ผู้ใช้:ผู้บ่าวไทบ้าน/กระบะทราย/ทีมฟุตซอล
เสียมราฐ សៀមរាប เสียมเรียบ | |
---|---|
![]() ถนนเมืองเสียมราฐยามค่ำคืน | |
สมญา: Temple Town [1] | |
พิกัด: 13°21′44″N 103°51′35″E / 13.36222°N 103.85972°E | |
ประเทศ | ![]() |
จังหวัด | เสียมราฐ |
ก่อตั้ง | 802 |
อย่างเป็นอย่างการ | 1907 |
การปกครอง | |
• หัวหน้าเขตและผู้ว่าราชการ | Khim Bunsong (พรรคประชาชนกัมพูชา) |
• รองผู้ว่าราชการ | Kim Chay Hieng (พรรคประชาชนกัมพูชา) |
ความสูง | 18 เมตร (59 ฟุต) |
ประชากร (2008)[2] | |
• ทั้งหมด | 230,714 คน |
เขตเวลา | UTC+7 (กัมพูชา) |
เว็บไซต์ | เว็บไซต์ |
เสียมราฐ หรือชื่อท้องถิ่นว่า เสียมเรียบ (เขมร: សៀមរាប) เป็นเมืองในประเทศกัมพูชา มีฐานะเป็นเมืองเอกของจังหวัดเสียมราฐ (เทียบได้กับอำเภอเมืองของจังหวัดในประเทศไทย) มีประชากรประมาณ 171,800 คน[3] เมืองเสียมราฐเป็นที่รู้จักกันดีเนื่องจากตั้งอยู่ใกล้นครวัด นครธม และปราสาทขอมอื่น ๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของเมืองพระนคร แหล่งมรดกโลกของกัมพูชา
ประวัติ
[แก้]เมืองเสียบเรียบ หรือเสียมราฐ เป็นเมืองหลวงของจังหวัดเสียมเรียบทางตะวันตกเฉียงเหนือของกัมพูชา ถือเป็นประตูสู่พระนคร ชื่อเสียมเรียบ หมายความถึง สยามพ่ายแพ้ โดยผู้ที่ตั้งชื่อเมืองแห่งนี้ คือ สมเด็จพระอุทัยราชา (นักองค์จัน) ผู้มีพระทัยฝักใฝ่กับเวียดนามในยามที่เขมรยังมีสถานะเป็นเมืองขึ้นของสยามในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 เดิมเสียมเรียบเป็นเพียงเมืองเล็กๆ ในชนบท และแม้จะอยู่ไม่ไกลจากเมืองพระนคร แต่พื้นที่แทบนี้จะไม่มีโบราณสถานใดๆ ฝรั่งเศส เริ่มรู้จักเสียมเรียบในปี ค.ศ. 1907 หลังจากนั้นเสียมเรียบก็เติมโตขึ้นเรื่อยๆ โดยทำหน้าที่เป็นเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้มาเยี่ยมเยือนเมืองพระนคร เพราะเสียมเรียบมีโรงแรมใหญ่มาตั้งเป็นแห่งแรกๆ ในปี ค.ศ. 1929 ได้แก่ Grand Hotel d’Angkor มีคนดังระดับโลกมาพักมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแจ็คเกอลีน เคนเนดี้ โอนาสซิส หรือชาร์ลี แชปลิน ฯลฯ หลังปี ค.ศ. 1975 ในยุครัฐบาลเขมรแดง คนในเสียมเรียบ ถูกกวาดต้อนออกไปทำไร่ไถนาในท้องถิ่นชนบท ทำให้เสียมเรียบกลายเป็นเมืองร้างอยู่หลายปี กระทั่งเขมรแดงหมดอำนาจ เสียมเรียบจึงกลับมามีบทบาทในฐานะเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของกัมพูชาอีกครั้ง มีที่พักทุกระดับเปิดให้บริการ รวมทั้งสิ่งที่รองรับนักท่องเที่ยวอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ย่านชอปปิง และท่าอากาศยานนานาชาติ
สถานที่ท่องเที่ยว
[แก้]เมืองพระนคร
[แก้]เมืองพระนคร (เขมร: ក្រុងអង្គរ) ปัจจุบันอยู่ในเขตจังหวัดเสียมเรียบ ห่างจากกรุงพนมเปญไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 310 กิโลเมตร ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางแห่งอาณาจักรเขมรอันรุ่งเรือง ซึ่งเริ่มก่อตั้งในคริสต์ศตวรรษที่ 9 ก่อนจะถูกทับสยามรุกรานในคริสต์ศตวรรษที่ 15 จนต้องมีการอพยพยกย้ายไปตั้งนครหลวงแห่งใหม่ กุญแจสำคัญในความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรแห่งนี้คือ การที่กษัตริย์เขมรสามารถ วางระบบการจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ ประชาชนจึงพากันมาอยู่อาศัยทำกิน ทำให้อำนาจ และมีบารมีของกษัตริย์หลายรัชสมัยมีความมั่นคงและแผ่ขยายออกไป สิ่งที่ยืนยันความรุ่งเรืองของดินแดนเขมรและอำนาจอันไพศาลของกษัตริย์คือ หมู่เทวสถานที่สร้างขึ้นอย่างหนาแน่น ในปี ค.ศ. 1992 องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโกยกย่องให้เมืองแห่งนี้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม โดยในเขตเมืองพระนคร ประกอบด้วย โบราณสถานที่สำคัญหลายแห่ง
นครวัด
[แก้]![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/f/f5/Buddhist_monks_in_front_of_the_Angkor_Wat.jpg/260px-Buddhist_monks_in_front_of_the_Angkor_Wat.jpg)
นครวัด (เขมร: អង្គរវត្ត) เป็นศาสนสถาน เริ่มสร้างในรัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2[4] ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 12 โดยเป็นศาสนสถานประจำพระนครของพระองค์ ตัวเทวสถานได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี จนเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่สำคัญเพียงแห่งเดียวที่ยังเหลือรอดมาจนถึงปัจจุบันนับตั้งแต่ก่อสร้างแล้วเสร็จ แต่เดิมนครวัดเป็นเทวสถานของศาสนาฮินดูซึ่งสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระวิษณุ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นศาสนสถานของศาสนาพุทธ[5] นครวัดเป็นสิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ตัวเทวสถานถือเป็นที่สุดของสถาปัตยกรรมเขมรสมัยรุ่งเรือง และได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชา[6] โดยปรากฏในธงชาติกัมพูชาและเป็นจุดท่องเที่ยวหลักของประเทศตลอดจนได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลก ภายใต้ชื่อ เมืองพระนคร ปราสาทนครวัดเป็นสิ่งก่อสร้างในช่วงยุครุ่งเรืองของอาณาจักรขะแมร์โดยมีหินทรายเป็นวัสดุก่อสร้างหลัก[7]
นครธม
[แก้]![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/5/5e/Angkor%2C_Bayon_%286198899442%29.jpg/220px-Angkor%2C_Bayon_%286198899442%29.jpg)
นครธม (เขมร: អង្គរធំ) ตั้งอยู่ทางฝั่งขวาของแม่น้ำเสียมเรียบ เป็นเมืองหลวงแห่งสุดท้ายและเมืองที่เข้มแข็งที่สุดของอาณาจักรขะแมร์ สถาปนาขึ้นในปลายคริสต์ศวรรษที่ 12 โดยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 มีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่ 9 ตารางกิโลเมตร อยู่ทางทิศเหนือของ นครวัด ภายในเมืองมีสิ่งก่อสร้างมากมายนับแต่สมัยแรกๆ และที่สร้างโดยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 และรัชทายาท ใจกลางพระนครเป็นปราสาทหลักของพระเจ้าชัยวรมัน เรียกว่า ปราสาทบายน และมีพื้นที่สำคัญอื่นๆ รายล้อมพื้นที่ชัยภูมิถัดไปทางเหนือ
ปราสาทบายน
[แก้]ปราสาทบายน (เขมร: ប្រាសាទបាយ័ន) เป็นศูนย์กลางของนครธม เป็นปราสาทหลวงประจำรัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7และเป็นการพลิกรูปแบบของการสร้างปราสาทในกัมพูชา ด้วยปราสาทบายนแสดงถึงความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาแบบมหายานของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ซึ่งแผกไปจากกษัตริย์พระองค์ก่อน แห่งอาณาจักรนี้ที่สร้างศาสนสถานเพื่อแสดงถึงศรัทธาในศาสนาฮินดู ปราทสาทบายนประกอบด้วยองค์ปราสาท ตั้งอยู่บนฐานซ้อนสามชั้น สมมุติให้เป็นทิพยสถานของเทพเจ้าบนยอดเขาพระสุเมรุด้วยปรางค์จตุรมุข สลักเป็นรูปพระพักตร์พระโพธิสัตว์ อวโลกิเตศวรขนาดใหญ่กว่า 200 พักตร์ รวม 54 ปรางค์ หันพระพักตร์ออกไปทั้งสี่ทิศ เพื่อสอดส่องดูแลความทุกข์ของเหล่าพสกนิกรให้อยู่เย็นเป็นสุข รอยยิ้มบนพระพักตร์พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเรียกว่า ยิ้มแบบบายน ซึ่งเปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณา ภาพจำหลักในปราสาทบายน แสดงเรื่องราวในชีวิตประจำวัน สงครามกับจามปา รวมทั้งเทพเจ้าอินเดีย ซึ่งถือเป็นลักษณะพิเศษอย่างหนึ่งของศิลปะแบบบายน คือการที่ภาพจำหลักมีการแสดงเรื่องราวในประวัติศาสตร์กัมพูชา แทนที่จะเป็นเหตุการณ์จากมหากาพย์รามยณะหรือวรรณกรรมอื่น อย่างปราสาทแห่งอื่นๆ ทำให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ถึงชีวิตของผู้คนในยุคนั้น เช่น ภาพชาวบ้านกำลังค้าขาย กินอาหาร เล่นการพนัน เลี้ยงเด็ก ดูแลคนแก่ ขี่เกวียน วัฒนธรรมประเพณี รวมทั้งเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งที่ยังคงพบเห็นได้ในชนบทของกัมพูชาในปัจจุบัน
ภูมิอากาศ
[แก้]เมืองเสียมราฐตั้งอยู่ในเขตร้อน มีภูมิอากาศแบบทุ่งหญ้าสะวันนา (Aw) ตามเกณฑ์การแบ่งภูมิอากาศโลกของการแบ่งเขตภูมิอากาศแบบเคิปเปน เป็นเมืองที่ร้อนตลอดปี มีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดไม่ต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียสในทุกเดือน เสียมราฐมีฤดูฝนที่ยาวมากซึ่งเริ่มในเดือนเมษายนและสิ้นสุดในเดือนพฤศจิกายน ฤดูแล้งครอบคลุมสี่เดือนที่เหลือ เมืองมีฝนตกประมาณ 1500 มิลลิเมตรต่อปี
ข้อมูลภูมิอากาศของเมืองเสียมราฐ (ปี 1997-2010) | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เดือน | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ทั้งปี |
อุณหภูมิสูงสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | 35.0 (95) |
36.7 (98.1) |
38.9 (102) |
39.4 (102.9) |
40.6 (105.1) |
38.9 (102) |
35.6 (96.1) |
35.0 (95) |
34.4 (93.9) |
33.9 (93) |
34.4 (93.9) |
34.4 (93.9) |
40.6 (105.1) |
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) | 31.7 (89.1) |
33.5 (92.3) |
34.9 (94.8) |
35.8 (96.4) |
34.8 (94.6) |
33.6 (92.5) |
32.9 (91.2) |
32.4 (90.3) |
31.7 (89.1) |
31.5 (88.7) |
31.2 (88.2) |
30.6 (87.1) |
32.9 (91.2) |
อุณหภูมิเฉลี่ยแต่ละวัน °C (°F) | 26.0 (78.8) |
27.8 (82) |
29.5 (85.1) |
30.5 (86.9) |
29.9 (85.8) |
29.2 (84.6) |
28.9 (84) |
28.8 (83.8) |
28.1 (82.6) |
28.0 (82.4) |
26.9 (80.4) |
25.6 (78.1) |
28.3 (82.9) |
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) | 20.4 (68.7) |
22.4 (72.3) |
24.1 (75.4) |
25.4 (77.7) |
25.4 (77.7) |
25.1 (77.2) |
24.9 (76.8) |
25.1 (77.2) |
24.7 (76.5) |
24.5 (76.1) |
22.6 (72.7) |
20.7 (69.3) |
23.8 (74.8) |
อุณหภูมิต่ำสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | 9.4 (48.9) |
12.8 (55) |
15.0 (59) |
17.8 (64) |
18.9 (66) |
17.8 (64) |
18.9 (66) |
18.9 (66) |
20.0 (68) |
17.2 (63) |
12.2 (54) |
10.0 (50) |
9.4 (48.9) |
ปริมาณฝน มม (นิ้ว) | 3.7 (0.146) |
4.7 (0.185) |
29.0 (1.142) |
57.3 (2.256) |
149.7 (5.894) |
214.1 (8.429) |
192.6 (7.583) |
208.9 (8.224) |
287.7 (11.327) |
199.6 (7.858) |
51.3 (2.02) |
7.3 (0.287) |
1,405.9 (55.35) |
ความชื้นร้อยละ | 59 | 59 | 58 | 59 | 66 | 70 | 71 | 73 | 75 | 75 | 68 | 64 | 66.4 |
วันที่มีฝนตกโดยเฉลี่ย (≥ 0.1 mm) | 1.5 | 0.7 | 3.2 | 7.6 | 17.0 | 18.0 | 17.6 | 17.6 | 17.4 | 15.4 | 6.4 | 2.0 | 124.4 |
แหล่งที่มา: Deutscher Wetterdienst[8] |
การเดินทาง
[แก้]เมืองนี้อยู่ห่างจากท่าอากาศยานนานาชาติเสียมราฐ 7 กิโลเมตร และสามารถเดินทางไปได้ด้วยเที่ยวบินตรงจากเมืองในเอเชีย จากกรุงพนมเปญ หรือจากชายแดนไทย นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางโดยเรือผ่านโตนเลสาป และรถบัสจากพนมเปญและพระตะบอง หรือเดินทางจากกรุงเทพฯไปเสียมราฐผ่านอำเภออรัญประเทศเข้าด่านปอยเปต แล้วเดินทางจากปอตเปตไปยังเสียมราฐ[9]
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/b/b8/Siem_Reap_Pubstreet.jpg/220px-Siem_Reap_Pubstreet.jpg)
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/6/6a/Thais_return_Battambang_to_King_Sisowath.jpg/220px-Thais_return_Battambang_to_King_Sisowath.jpg)
เมืองพี่น้อง
[แก้]พุกาม, เมียนมาร์[10]
ฟงแตนโบล, ฝรั่งเศส, ตั้งแต่ 11 มิถุนายน 2000
ซังต์ กัวล์, เยอรมัน, ตั้งแต่ 13 พฤษภาคม 2015
โคตะ, ไอจิ ญี่ปุ่น[11]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Glasser, Miranda (14 September 2012). "Temple Town, Cambodia's new ladyboy capital". Phnom Penh Post. สืบค้นเมื่อ 14 December 2015.
- ↑ "Chapter 2: Spatial Distribution and Density of Population" (PDF). Statistics Japan.
- ↑ [1] จากเว็บไซต์ประจำเมืองเสียมราฐ
- ↑ Higham, C. (2014). Early Mainland Southeast Asia. Bangkok: River Books Co., Ltd. pp. 372, 378–379. ISBN 978-616-7339-44-3.
- ↑ Ashley M. Richter (8 September 2009). "Recycling Monuments: The Hinduism/Buddhism Switch at Angkor". CyArk. สืบค้นเมื่อ 7 June 2015.
- ↑ "Government ::Cambodia". CIA World Factbook.
- ↑ "Cambodia's Angkor Wat Breaking Records for Visitors Again | News from Tourism Cambodia". Tourism of Cambodia.
- ↑ "Klimatafel von Siemreap-Angkor / Kambodscha" (PDF). Baseline climate means (1961-1990) from stations all over the world (ภาษาเยอรมัน). Deutscher Wetterdienst. สืบค้นเมื่อ 23 January 2016.
- ↑ "Cambodia eyes new airport for Siem Reap". สืบค้นเมื่อ 2010-09-22.
- ↑ "?". Myanmar.gov.mm.
- ↑ "Local Government International Exchange: Sister city information Database". Council of Local Authorities for International Relations (CLAIR). สืบค้นเมื่อ 21 November 2015.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้] วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ เสียมราฐ
(อังกฤษ)