ข้ามไปเนื้อหา

บิริริดามะ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
บิริริดามะ
ตัวละครใน โปเกมอน
ไฟล์:Pokémon Voltorb art.png
ภาพอาร์ตเวิร์กของบิริริดามะโดยเค็ง ซูงิโมริ
เกมครั้งแรกโปเกมอน เรดและบลู (1996)
สร้างโดยเค็ง ซูงิโมริ[1]
ออกแบบโดยเค็ง ซูงิโมริ (ต้นฉบับ)[1]
ให้เสียงโดยJA: คัตสึยูกิ โคนิชิ[2]
ข้อมูลตัวละครในเรื่อง
เผ่าพันธุ์โปเกมอน
ประเภทไฟฟ้า
ไฟฟ้าและหญ้า(ฮิซุย)

บิริริดามะ (ญี่ปุ่น: Biriridamaโรมาจิビリリダマ) หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า โวลทอร์บ (/ˈvɔːltɔːrb/) เป็นสายพันธุ์โปเกมอน ในแฟรนไชส์ โปเกมอน ของนินเท็นโด และเกมฟรีก ปรากฏตัวครั้งแรกในเกม โปเกมอน เรดและบลู ออกแบบโดย เค็ง ซูงิโมริ และเป็นหนึ่งในโปเกมอนจากแนวคิดการออกแบบเกมยุคแรกสุด นับตั้งแต่การปรากฏตัวครั้งแรก พวกมันก็ได้ปรากฏในเกมต่าง ๆ มากมาย รวมถึง โปเกมอน โก และโปเกมอน เทรดดิงการ์ดเกม รวมไปถึงสินค้าต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับแฟรนไชส์ ถึงแม้ว่าคัตสึยูกิ โคนิชิจะได้รับเครดิตให้เป็นผู้ให้เสียงพากย์เป็นภาษาญี่ปุ่นแต่ไม่มีผู้ให้เสียงพากย์ภาษาอังกฤษที่ได้รับการระบุชื่ออย่างเป็นทางการ

บิริริดามะเป็นโปเกมอนประเภทไฟฟ้า มีรูปร่างทรงกลมและลักษณะคล้าย โปเกบอล ทำให้มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นไอเท็มภายในเกม และเมื่อถูกกระแทก มันอาจปล่อยกระแสไฟฟ้าหรือระเบิด ภายหลังมีการเปิดตัวร่างระดับภูมิภาคใน โปเกมอนเลเจนด์ อาร์เซอุส เรียกว่า บิริริดามะฮิซุย (Hisuian Voltorb) ซึ่งคล้ายกับโปเกบอลของภูมิภาคนั้น และจัดประเภทเป็นทั้งประเภทไฟฟ้าและประเภทหญ้า บิริริดามะสามารถวิวัฒนาการไปเป็น อิเล็กโทรด หรือมารุไมน์ ผ่านค่าประสบการณ์หรือการใช้ไอเทม "หินใบไม้" (Leaf Stone) ก็ได้ ด้วยความเป็นที่นิยม บิริริดามะยังถูกใช้เป็นมาสคอตในโปรโมชันต่าง ๆ ทั่วญี่ปุ่น

บิริริดามะได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับการออกแบบที่เรียบง่าย ซึ่งถูกมองว่าเป็นหนึ่งในการออกแบบที่อ่อนแอที่สุดของแฟรนไชส์ และยังถูกยกให้เป็นตัวอย่างของข้อบกพร่องในการออกแบบโปเกมอนเรดและบลู เมื่อเทียบกับดีไซน์ที่พัฒนาขึ้นในภาคหลัง ๆ อย่างไรก็ตามนักวิจารณ์บางส่วนยังคงชื่นชมแง่มุมบางประการของบิริริดามะ ไม่เพียงแค่เมื่อเปรียบเทียบกับอิเล็กโทรดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบทบาทของมันในฐานะโปเกมอนที่มีลักษณะเลียนแบบ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในเกมแนวเล่นตามบทบาทคลาสสิก นอกจากนี้ บางแหล่งยังให้เครดิตว่าบิริริดามะช่วยวางรากฐานให้กับแนวคิดการออกแบบโปเกมอนที่อิงจากวัตถุต่าง ๆ ในชีวิตจริง และการที่แฟน ๆ สร้างทฤษฎีเกี่ยวกับมันก็ยิ่งช่วยเสริมความลึกซึ้งให้กับแฟรนไชส์ ในทางกลับกัน บิริริดามะฮิซุยได้รับการตอบรับที่ดีกว่า เนื่องจากดีไซน์ที่สดใสขึ้นและแนวคิดที่เข้ากับธีมของภูมิภาคฮิซุย รวมถึงการสร้างประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับต้นกำเนิดของมันว่า อะไรมาก่อนกัน ระหว่างบิริริดามะกับโปเกบอล

แนวคิดและการออกแบบ

[แก้]

บิริริดามะเป็นสายพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในจินตนาการที่เรียกว่าโปเกมอน ถูกสร้างขึ้นให้กับแฟรนไชส์สื่อ โปเกมอน แฟรนไชส์ญี่ปุ่นได้รับการพัฒนาโดยเกมฟรีก และเผยแพร่โดยนินเท็นโด เปิดตัวในปี 1996 ผ่านวิดีโอเกม โปเกมอน เรด และ กรีน สำหรับ เกมบอย ก่อนจะวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือในชื่อ โปเกมอน เรด และ บลู ในปี 1998 ในเกมหลักและภาคต่อ ผู้เล่นจะสวมบทบาทเป็นเทรนเนอร์ที่จับและฝึกโปเกมอนเพื่อใช้ต่อสู้กับโปเกมอนตัวอื่น โปเกมอนบางตัวสามารถวิวัฒนาการเป็นร่างที่แข็งแกร่งขึ้นได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า วิวัฒนาการ ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น การใช้ไอเท็มเฉพาะ[3] โปเกมอนแต่ละตัวอาจมีหนึ่งประเภทหรือสองประเภท ซึ่งส่งผลต่อจุดแข็งและจุดอ่อนในการต่อสู้กับโปเกมอนประเภทอื่น[4] เป้าหมายหลักของเกมคือการเติมเต็มสมุดภาพโปเกมอน (Pokedex) ซึ่งเป็นสารานุกรมโปเกมอน โดยการจับ พัฒนา และแลกเปลี่ยนโปเกมอนกับเทรนเนอร์คนอื่นเพื่อรวบรวมให้ครบทุกสายพันธุ์[3]

บิริริดามะสร้างโดย เค็ง ซูงิโมริ และเป็นหนึ่งในโปเกมอนตัวแรก ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงวางแผนเกมภาคเรด และบลู ตั้งแต่สมัยที่เกมมีชื่อว่า แคปซูลมอนสเตอส์ (Capsule Monsters) โดยสามารถพบเห็นได้ในสไปรต์อาร์ตต้นแบบ ระหว่างการพัฒนาเกม มีการเลือกใช้สีเดียวเพื่อให้เหมาะกับข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ของซูเปอร์เกมบอย [5] ขนาดของบิริริดามะถูกปรับลดลงในช่วงกระบวนการคัดเลือกโปเกมอนที่จะรวมอยู่ในเกมขั้นสุดท้าย จากการสำรวจของบริษัท บิริริดามะอยู่ในอันดับที่ 21 จากแบบร่างประมาณ 80 แบบที่ถูกเสนอในขณะนั้น[6] [7] หลังจากการพัฒนาเสร็จสิ้น เค็ง ซูงิโมริได้วาดโปเกมอนสายพันธุ์ใหม่ รวมถึงสายพันธุ์อื่น ๆ ด้วยสไตล์ศิลปะเฉพาะตัวของเขา เพื่อให้เกมมีเอกลักษณ์และสรุปองค์ประกอบการออกแบบให้สมบูรณ์[8]

ไฟล์:Voltorb Hisuian Form.png
เมื่อเปรียบเทียบกับ บิริริดามะทั่วไปแล้ว รูปแบบฮิซุยได้รับการตอบรับในเชิงบวกมากกว่า เนื่องจากความร่าเริงของโปเกมอน [9]

บิริริดามะเป็นโปเกมอนทรงกลมคล้ายลูกบอล มีความสูง 1 ฟุต 8 นิ้ว (51 ซม.) โดยครึ่งบนเป็นสีแดงและครึ่งล่างเป็นสีขาว ลักษณะเด่นของมันคือดวงตาสองดวงบริเวณส่วนบนด้านหน้า ซึ่งมักจ้องมองด้วยท่าทางโกรธเคืองอยู่เสมอ[10] บิริริดามะมีร่าง "ไชนี" (shiny) ที่หายากกว่า ตัวเป็นสีน้ำเงินแทนที่จะเป็นสีแดง [11] จัดเป็นโปเกมอนประเภท "ไฟฟ้า" มีรูปร่างคล้ายโปเกบอล ไม่มีเพศ และมักอาศัยอยู่ในโรงงานผลิตโปเกบอล บิริริดามะเคลื่อนที่โดยการกลิ้ง และอาจปล่อยกระแสไฟฟ้าช็อตผู้ที่อยู่ใกล้ หรือระเบิดจากแรงกระแทกกะทันหัน เมื่อได้รับประสบการณ์เพียงพอ มันสามารถวิวัฒนาการเป็นมารุไมน์ หรืออิเล็กโทรด (Electrode) ได้[10] ในญี่ปุ่น เรียกว่าบิริริดามะ แต่เมื่อนำเกมไปแปลสำหรับผู้เล่นฝั่งตะวันตก นินเทนโดตัดสินใจตั้งชื่อโปเกมอนแต่ละสายพันธุ์ให้สื่อถึงลักษณะภายนอกหรือคุณสมบัติเฉพาะตัว เพื่อให้เข้าถึงเด็กอเมริกันได้ง่ายขึ้น[12] ทำให้พวกมันถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "โวลทอร์บ" (Voltorb) เนื่องมาจากรูปร่างทรงกลมและมีคุณสมบัติทางไฟฟ้า[13]

ในการพัฒนา โปเกมอนเลเจนด์ อาร์เซอุส ในปี 2022 ได้แนะนำ "รูปแบบฮิซุย" (Hisuian Form) ซึ่งเป็นร่างประจำภูมิภาคของโปเกมอนบางตัวที่ปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของภูมิภาคฮิซุย บิริริดามะเป็นหนึ่งในโปเกมอนที่ได้รับร่างใหม่นี้ เนื่องจากได้รับประเภท 'หญ้า' เพิ่มเติม บิริริดามะฮิซุยจึงมีการออกแบบที่แตกต่างออกไป โดยมีดวงตาทรงเหลี่ยมที่ดูสดใส และพื้นผิวลายไม้ แทนที่จะเป็นโลหะเหมือนบิริริดามะปกติ ซึ่งสะท้อนถึงรูปลักษณ์ของโปเกบอลในยุคฮิซุย นอกจากนี้ บิริริดามะฮิซุยยังมีรูบนหัว ซึ่งใช้สร้างเมล็ดพืชหรือปล่อยกระแสไฟฟ้าเมื่อถูกกระตุ้น ต่างจากบิริริดามะทั่วไปที่วิวัฒนาการด้วยค่าประสบการณ์ บิริริดามะฮิซุยต้องใช้ไอเท็ม 'หินใบไม้' (Leaf Stone) เพื่อพัฒนาเป็นอิเล็กโทรดของภูมิภาคฮิซุย นอกจากนี้ ร่างไชนีของบิริริดามะฮิซุยมีสีดำด้านบนแทนที่จะเป็นสีน้ำเงิน[14]

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1.0 1.1 "増田氏が語る、ゲームフリークが 世界で通じる会社になるまで". Weekly Famitsu (ภาษาJapanese). No. 1590. 23 May 2019. pp. 98–106.{{cite magazine}}: CS1 maint: unrecognized language (ลิงก์)
  2. "こにし かつゆき 小西克幸". Maumau (ภาษาJapanese). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 13, 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-12-12.{{cite web}}: CS1 maint: unrecognized language (ลิงก์)
  3. 3.0 3.1 Allison, Anne (May 2006). Millennial Monsters: Japanese Toys and the Global Imagination. University of California Press. pp. 192–197. ISBN 9780520938991.
  4. Pokémon Deluxe Essential Handbook. Scholastic Inc. July 28, 2015. p. 5. ISBN 9780545795661.
  5. Morrissy, Kim. "Pokémon Designers Reflect on History of Eevee's Design". Anime News Network. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-11-26. สืบค้นเมื่อ 18 August 2020.
  6. Shotaro, Miya (2004). "Chapter 5: A Series of Problems". Satoshi Tajiri, The Man Who Made Pokémon. Ohta Publishing. p. 123. ISBN 4872338332.
  7. ゲームフリーク―遊びの世界標準を塗り替えるクリエイティブ集団 [Game Freak - A Creative Group That Redefines the Global Standard of Entertainment] (ภาษาJapanese). Akihito Tomisawa. August 2000. pp. 106–107. ISBN 9784840101189.{{cite book}}: CS1 maint: unrecognized language (ลิงก์)
  8. Ken Sugimori Works (ภาษาJapanese). Tankobon Softcover. January 2014. pp. 342–343. ISBN 9784198638061.{{cite book}}: CS1 maint: unrecognized language (ลิงก์)
  9. Koepp, Brian (2021-12-10). "Pokemon Legends Arceus fans are obsessed with Hisuian Voltorb already". Dexerto. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 4, 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-12-04.
  10. 10.0 10.1 "Voltorb - Pokédex". Pokemon.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 4, 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-12-03.
  11. "『ポケモン』青いポケモンマニア登場!色違い青いビリリダマに興味津々 【第81話場面カット公開】". Oricon News (ภาษาJapanese). 2021-09-16. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 10, 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-12-10.{{cite web}}: CS1 maint: unrecognized language (ลิงก์)
  12. Howard Chua-Euan; Tim Larimer (1999-11-22). "PokéMania". Time. Vol. 154 no. 20. CNN. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 4, 2016. สืบค้นเมื่อ 2018-01-04.
  13. "Pokémon Strategy Guide - #100 Voltorb". IGN. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2006-06-29. สืบค้นเมื่อ 2023-11-27.
  14. Edwards, Ashley (2022-02-23). "Pokémon Legends: Arceus - How To Get Hisuian Electrode". ScreenRant. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 28, 2022. สืบค้นเมื่อ 2023-12-10.