ข้ามไปเนื้อหา

ฉบับร่าง:เลื่อยคันธนู

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เลื่อยโค้งสมัยใหม่

เลื่อยคันธนู (Bow saw) เป็นเครื่องมือช่างที่ใช้สำหรับการตัดไม้หรือวัสดุแข็งที่มีลักษณะเป็นท่อนหรือแผ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำงานในสวนหรืองานไม้ โดยมีลักษณะเด่นคือใบเลื่อยที่ยาวและบาง ยึดอยู่กับโครงเลื่อยที่มีรูปทรงคล้ายคันธนู ซึ่งทำจากวัสดุที่แข็งแรงเพื่อรักษาความตึงของใบเลื่อย โครงเลื่อยนี้ช่วยให้สามารถใช้แรงในการตัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและง่ายขึ้นในการควบคุมทิศทางการตัด

เลื่อยคันธนูมักใช้สำหรับงานตัดกิ่งไม้ ต้นไม้ หรือไม้แปรรูปที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก การออกแบบที่เรียบง่ายและความแข็งแรงทนทานของมันทำให้เลื่อยชนิดนี้เป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมในการใช้งานทั่วไปในสวนและงานไม้[1]

ต้นกำเนิด

[แก้]

เลื่อยคันธนู แบบดั้งเดิมมีประวัติยาวนานหลายศตวรรษ โดยเชื่อว่ามีการใช้งานตั้งแต่ยุคโบราณ แต่การออกแบบที่มีลักษณะเป็นรูปคันธนูที่เรารู้จักกันในปัจจุบันนั้นสามารถย้อนกลับไปได้ถึงยุคกลาง (Medieval period) ซึ่งประมาณศตวรรษที่ 15 (ค.ศ. 1400-1500)

แหล่งที่มาของเลื่อยคันธนูไม่ได้มีการระบุว่าใครเป็นผู้สร้างหรือพัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรก แต่เลื่อยชนิดนี้เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ช่างไม้และช่างฝีมือในยุโรป โดยเฉพาะในพื้นที่เช่นอังกฤษและเยอรมัน ซึ่งเครื่องมือนี้เป็นที่นิยมใช้ในงานช่างไม้และงานสวนมาอย่างยาวนาน

เลื่อยคันธนูถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือช่างไม้ที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง และยังคงถูกใช้อยู่ในปัจจุบันในรูปแบบที่ปรับปรุงแล้วแต่ยังคงรักษารูปทรงและหลักการทำงานพื้นฐานไว้[2]

ความยาวแบบดั้งเดิม

[แก้]

เลื่อยคันธนู มีความยาวหลากหลายขึ้นอยู่กับการใช้งาน โดยทั่วไปจะมีความยาวตั้งแต่ประมาณ 12 นิ้ว (30 เซนติเมตร) ไปจนถึง 36 นิ้ว (90 เซนติเมตร) ความยาวของใบเลื่อยจะส่งผลต่อความเหมาะสมในการใช้งาน เช่น ใบเลื่อยที่สั้นกว่าจะเหมาะกับการตัดกิ่งไม้หรือไม้ขนาดเล็ก ส่วนใบเลื่อยที่ยาวกว่าจะเหมาะสำหรับการตัดไม้ขนาดใหญ่หรือท่อนซุง[3] [4]

การสร้างเลื่อยธนูแบบดั้งเดิม

[แก้]

เลื่อยคันธนูแบบดั้งเดิมนั้นมักทำจากวัสดุสองส่วนหลัก คือ โครงเลื่อยและใบเลื่อย:[5]

  • 1.โครงเลื่อย
    • โดยทั่วไปทำจากไม้เนื้อแข็งที่มีความทนทาน เช่น ไม้บีช (Beech) หรือไม้แอช (Ash) เพื่อให้มีความแข็งแรงและทนต่อแรงตึงจากใบเลื่อย บางครั้งในรุ่นที่ใหม่ขึ้นหรือสำหรับการใช้งานที่ต้องการความทนทานมากขึ้น โครงเลื่อยอาจทำจากโลหะ เช่น เหล็ก หรืออลูมิเนียม ซึ่งช่วยเพิ่มความแข็งแรงและน้ำหนักเบา[6][ระบุข้อมูลทางบรรณานุกรมไม่ครบ]
  • 2.ใบเลื่อย
    • ทำจากเหล็กกล้าหรือเหล็กกล้าไร้สนิม (Stainless steel) ที่ผ่านการชุบแข็ง เพื่อให้มีความคมและทนทานต่อการใช้งาน ใบเลื่อยมีฟันเลื่อยที่คมและออกแบบมาเพื่อการตัดที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ[7][ระบุข้อมูลทางบรรณานุกรมไม่ครบ]

ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. Wood, Harry Einsley, and James Henry Smith. Prevocational and industrial arts,. Chicago: Atkinson, Mentzer & company, 1919. 9. Print.
  2. McGraw-Hill Dictionary of Scientific & Technical Terms (2003). "Bow saw". The McGraw-Hill Companies, Inc., หน้า 235.
  3. Wood, Harry Einsley, and James Henry Smith. Prevocational and industrial arts,. Chicago: Atkinson, Mentzer & company, 1919. 9. Print.
  4. Benjamin, D. (2020). The Woodworker's Bible: A Complete Guide to Woodworking. Penguin Random House, หน้า 45-46.
  5. Odate, T. (1998). Japanese Woodworking Tools: Their Tradition, Spirit and Use. Linden Publishing, หน้า 89-91.
  6. Grimshaw, R. (1993). The Handplane Book. Taunton Press.
  7. Odate, T. (1998). Japanese Woodworking Tools: Their Tradition, Spirit and Use. Linden Publishing.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]