ซง จุง-กี
ซง จุง-กี | |
---|---|
ซงในปี 2016 | |
เกิด | แทจ็อน เกาหลีใต้ | 19 กันยายน ค.ศ. 1985
การศึกษา | มหาวิทยาลัยซ็องกยุงกวัน |
อาชีพ |
|
ปีปฏิบัติงาน | 2008–ปัจจุบัน |
ตัวแทน | HighZium Studio |
ส่วนสูง | 1.78 m (5 ft 10 in) |
คู่สมรส | ซง ฮเย-กโย (สมรส 2017; หย่า 2019) เคที ลูอีซ ซอนเดิร์ส (สมรส 2023) |
บุตร | 1 คน |
ชื่อเกาหลี | |
ฮันกึล | |
ฮันจา | |
อาร์อาร์ | Song Jung-gi |
เอ็มอาร์ | Song Chungki |
ลายมือชื่อ | |
ซง จุง-กี (เกาหลี: 송중기; เกิด 19 กันยายน ค.ศ. 1985) เป็นนักแสดงและพิธีกรชาวเกาหลีใต้ เริ่มมีชื่อเสียงจากการแสดงซีรีส์ย้อนยุคเรื่อง บัณฑิตหน้าใส หัวใจว้าวุ่น และจากการเป็นพิธีกรรายการปกิณกะบันเทิง รันนิงแมน ซงได้แสดงบทนำในซีรีส์เรื่องแรกของเขาในปี 2012 คือ The Innocent Man และยังได้แสดงภาพยนตร์ที่ทำรายได้อย่างสูงเรื่อง วูฟบอย[1]
ภายหลังจากปลดประจำการ เขาได้รับบทนำในละครที่ได้รับความนิยมทั่วเอเชียเรื่อง ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อเธอ ละครเรื่องดังกล่าวได้รับความนิยมสูงมาก โดยได้รับเรตติงในตอนจบทั่วประเทศสูงถึง 38.8% และในเขตเมืองหลวง 41.6% จากข้อมูลของเนลสันเกาหลี[2] จากความนิยมที่พุ่งสูงขึ้นทั่วทั้งเกาหลีและเอเชีย ทำให้เขามีชื่อเสียงในระดับฮันรยู[3]
ชีวิตช่วงแรก
[แก้]เมื่อตอนที่ซง จุง-กี เรียนอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นเขาได้เข้าแข่งขันวิ่งสเกตแทร็กระยะสั้นระดับประเทศ โดยเป็นตัวแทนของแทจ็อน จุงกิมีส่วนร่วมในการแข่งขันระดับชาติถึงสามครั้งและชนะเลิศในการแข่งขันกีฬารายการใหญ่ ในปีแรกของการศึกษาในชั้นมัธยมปลาย อย่างไรก็ตาม เขาก็ได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นเขาก็ต้องออกจากวงการกีฬา เพราะฉะนั้นเขาจึงให้ความสนใจในเรื่องการเรียนของเขา ต่อมาซงก็ได้แสดงละครในบทบาทของนักสเกตน้ำแข็งทีมชาติในซีรีส์เรื่อง Triple
เพราะความที่เขามีบุคลิกลักษณะเป็นคนขี้อาย พ่อแม่ของเขาจึงส่งเขาเข้าไปเรียนในชั้นเรียนต่าง ๆ ประกอบไปด้วย ชั้นเรียนการแสดง เพื่อที่จะเพิ่มพูนทักษะทางด้านการเข้าสังคมของเขา ในระหว่างที่เขาศึกษาอยู่ชั้นปีที่สองในมหาวิทยาลัย ในสาขาบริหารธุรกิจที่เขาเรียน การเรียนของเขาก็เริ่มมีปัญหาเมื่อตอนที่เขาเข้าสู่การแสดงอย่างจริงจัง เขาปรากฏตัวครั้งแรกในวงการโทรทัศน์ในฐานะเป็นผู้เข้าแข่งขันในรายการ Quiz Korea ของช่องเคบีเอส และได้เข้าไปถึงรอบสุดท้าย (แต่ไม่ได้เป็นผู้ชนะ) และเขายังเป็นแบบขึ้นปกในนิตยสาร College Tomorrow
อาชีพ
[แก้]จุงกิเริ่มต้นงานด้านการแสดงในปี 2551 ในภาพยนตร์แนวพีเรียตเรื่อง อำนาจ ราคะ ใครจะหยุดได้ (A Frozen Flower) ในปีต่อมาเขาก็ได้ปรากฏตัวในภาพยนตร์เกี่ยวกับหนังสั้น 5เรื่อง หลากรสเกี่ยวกับความรักแนวอีโรติคเรื่อง สัมผัสรัก ร้อน ซ่อน เร้น (Five Senses of Eros) และต่อด้วยการได้รับบทบาทเล็ก ๆ ที่ไม่ใช่ตัวละครสำคัญในเรื่อง Triple และ อธิษฐานรัก ณ ปลายหนาว นอกจากนี้ เขายังได้เป็นพิธีกรประจำในรายการเพลงวันศุกร์ของช่องเคบีเอสในรายการ มิวสิกแบงก์ ปี 2552 ถึงปี 2553 และเป็นสมาชิกในรายการปกิณกะบันเทิงทางช่องเอสบีเอส ในรายการ รันนิงแมน ปี 2553 ถึงปี 2554 ภายหลังจากได้แสดงละครเกี่ยวกับการแพทย์ในปี 2553 เรื่อง OB/GYN Doctors,[4] และภาพยนตร์เกี่ยวกับสัตว์เรื่อง Hearty Paws 2,[5] ซงได้เขียนหนังสือ Beautiful Skin Project ซึ่งเป็นหนังสือขายดีเกี่ยวกับสุขภาพและความงามสำหรับผู้ชาย[6] ในที่สุดบทบาทเกี่ยวกับผู้มั่งคั่งในศตวรรษที่ 18 ของสมัยโชซอน เพลย์บอยในเรื่อง บัณฑิตหน้าใส หัวใจว้าวุ่น (Sungkyunkwan Scandal) ทำให้ซงเฉิดฉายความเป็นดาราพร้อมกับนักแสดงหนุ่มสาวในเรื่องนี้[7][8]
ในปลายปีพ.ศ. 2553 ซง จุง-กี ได้ขี่รถจักรยานเดินทางไปรอบ ๆ ซิดนีย์, ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งออกอากาศสองตอนทางโทรทัศน์ในรายการ ELLE at TV 'Star Velo[ต้องการอ้างอิง] และได้มีการถ่ายแฟชั่นให้กับนิตยสาร ELLE ด้วย[9] ยิ่งกว่านั้น ทีวีสเปเชียลของจุง-กี ทริปที่ไปญี่ปุ่นก็ตั้งชื่อว่า I'm Real: Song Joong-ki ออกอากาศเป็น 2 พาร์ทในช่วงต้นปี 2554[10] ในปี 2554 ซง จุง-กีได้รับบทบาทเป็นพิธีกรในรายการออดิชัน 'Made in U'[11]
ซงได้รับบทบาทเป็นหนุ่มตกงานและหนีหนี้ในภาพยนตร์โรแมนติกคอมมิดีแห่งปี 2554 เรื่อง หนุ่มหน้าใสกับยายจอมงก (Penny Pinchers)[12][13] การแสดงของเขาเรียกว่าเป็นไปได้อย่างไหลลื่นจาก ตลกโปกฮาสู่การแสดงอย่างมีเสน่ห์ดึงดูด, เป็นหนุ่มหล่อเสน่ห์แรงจนสาว ๆ ยอมสลบให้กับการมีพัฒนาการของเขาอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าเขาจะปรากฏตัวในละครเรื่อง Deep Rooted Tree เพียงแค่ 4 ตอน แต่นักวิจารณ์ก็ได้ชื่นชมจากการที่เขาแสดงเป็นพระเจ้าเซจงมหาราชในวัยหนุ่มโดยเรียกว่าการแสดงของอัจฉริยะผู้ซึ่ง "เข้าใจการไร้ประโยชน์ของอำนาจในช่วงต้นของชีวิต" และซุกซ่อนปกปิดในหนังสือของเขาเพื่อจัดการกับการพัฒนาขึ้นภายใต้อำนาจของทรราชย์ พระเจ้าแทจง พระบิดา[14][15]
จากรายการของช่องเอ็มบีซี รายการ Tears of the Earth ซึ่งเจาะลึกเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมบนโลกใบนี้ ซง จุง-กีได้บรรยายสารคดีเรื่อง Tears of the Antarctic 6 ตอน โดยเขาได้บริจาคเงินจากการพากษ์ทั้งหมดให้แก่ผู้ยากไร้[16][17] และเขายังเป็นนักพากย์ในซีรีส์ที่นำกลับมาทำใหม่และออกฉายในโรงภาพยนตร์เรื่อง Emperor Penguins Peng-yi and Som-yi[18][19][20]
ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2555 ซง จุง-กีได้ออกทัวร์ไป 6 ประเทศในทัวร์ที่มีชื่อว่า Song Joong-ki Asia Fan Meeting Tour - THRILL & LOVE ซึ่งเป็นงานพบปะแฟน ๆ ของเขาซึ่งจัดขึ้นในประเทศ ไทย, สิงคโปร์, จีน, ฮ่องกง, ไต้หวันและโซล, เกาหลีใต้[21][22][23][24]
ซง จุง-กีได้เล่นภาพยนตร์แนวแฟนตาซี โรแมนติก ทริลเลอร์เรื่อง A Werewolf Boy ซึ่งฉายครั้งแรกในงาน เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโทรอนโต 2012[25] ในการเตรียมตัวเพื่อแสดงในเรื่องนี้เขาได้ดูสารคดีธรรมชาติและสังเกตสุนัขเร่ร่อนบนท้องถนนเพื่อที่จะเลียนแบบการเคลื่อนไหวร่างกายของสัตว์เหล่านั้น[26][27] นอกจากนี้เขายังดู กอลลัม ในเรื่องเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์, ภาพยนตร์ของ แมต รีฟส์ เรื่อง Let Me In และ หนังโรแมนติกแฟนตาซีของ ทิม เบอร์ตัน เรื่อง เอ็ดเวิร์ด มือกรรไกร.[28][29] อีกด้วย ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นภาพยนตร์เริงรมย์ของเกาหลีใต้ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดตลอดกาล โดยมีการซื้อตั๋วเพื่อเข้าชมมากกว่า 7 ล้านใบ[30][1]
The Innocent Man (หรือชื่อ Nice Guy) เป็นครั้งแรกที่ซงเล่นซีรีส์ในบทนำ[31] ความเชื่อมั่นของเขาและบทบาทตัวเอกปฏิลักษณ์ (หรือ แอนตีฮีโร) ได้รับการวิจารณ์อย่างยอดเยี่ยม[32][33][34][35][36][37] The Innocent Man ดึงดูดผู้ชมจนมีเรตติ้งละครสูงและได้รับการวิจารณ์ไปในทางบวก ซึ่งประกอบกับที่เขาได้แสดงภาพยนตร์ที่มียอดรายได้สูงเรื่อง A Werewolf Boy ซึ่งเป็นตัวเชื่อมภาพลักษณ์ของเขาทั้งในจอเงินและจอแก้ว[38][1] และซงยังได้กล่าวว่า เขาอยากจะเป็นเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมมากกว่าที่จะเป็นเพียงแค่นักแสดงที่ได้รับความนิยมเท่านั้น และมีการวางแผนในอนาคตอย่างไม่รีบร้อนในการหาประสบการณ์อย่างต่อเนื่องอย่างที่เขาเป็นมาก่อน[39]
ในปัจจุบัน ซง จุง-กี เข้ารับการเกณฑ์ทหารโดยประจำการที่กรมทหารกองหนุน 102 เมืองชุนชอน ในวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556[40][41][42] โดยก่อนที่เข้าจะเกณฑ์ทหาร เขาได้จัดแฟนมีตติ้งในวันที่ 17 สิงหาคม[43] และเขาได้รับการปลดประจำการเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2558[44][45][46]
ผลงาน
[แก้]ภาพยนตร์
[แก้]ปี | ชื่อเรื่อง | บทบาท |
---|---|---|
2551 | อำนาจ ราคะ ใครจะหยุดได้ | โน-ทัก |
2552 | สัมผัสรัก ร้อน ซ่อน เร้น | ยู แจ-ฮย็อก |
The Case of Itaewon Homicide | โช จง-พิล, เหยื่อฆาตกรรม | |
2553 | Hearty Paws 2 | ดง-วุค |
2554 | หนุ่มหน้าใสกับยัยสาวจอมงก | จี-วุง |
ริโอ เดอะ มูฟวี่ (animated) | บลู (ให้เสียงภาษาเกาหลี)[47] | |
2555 | Emperor Penguins Peng-yi and Som-yi | ผู้บรรยาย |
The Grand Heist | ช็อง ยัก-ย็อง (นักแสดงรับเชิญ)[48] | |
วูฟบอย | ช็อล-ซู | |
2560 | Battleship Island | พัก มู-ย็อง |
2564 | Space Sweepers | แทโฮ |
TBA | Hwaran | Chi-Gun |
ละครโทรทัศน์
[แก้]รายการทางโทรทัศน์
[แก้]ปี | ชื่อเรื่อง | บทบาท | เครือข่าย |
---|---|---|---|
2551 | Love Racing | ชายหนุ่ม | วายทีเอ็น |
My Precious Child | จัง จิน-โฮ | เคบีเอส2 | |
2552 | Triple | จี พุง-โฮ | เอ็มบีซี |
คุณหนูจอมวุ่นกับยอดชายนายยาจก | หัวหน้าคนรับใช้ (นักแสดงรับเชิญ, ตอนที่ 1) | เคบีเอส2 | |
อธิษฐานรัก ณ ปลายหนาว | ฮัน จี-ยง | เอสบีเอส | |
2553 | กำเนิดรัก กำเนิดชีวิต | อัน คย็อง-อู | เอสบีเอส |
บัณฑิตหน้าใส หัวใจว้าวุ่น | กู ยง-ฮา | เคบีเอส2 | |
2554 | Deep Rooted Tree | อี โด (วัยเยาว์) | เอสบีเอส |
2555 | รอยรักรอยแค้น | คัง มา-รุ | เคบีเอส2 |
2559 | ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อเธอ | ยู ชี-จิน | เคบีเอส2 |
เสียงจิตหลุด | นักแสดงรับเชิญ | เคบีเอส2 | |
2560 | Man to Man | พนักงานธนาคาร (นักแสดงรับเชิญ) | เจทีบีซี |
2562 | Arthdal Chronicles | อึนซอม / ซายา (รับบทเป็นฝาแฝด) | ทีวีเอ็น |
2564 | Vincenzo (วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย) | วินเซนโซ่ กาซาโน่ | เน็ตฟลิกซ์ |
2565 | Reborn Rich | ยุนฮยอนอู/จินโดจุน | เจทีบีซี |
{| class="wikitable"
|- style="background:#B0C4DE;" ! style="width:50px;"| ปี ! style="width:210px;"| ชื่อ ! style="width:130px;"| ฮันกึล ! style="width:60px;"| เครือข่าย ! style="width:160px;"| ข้อมูลเพิ่มเติม |- | style = "text-align:center"| 2551 |Pretty Boys: A Wrong Situation |꽃미남 아롱사태 |Mnet | |- | style = "text-align:center"| 2552 |Let's Go Dream Team! Season 2 |출발 드림팀2 |KBS2 |รายการปกิณกะบันเทิง |- | style = "text-align:center"| 2552-53 |มิวสิกแบงก์ |뮤직뱅크 |KBS2 |พิธีกรรายการเพลง |- | style = "text-align:center"| 2553-54 |รันนิงแมน |런닝맨 |SBS |รายการปกิณกะบันเทิง |- | rowspan = "3" style="text-align:center"| 2554 |I'm Real: Song Joong-ki |I'm Real 송중기 |QTV | |- |Everyone Dramatic |에브리원 드라마틱 |MBC | |- |Made in U |메이드 인 유 |jTBC |พิธีกร |- | style = "text-align:center"| 2554-55 |Tears of the Antarctic |남극의 눈물 |MBC |ผู้บรรยายภาพยนตร์สารคดี |}
มิวสิกวีดิโอ
[แก้]ปี | ศิลปิน | ชื่อเพลง |
---|---|---|
2552 | Tei | "독설" (Poisonous Tongue) |
2555 | คิม จง-กุก | "남자가 다 그렇지 뭐" (Men Are All Like That) |
หนังสือ
[แก้]- 2553: "피부미남 프로젝트" (Beautiful Skin Project)
ผลงานเพลง
[แก้]รางวัลและการเข้าชิง
[แก้]ปี | รางวัล | ประเภท | จากงาน | ผล | อ้างอิง |
---|---|---|---|---|---|
2553 | Style Icon Awards | New Style Icon (TV Actor) | ชนะ | ||
SBS Entertainment Awards | Best Newcomer in a Variety Show | รันนิงแมน | ชนะ | [53] | |
KBS Drama Awards | Popularity Award | บัณฑิตหน้าใส หัวใจว้าวุ่น | ชนะ | [54] | |
Best Couple Award กับ ยู อา-อิน |
ชนะ | ||||
2554 | Asia Model Festival Awards | BBF Fashionista Award | ชนะ | [55] | |
Barbie and Ken Awards | Ken of the Year | ชนะ | |||
SBS Drama Awards | Producer's Award | Deep Rooted Tree | ชนะ | [56] | |
2555 | Mnet 20's Choice Awards | 20's Male Drama Star | เสนอชื่อเข้าชิง | [57] | |
Style Icon Awards | Style Icon | ชนะ | [58] | ||
20th Korean Culture and Entertainment Awards | Best Actor in a Drama | The Innocent Man | ชนะ | [59] | |
เค-ดราม่าสตาร์อวอร์ดส์ ครั้งที่ 1 | นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม | ชนะ | [60] | ||
KBS Drama Awards | Best Couple Award กับ มุน แช-ว็อน |
ชนะ | [61][62] | ||
Netizens' Award | ชนะ | ||||
Top Excellence Award, Actor | ชนะ | ||||
Baeksang Arts Awards | นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม | A Werewolf Boy | เสนอชื่อเข้าชิง | [63] | |
Popularity Award (Film) | เสนอชื่อเข้าชิง | ||||
Popularity Award (TV) | The Innocent Man | เสนอชื่อเข้าชิง | |||
2559 | 8th Style Icon Asia | Style Icon | — | ชนะ | [64] |
แพ็กซังอาร์ตส์อวอร์ดส์ ครั้งที่ 52 | นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (โทรทัศน์) | ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อเธอ | เสนอชื่อเข้าชิง | [65] | |
นักแสดงชายยอดนิยม (โทรทัศน์) | ชนะ | ||||
รางวัลสเปเชียลไอกีอี | — | ชนะ | |||
โซลอินเตอร์แนชั่นแนลดราม่าอวอร์ดส์ ครั้งที่ 11 | นักแสดงชายชาวเกาหลีดีเด่น | ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อเธอ | ชนะ | [66] | |
เอแพนสตาร์อวอร์ดส์ ครั้งที่ 5 | คู่ยอดเยี่ยม กับ ซง ฮเย-กโย | ชนะ | [67] | ||
นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ประเภทมินิซีรีส์ขนาดสั้น | เสนอชื่อเข้าชิง | ||||
รางวัลเอแพนดารายอดเยี่ยม | — | ชนะ | |||
รางวัลแดซัง | ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อเธอ | ชนะ |
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 Yang, Seo-hee (22 November 2012). "'Werewolf Boy' gets real: Actor Song Joong-ki talks about his phenomenal year". Korea JoongAng Daily. สืบค้นเมื่อ 2012-11-22.
- ↑ "Lifestyle: Song Joong-ki effect is sweeping across Asia | Asia Times" เก็บถาวร 2016-09-21 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Asia Times, 15 April 2016. Retrieved 2017-01-07
- ↑ "South Korean Actor Song Joong Ki Is Now The Most Popular Hallyu Star In China, Thanks To 'Descendants of the Sun'". JK News USA. 2016-03-22. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-06-01. สืบค้นเมื่อ 2016-05-29.
- ↑ Oh, Jean (2 February 2010). "SBS gives double dose of medical drama". The Korea Herald.
- ↑ Lee, Hyo-won (15 July 2010). "Canine movie star breaks more hearts in sequel". The Korea Times.
- ↑ Hong, Lucia (2 December 2010). "Song Joong-ki book on facial grooming to go on sale in Taiwan". 10Asia.[ลิงก์เสีย]
- ↑ Chae, Ki-won (16 July 2010). "KBS TV series "Sungkyunkwan Scandal" press conf - Part 1". 10Asia.
- ↑ Chae, Ki-won (18 August 2010). "Song Joong-ki says will suggest Micky bed scene if ratings fall". 10Asia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-09-16. สืบค้นเมื่อ 2012-10-23.
- ↑ ซง จุง-กี ถ่ายแฟชั่นที่ออสเตรเลียให้นิตยสาร ELLE[ลิงก์เสีย] Kpopolar 2 มกราคม 2011
- ↑ Hong, Lucia (31 January 2011). "TV special of Song Joong-ki's Japan trip to air next month". 10Asia.[ลิงก์เสีย]
- ↑ เปิดตัวซงจุง-กี (Song Joong Ki) ในมาดของพิธีกรรายการออดิชั่น 'Made in U'[ลิงก์เสีย] popcornfor2 2011-12-01
- ↑ Kim, Heidi (2 June 2011). "Still cuts unveiled for film starring Song Joong-ki, Han Ye-seul". 10Asia.[ลิงก์เสีย]
- ↑ Oh, Mi-jung (2 November 2011). "Song Joong Ki Charms Reporters at 'Love and Cash' Press Preview". enewsWorld.[ลิงก์เสีย]
- ↑ Kim, Heidi (31 May 2011). "Song Joong-ki cast in new historical drama". 10Asia.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "Song Joong-ki Migrating into Movies with Romantic Comedy". The Chosun Ilbo. 9 November 2011.
- ↑ Ko, Hong-ju (22 December 2011). "Song Joong Ki Donates Profits Earned From Narrating". enewsWorld. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-31. สืบค้นเมื่อ 2012-10-31.
- ↑ Sunwoo, Carla (22 December 2011). "Song Joong-ki to donate to needy". Korea JoongAng Daily.
- ↑ "2012.8.10 Now Playing". Korea JoongAng Daily. 10 August 2012.
- ↑ Kwaak, Je-yup (7 August 2012). "Putting warm, fuzzy spin on Mother Nature". The Korea Times.
- ↑ Ho, Stewart (10 July 2012). "Song Joong Ki Narrates Penguin Documentary Movie". enewsWorld. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-01-29. สืบค้นเมื่อ 2012-10-31.
- ↑ Suk, Monica (23 April 2012). "Song Joong-ki to hit the road for fan meetings in Asia next week". 10Asia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2012-10-31.
- ↑ Ho, Stewart (12 April 2012). "Song Joong Ki To Launch Asia Fan Meet Tour". enewsWorld.[ลิงก์เสีย]
- ↑ Sunwoo, Carla (24 April 2012). "Got Song? Hallyu actor to make six stops throughout Asia for fan meets". Korea JoongAng Daily.
- ↑ Ho, Stewart (23 July 2012). "Song Joong Ki Wraps Asia Fan Meeting Tour in Seoul With 600 Fans". enewsWorld.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "Song Joong-ki Hits the Big Time". The Chosun Ilbo. 29 September 2012.
- ↑ Lee, Hye-ji (27 September 2012). "Song Joong-ki "Watched Animal Documentaries to Play Werewolf Boy"". 10Asia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2012-10-31.
- ↑ Park, Eun-jee (26 October 2012). "Uncomplicated relationship central to 'A Werewolf Boy'". Korea JoongAng Daily. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-01-03. สืบค้นเมื่อ 2012-10-31.
- ↑ Lee, Claire (27 September 2012). "Werewolf tale brings out beast in Song". The Korea Herald.
- ↑ Oh, Mi-jung (17 October 2012). "Song Joong Ki Says He′s Still Thirsty for More Experience as an Actor". enewsWorld. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-04-06. สืบค้นเมื่อ 2012-10-31.
- ↑ Sunwoo, Carla (19 November 2012). "'Werewolf Boy' the top melodrama". Korea JoongAng Daily. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-12-03. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Lee, Gyeong-ho (5 September 2012). "Song Joong Ki doesn't care if he plays a leading role". Star News. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Lee, Hye-ji (5 September 2012). "Song Joong-ki "I'd be happy to go through growing pains as an actor"". 10Asia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-03. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Sunwoo, Carla (7 September 2012). "Song Joong-ki aims to change it up". Korea JoongAng Daily. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Yoon, Hee-seong (2 November 2012). "INTERVIEW: "The Innocent Man" Song Joong-ki - Part. 2". 10Asia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ "Reasons Why We Cannot But To Love the 'Innocent Man'". KBS Global. 7 November 2012. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.[ลิงก์เสีย]
- ↑ Mun, Wan-sik (16 November 2012). "Song Joong Ki says, "I wouldn't take my girlfriend's guilt upon myself"". Star News. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Kim, Soo-jin (16 November 2012). "Song Jong Ki wonders, "My charming point? People say I'm like milk"". Star News. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Lee, Hye-ji (12 November 2012). ""A Werewolf Boy" Tops Local Box Office for 2 Straight Weeks". 10Asia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Lee, Jin-ho (23 November 2012). "Song Joong Ki Says He Feels He′s Become More Popular but Doesn′t Care". enewsWorld. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-04-06. สืบค้นเมื่อ 2012-11-28.
- ↑ Lee, Hye-ji (1 August 2013). "Song Joong-ki to Enter Military on August 27". 10Asia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-08-05. สืบค้นเมื่อ 2013-08-01.
- ↑ "Actor Song Joong-ki to Join Army Late This Month". The Chosun Ilbo. 2 August 2013. สืบค้นเมื่อ 2013-08-03.
- ↑ Lee, Sun-min (28 August 2013). "Song Joong-ki says goodbye to fans". Korea JoongAng Daily. สืบค้นเมื่อ 2013-08-28.
- ↑ Kang, Jung-yeon (19 August 2013). "Song Joong-ki Holds Last Fan Meeting Before Joining Army". 10Asia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-02-23. สืบค้นเมื่อ 2013-08-19.
- ↑ "Song Joong-ki returns from military duty". The Korea Times. 26 May 2015. สืบค้นเมื่อ 2015-05-27.
- ↑ "Song Joong-ki Completes Military Service". The Chosun Ilbo. 27 May 2015. สืบค้นเมื่อ 2015-05-27.
- ↑ Jin, Min-ji (27 May 2015). "Song discharged from Army". Korea JoongAng Daily. สืบค้นเมื่อ 2015-05-27.
- ↑ Ki Sun-min, Sung So-young (15 July 2011). "With rise of 3-D, films with subtitles lose out to dubbing". Korea JoongAng Daily.
- ↑ Oh, Mi-jung (29 August 2012). "Song Joong Ki Makes Surprise Appearance in the Ending Credits of 'Gone With the Wind'". enewsWorld.[ลิงก์เสีย]
- ↑ Ho, Stewart (29 October 2012). "Song Joong Ki Sings for 'Nice Guy' OST". enewsWorld. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-10-30. สืบค้นเมื่อ 2012-11-12.
- ↑ Sunwoo, Carla (30 October 2012). "Song Joong-ki sings on his drama's soundtrack". Korea JoongAng Daily.
- ↑ Lee, Hye-ji (29 October 2012). "Song Joong-ki to Lend Voice for KBS "The Innocent Man" Soundtrack". 10Asia.[ลิงก์เสีย]
- ↑ Jeon, Su-mi (9 November 2012). "Song Joong Ki Releases Photos of Himself Singing for ′Nice Guy′". enewsWorld. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-01-04. สืบค้นเมื่อ 2012-11-12.
- ↑ Hong, Lucia (31 December 2010). "Kang Ho-dong scores grand prize at SBS Entertainment Awards". 10Asia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Cho, Bum-ja (3 January 2010). "Jang Hyuk scores top prize at KBS Drama Awards". 10Asia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-09-21. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Kim, Jessica (2 January 2011). "Song Joong-ki at Asia Music Festival Awards". 10Asia. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.[ลิงก์เสีย]
- ↑ Kim, Jesssica (2 January 2012). "Han Suk-kyu reclaims glory at SBS Drama Awards". 10Asia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Lee, Nancy (28 June 2012). "20′s Choice Awards: Who Won at the 20's Choice Awards?". enewsWorld. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-10-27. สืบค้นเมื่อ 2012-06-29.
- ↑ Lee, Nancy (25 October 2012). "LIVE BLOG/LIVE STREAM: Style Icon Awards 2012 Part II". enewsWorld. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-10-27. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Lee, Han-hyung (6 December 2012). "송중기 '수트도 멋스럽게 소화'". Newsen (ภาษาเกาหลี). สืบค้นเมื่อ 2012-12-09.
- ↑ Shim, Na-ra (8 December 2012). "'K드라마어워즈' 송중기, 최우수남자연기상...함성 커지자 "오빠 얘기하잖니"". TV Report (ภาษาเกาหลี). สืบค้นเมื่อ 2012-12-09.
- ↑ Kim, Sung-hee (20 December 2012). "KBS연기대상, 베스트커플 후보 발표..주원·박기웅 '男男커플'". Star News (ภาษาเกาหลี). สืบค้นเมื่อ 2012-12-21.
- ↑ Jun, Ji-young (2 January 2013). "2012 KBS Drama Awards". KBS Global. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-02-21. สืบค้นเมื่อ 2013-01-07.
- ↑ Hicap, Jonathan M. (5 April 2013). "49th Baeksang Arts Awards nominees revealed". Manila Bulletin. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-16. สืบค้นเมื่อ 2013-04-11.
- ↑ "'SIA' 스타일아이콘 10인 공개, 'G-Dragon, 리이펑, 박보검, 소녀시대, 송승헌, 송중기, 유아인, 이정재, 이하늬, 하지원'". Star Daily News.
- ↑ ""Dongju" And "Descendants of the Sun" Take Home Grand Prizes At The 52nd Baeksang Arts Awards + Full List Of Winners". Soompi. June 3, 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-10-03. สืบค้นเมื่อ 2016-10-05.
- ↑ "Winners Of The 11th Seoul Drama Awards 2016 Announced". Soompi. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-01-18. สืบค้นเมื่อ 2016-10-05.
- ↑ "Winners Announced For The 2016 APAN Star Awards". Soompi. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-18. สืบค้นเมื่อ 2016-10-05.
ข้อมูลเพิ่มเติม
[แก้]- Song Joong-ki เก็บถาวร 2015-09-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน at Cyworld (เกาหลี)
- Song Joong-ki เก็บถาวร 2012-05-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน at SidusHQ (เกาหลี)