˋ ㄕ ˇ ㄓㄨㄥ | |
San-min-chu-i, Wu-tang so tsung; |
Sānmín Zhǔyì, wúdǎng suǒ zōng; |
ลักษณะเนื้อร้องงเพลงจีนในแบบตั้งเดิม เช่น
- ěr เอ้อร์ (爾) คือเป็นบทประพันธ์เท่ากับ ทั้ง 2 อย่าง จะเป็นในรูปเอกพจน์ และ รูปพหูพจน์ "คุณ" (มีความแต่งต่างในภาษาจีนสมัยใหม่) ขื้นอยู่กับข้อความ ในกรณีที่ รุปพหูพจน์ "คุณ"
- fěi เฟย(匪) คือคำพ้องในรูปแบบอดีต ของ (不 bù ปู๋ )"ไม่ใช่" และ
- zī จือ (咨) คือรูปแบบอดีต เป็นคำอุทานโบราณ และไม่ได้ใช้ในความหมายของคำในภาษาพื้นเมืองสมัยใหม่
ในประเด็นนี้ เพลงชาติของสาธารณรัฐจีน เป็นจุดยืนในความตรงกันข้ามกับ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในเพลง "มาร์ชทหารอาสา" ต่อมาซึ่งได้ถูกเขียนโดยสิ้นเชิง โดยใช้ภาษาจีนพื้นเมืองสมัยใหม่ รวมทั้งเป็นการเขียนภาษาจีนแบบดั้งเดิม เพลงชาติเป็นไปตามที่ประชุมเกี่ยวกับบทประพันธ์และนักประพันธ์แบบดั้งเดิม ตามรูปแบบของกลอง 4 ตัวอักษร (四言詩)เรียกอีกอย่างว่า กลอน 4 แบบสัมผัสร้อยแก้ว (四言韻文) ปรากฏครั้งในราชวงศ์ จู (Zhou) ล่าสุด ตัวอักษรเสียงแบบสัมผัลในบทประพันธ์ในแต่ละอันอยู่ใน -ong หรือ -eng ซึ่งเท่ากับว่าเป็นภาษาจันแบบโบราณ เพราะว่าความเป็นธรรมชาติ กะทัดรัด และความกระชับของบทกลอน คำบางคำในข้อความมีการอธิบายที่แตกต่าง จะมีคำแปล 2 คำแปลอย่างชัดเจน
คำแปล
[แก้]รูปแบบเป็นทางการ แปลโดย ตู ติง-ยี Tu Ting- yi ถูกใช้เมื่อมีเพลงสดุดี ขแงเพลงได้ถูกบรรยายเป็นภาษาต่างประเทศ ทำหน้าที่ต่อ ROC จัดทำโดยรัฐบาล เป็นทางการ ซาน หมิง จู -ยี เราจะตั้งใจ ค้นคว้า เมืองอิสระ โลกสันติภาพ เรายืนหยัด สหายเดินหน้า นำทาง ทำอย่างตั้งใจ ต่ออาทิตย์และดาว จริงจัง และ กล้าหาญ ประเทศเจ้า ต้องปกป้อง หนึ่งดวงใจ หนึ่งจิดวิญญาณ หนึ่งจิตใจ หนึ่งประตูชัย
ความหมาย สามทฤษฎีหลักของประชาชน สร้างรากฐานของพรรคของเรา ใช้สิ่งนี้ เราสรางสาธารณรัฐ ใช้สิ่งนี้ เราก้าวไปสู่สันติภาพทั้งหมด โอ้ เจ้า นักรบ สำหรับประชาชน จะนำทาง โดยปราศจากการพัก กลางวัน หรือ กลางคืน สาบานจะขยัน สาบานจะกล้าหาญ จะบังคับน่าไว้วางใจ เพราะถูกบังคับด้วยความภัคดี ด้วยใจหนึ่ง และสึ่งหนึ่งคือคุณงามความดี
เจ็ดบรรทัดและแปดบรรทัดของ นาย ตู และในการแปลความหมายที่ปรากฏการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด การแปลของ นาย ตู ในทางกลับกันการคำสั่งต้องมีความเป็นจริง ซึ่งเป็นไปได้มากโดยธรรมชาติเพื่อเหมาะสมกับการจัดระเบียบคำภาษาอังกฤษ คำว่า "กลางวัน" - "กลางคืน" ถูกแทนที่คำอื่นเป็น "ดวงอาทิตย์" และ "ดวงดาว" อีกด้วย
ความแตกต่างจริงเป็นสาเหตุที่ทำให้แปลความหมายอย่างเป็นทางการ ซึ่งจำนวนหนึ่งคำจะเป็นการเมือง และสงครามได้เน้นถึงความหมายให้ความสำคัญโดยนัย
- พรรค์ของเรา (吾黨)ถูกขยายคือ "พันธมิตร์ของเรา" ซึ่งหมายถึง "เรามาร่วมใจกันฎ รวมไปถึงไม่มีสามาชิกพรรค
- นักรบ(多士) เป็นบุคคลที่ความอดทนมุ่งมั่น และมีจิตใจที่ต่อสู้ เป็นพลเมืองทั้งหมด รวมไปถึงพลเรือน (สหาย)
- กองหน้า(前鋒)สัญลักษณ์เป็ลพลเมืองตัวอย่างนั้นถูกสอนในโรงเรียนในไต้หวัน แตบางครั้งจะพิจรณาคำซ้อนของวลีคือไม่สอดคล้องกัน การอธิบายจากต้นฉบับซึ่งไม่ถูกต้อง