บางจะเกร็ง (รายการโทรทัศน์)
บางจะเกร็ง | |
---|---|
ภาพสัญลักษณ์รายการ บางจะเกร็ง แบบที่ 2ในอดีต | |
ประเภท | วาไรตี้โชว์ซิทคอม |
สร้างโดย | ลักษ์ 666 |
พัฒนาโดย | บริษัท ลักษ์ 666 จำกัด บริษัท อควา เทเลวิชั่น จำกัด |
พิธีกร | เกียรติศักดิ์ อุดมนาค นาคร ศิลาชัย วิลลี่ แมคอินทอช โก๊ะตี๋ อารามบอย |
ภาษาต้นฉบับ | ไทย |
จำนวนตอน | 46 ตอน |
การผลิต | |
ความยาวตอน | 55 นาที |
ออกอากาศ | |
เครือข่าย | สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 |
ออกอากาศ | 5 มกราคม – 28 ธันวาคม 2552 |
การแสดงที่เกี่ยวข้อง | |
ฮาจะเกร็ง |
บางจะเกร็ง เป็นรายการโทรทัศน์แนวตลกผลิตโดย บริษัท ลักษ์ 666 จำกัด และ บริษัท อควา เทเลวิชั่น จำกัด โดยออกอากาศทุกวันจันทร์ เวลา 22.25 น. ถึง 23.20 น. ทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2552 และสิ้นสุดออกอากาศเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2552
ผู้ดำเนินรายการ
[แก้]กติกา
[แก้]สำหรับรายการบางจะเกร็งนั้นจะให้แขกรับเชิญมาเล่นละครโดย 3 นักแสดงคือ เปิ้ล หอย และ โก๊ะตี๋ โดยที่แขกรับเชิญเกร็งหัวเราะโดยไม่เห็นฟัน ถ้าหัวเราะเห็นฟันหรือปิดปากตอนหัวเราะ คนแคระที่แต่งชุดเป็นเม่นทั้ง 3 หรือ 2 คน (ในกรณีที่คนแต่งชุดเม่นมาแสดงในละครของแต่ละตอน) แต่ในรายการจะเรียกว่าเจ้ายักษ์แห่งบางจะเกร็ง จะทำหน้าที่ตีแขกรับเชิญโดยอาวุธในการตีคือท่อแอร์และค้อนพลาสติกแต่บางครั้งจะตีผู้แสดงเองตามความสนุกของรายการ
ในวันที่ 5 มกราคม 2552 (เทปแรก) ถึงวันที่ 19 มกราคม 2552 จะไม่มีคนแคระที่แต่งชุดเป็นเม่น แต่จะแบ่งการวัดระดับความหัวเราะของแขกรับเชิญออกเป็น 5 ระดับ คือ ไม่ขำ (แขกรับเชิญไม่สามารถหัวเราะ) ขำน้อย (แขกรับเชิญหัวเราะโดยการแอบยิ้ม ไม่ให้กล้องเห็น และทำให้แขกรับเชิญเสียสมาธิในการเล่นละครเพียงเล็กน้อย ในระดับความตกใจเล็กๆ) ขำปานกลาง (แขกรับเชิญยิ้มและทำให้แขกรับเชิญเสียสมาธิในการเล่นละครในระดับน้อย) ขำมาก (แขกรับเชิญหัวเราะแต่สามารถสะกดอารมณ์หัวเราะได้และทำให้แขกรับเชิญเสียสมาธิในการเล่นละครในระดับปานกลาง) และ ขำที่สุด (แขกรับเชิญหลุดหัวเราะออกมา และไม่สามารถเล่นละครต่อไปได้)
บทลงโทษ
[แก้]หลังจากละครจบไปแล้วนั้น พิธีกรจะให้แขกรับเชิญเลือกคนที่ลงโทษมาโดยบอกว่าใครทำตลกน้อยที่สุดและเลือกคนที่ทำตลกได้น้อยที่สุดโดยก่อนจะถูกลงโทษนั้นแขกรับเชิญจะให้เลือกแผ่นป้ายทั้ง 5(ในเทปแรกมี 10 แผ่นป้าย) แผ่นป้ายซึ่งจะมีบทลงโทษต่างๆโดยการลงโทษนั้นแขกรับเชิญจะเลือกการตัดสินว่าใครถูกลงโทษโดยเหลือแค่ 2 คน อย่างไรก็ตามตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2552 จะเป็นการตัดสินรูปแบบจับฉลากเช่นการเป่ายิ้งฉุบ, การหยิบไม้สั้น-ไม้ยาว และตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2552 จะเป็นการหมุนวงล้อซึ่งจะมีสองส่วนด้วยกันคือส่วนแรกรูปใบหน้าของผู้ที่ลงโทษทั้ง 2 และส่วนที่ 2 จะเป็นวงล้อสีเขียวและสีส้ม (ภายหลังถูกเปลี่ยนเป็นวงล้อรูปแบบการจับฉลากกินแบ่งและส่วนบนมีข้อความต่างๆ) ซึงจะมีข้อความที่อยู่ส่วนบนนั้นจะมีอยู่ 3 กรณีด้วยกันคือ
- ดวงคุณดีมีทางรอด แต่ยังไม่ใช่วันนี้ (หมุนวงล้อได้หน้าใคร คนนั้นถูกลงโทษ)
- ดวงคุณกำลังซวย แต่เพื่อนช่วยมารับแทน (หมุนวงล้อได้หน้าใคร อีกคนถูกลงโทษ)
- ดวงคุณที่ว่าแย่ แต่ยังแพ้เป็นคนที่รอด (คนที่ถูกเลือกให้รอดในช่วงท้ายละครจะถูกลงโทษ)