ข้ามไปเนื้อหา

ซิมโฟนิกโพเอ็ม

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ซิมโฟนิกโพเอ็ม (Symphonic Poem) หรือ ซิมโฟนีนิพันธ์ เป็นรูปแบบดนตรีที่มีความยืดหยุ่นและอิสระ เป็นเพลงบรรเลงล้วน ไม่มีคำร้องใด มุ่งใช้เสียงดนตรีเป็นสิ่งบรรยายแทนเนื้อเพลง เปรียบเสมือนโคลงกลอนที่ถ่ายทอดด้วยเสียงเพลง เมื่อฟังจะสามารถจินตนาการเห็นภาพหรือเรื่องราวที่อยู่เบื้องหลังเสียงเพลง[1] เพลงแนวนี้สร้างสรรค์ขึ้นมาในศตวรรษที่ 19 เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวหรืออารมณ์ในเชิงวรรณกรรม บทกวี หรืองานศิลปะอื่น การแต่งจึงไม่เพียงแค่เน้นความงามของท่วงทำนอง แต่ยังมีเนื้อหาหรือเรื่องราวเป็นหัวใจหลักของบทเพลง โดยจะเป็นบทเพลงประเภทหนึ่งที่มีช่วงยาวต่อเนื่องแบบชิ้นเดียว ไม่แบ่งเป็นท่อนเหมือนซิมโฟนีทั่วไปหรือโอเปร่า

คีตกวีที่มีชื่อเสียงที่สุดเกี่ยวกับซิมโฟนิกโพเอ็มคือ ฟรันทซ์ ลิสท์ (Franz Liszt) ซึ่งถือเป็นผู้บุกเบิกแนวทางนี้[2] ลิซท์ได้เขียนบทเพลงที่มีการอิงบทกวี ตำนาน วรรณกรรม และศิลปะหลายชิ้น เช่น “Les Préludes” ที่มีต้นกำเนิดมาจากบทกวีของอาลฟงส์ เดอ ลามาร์ตีน ความสามารถในการเล่าเรื่องผ่านเสียงดนตรีทำให้ ซิมโฟนิกโพเอ็มกลายเป็นที่นิยมในวงการดนตรีคลาสสิก นอกจากนี้ โคลงซิมโฟนียังมีความหลากหลายในการนำเสนอเรื่องราว บทเพลงหนึ่งอาจแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ การต่อสู้ในตำนาน หรือแม้กระทั่งอารมณ์ที่ลึกซึ้งและซับซ้อนของมนุษย์

โคลงซิมโฟนีได้รับความนิยมระหว่างปี 1840 จนถึง 1920 หลังจากนั้นบรรดาคีตกวีก็เริ่มทอดทิ้งแนวทางนี้ อย่างไรก็ตาม ซิมโฟนิกโพเอ็มฟื้นคืนชีพอีกครั้งอย่างไม่คาดคิดภายหลังปี 1990 ในโลกของวิดีโอเกมญี่ปุ่น ดนตรีแนวนี้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการเสริมสร้างเรื่องราวและความลึกซึ้งทางอารมณ์ นักประพันธ์ดนตรีวิดีโอเกมชาวญี่ปุ่นชื่อดัง เช่น โนบูโอะ อูเอมัตสึ, โคจิ คนโด และโยโกะ ชิโมมูระ ได้รับการยกย่องจากการนำเทคนิคประพันธ์เพลงแบบซิมโฟนีมาสร้างสรรค์บรรยากาศเสียงที่น่าดื่มด่ำ ผลงานเหล่านี้คือการใช้ซิมโฟนิกโพเอ็ม ดนตรีไม่เพียงเป็นเสียงพื้นหลัง แต่เป็นส่วนหนึ่งของการเล่าเรื่องที่สะท้อนอารมณ์และเรื่องราวในเกม

ตัวอย่างซิมโฟนิกโพเอ็ม

[แก้]

โคลงซิมโฟนีที่มีชื่อเสียงที่สุดห้าอันดับแรก ได้แก่:

สะท้อนถึงการต่อสู้ระหว่างชีวิตกับโชคชะตา ลิสท์ได้รับแรงบันดาลใจจากบทกวีของ อาลฟงส์ เดอ ลามาร์ตีน

เป็นส่วนหนึ่งของชุด “Má vlast” บรรยายถึงแม่น้ำวัลตาวาที่ไหลผ่านภูมิประเทศในเช็กเกีย ทำนองแสดงถึงการเดินทางของสายน้ำ

งานนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือปรัชญาของฟรีดริช นีทเชอ ใช้เครื่องดนตรีเพื่อสะท้อนการวิวัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงในชีวิต

โด่งดังจากภาพยนตร์ Fantasia ของดิสนีย์ บทเพลงนี้เล่าเรื่องจากบทกวีของเกอเทอ เกี่ยวกับเด็กฝึกหัดพ่อมดที่เรียกน้ำท่วมโดยไม่ตั้งใจ

เป็นซิมโฟนิกโพเอ็มที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณของฟินแลนด์ในช่วงที่ต้องเผชิญกับการกดขี่ของรัสเซีย แสดงถึงการต่อสู้เพื่อเสรีภาพและอิสรภาพ

อ้างอิง

[แก้]
  1. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. Music of the Masters ฉบับที่ 122 ประจำเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2558
  2. Macdonald, New Grove (1980), 18:429.