ปลาหูช้าง
ปลาหูช้าง ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: อีโอซีน-ปัจจุบัน | |
---|---|
ปลาหูช้างครีบยาว (P. teira) ที่มอริเชียส | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Actinopterygii |
อันดับ: | Perciformes |
อันดับย่อย: | Acanthuroidei |
วงศ์: | Ephippidae |
สกุล: | Platax Cuvier, 1816 |
ชนิดต้นแบบ | |
Chaetodon teira Bloch & Schneider, 1801 | |
ชนิด | |
|
ปลาหูช้าง[1] หรือ ปลาค้างคาว (อังกฤษ: Batfishes) เป็นสกุลของปลาทะเลในสกุล Platax [1]จัดอยู่ในวงศ์ Ephippidae หรือวงศ์ปลาหูช้าง
คำว่า Platax มาจากคำว่า "Platys" ซึ่งเป็นภาษากรีก มีความหมายว่า "แบน" หมายถึงรูปร่างที่แบนข้างโดยทั่วไปของปลาสกุลนี้ โดยมีชื่อสามัญที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า "ปลาค้างคาว" อันเนื่องจากรูปร่างที่แลดูคล้ายค้างคาวมาก โดยเฉพาะเมื่อยามเป็นปลาวัยอ่อน[2]
ปลาหูช้าง กระจายพันธุ์อยู่ตามแนวปะการังและซากเรือจมหรือเศษวัสดุต่าง ๆ ในท้องทะเล[3] พบกระจายพันธุ์ในเขตอินโด-แปซิฟิก, ทะเลแดง จนถึงภาคตะวันออกของออสเตรเลีย, ทางเหนือของเกาะริวกิว และพบได้ในมหาสมุทรแอตแลนติก และทะเลแคริบเบียน[3][4]
ปลาหูช้าง ขยายพันธุ์ด้วยการออกไข่แบบปล่อยลอยตามน้ำ เมื่อฟักเป็นตัวอ่อน จะใช้ชีวิตล่องลอยแบบแพลงก์ตอน จนเจริญเติบโตขึ้นมาอีกระดับลงสู่พื้น โดยมากจะอาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเลในเขตที่เป็นรอยต่อระหว่างน้ำจืดและน้ำเค็ม มีรูปร่างลักษณะคล้ายค้างคาวหรือใบไม้สีน้ำตาลแก่มาก[5] บางชนิดเข้ามาอยู่ในแนวปะการัง มีครีบหลังและครีบท้องยาวมาก ลูกปลาหูช้างมักอยู่ตามพื้นด้านนอกแนวปะการังตอนกลางวัน กลางคืนถึงเข้ามาในแนวปะการัง อยู่ตามชายขอบแนวในที่ลึก อยู่นิ่ง ๆ ตามพื้นเพื่อหลบผู้ล่าตอนกลางคืน เนื่องจากเป็นปลาที่หากินในเวลากลางวัน[6]
เป็นปลาที่นิยมเลี้ยงกันเป็นปลาสวยงามและเลี้ยงเพื่อแสดงตามพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ และนิยมบริโภคกันในท้องถิ่น ทำให้ในปัจจุบัน ปลาหูช้างพบได้น้อยลง
แบ่งออกได้เป็น 5 ชนิด ได้แก่
- Platax batavianus Cuvier, 1831
- Platax boersii Bleeker, 1852
- Platax orbicularis (Forsskål, 1775)
- Platax pinnatus (Linnaeus, 1758)
- Platax teira (Forsskål, 1775)
- Platax altissimus Agassiz, 1842
- Platax macropterygious Agassiz, 1842
- Platax papilio Agassiz, 1842
- Platax woodwardii Agassiz, 1842
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 "หูช้าง". ราชบัณฑิตยสถาน. 13 March 2014. สืบค้นเมื่อ 13 March 2014.
- ↑ Cuvier, Georges (1816). Le Règne Animal distribué d'après son organisation pour servir de base à l'histoire naturelle des animaux et d'introduction à l'anatomie comparée. Les reptiles, les poissons, les mollusques et les annélides. Règne Animal (ed. 1) i-xviii (1st ed.). p. 532.
- ↑ 3.0 3.1 Myers, R. F. (1991). Micronesian reef fish (2nd ed.). Barrigada, Guam: Coral Graphics. p. 298.
- ↑ Pickrell, John (2004-06-01). "Freed pet fish threaten native species, study says". National Geographic News. National Geographic. สืบค้นเมื่อ 2009-01-13.
- ↑ นันทวัฒน์ โชติสุวรรณ, ปลาทะเลสวยงาม ที่เพาะพันธุ์ได้ ในประเทศไทย คอลัมน์ "Blue Planet" หน้า 137. นิตยสาร Aquarium Biz ปีที่ 2 ฉบับที่ 21: มีนาคม 2012
- ↑ "ปลาค้างคาว". jintawitshop.tripod.com/. 13 March 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-06. สืบค้นเมื่อ 13 March 2014.
{{cite web}}
: ระบุ|archivedate=
และ|archive-date=
มากกว่าหนึ่งรายการ (help); ระบุ|archiveurl=
และ|archive-url=
มากกว่าหนึ่งรายการ (help) - ↑ Paleobiology Database[ลิงก์เสีย]
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Platax ที่วิกิสปีชีส์