ข้ามไปเนื้อหา

จางเจียเจี้ย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จางเจียเจี้ย

张家界市
อุทยานแห่งชาติอู่หลิงหยวน
สมญา: 
Dayong
ที่ตั้งจางเจียเจี้ยในมณฑลหูหนาน
ที่ตั้งจางเจียเจี้ยในมณฑลหูหนาน
ประเทศจีน
มณฑลหูหนาน
พื้นที่
 • ทั้งหมด9,518 ตร.กม. (3,675 ตร.ไมล์)
ประชากร
 (2010)
 • ทั้งหมด1,476,521 คน
เขตเวลาUTC+8 (เวลามาตรฐานจีน)
เว็บไซต์www.zjj.gov.cn

จางเจียเจี้ย (จีนตัวย่อ: 张家界; จีนตัวเต็ม: 張家界; พินอิน: Zhāngjiājiè) รู้จักกันในภาษาถู่เจียว่า Zhangx jif avlar (dzaȵ˩ ji˥ a ˩la˥) เป็นนครระดับจังหวัดในมณฑลหูหนาน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ประกอบไปด้วยเขตหย่งติ้ง เขตอู่หลิงยฺเหวียน อำเภอฉือลี่ และอำเภอซางจื๋อ ในเมืองนี้มีอู่หลิงยฺเหวียนซึ่งถูกจัดเป็นหนึ่งในมรดกโลกโดยยูเนสโก รวมไปถึงทิวทัศน์ระดับ AAAAA ซึ่งจัดโดย การท่องเที่ยวแห่งชาติจีน[1]

ประวัติ

[แก้]

เมืองนี้เคยถูกเรียกว่าต้ายง (大庸) และมีประวัติยาวนานตั้งแต่ 221 ปีก่อนประวัติศาสตร์ ผู้คนได้อาศัยอยู่ทั้งสองฝากของ แม่น้ำหลีฉุย (แม่น้ำหลักในจางเจียเจี้ย) ซึ่งตอนนี้อยู่ในเขตของเมืองจางเจียเจี้ย มานานตั้งแต่สมัยยุคหิน การตั้งรกรากของมนุษย์ในบริเวณนี้นั้นย้อนไปกว่าหนึ่งแสนปี เทียบได้กับเขตที่เป็นที่รู้จักอย่างซีอาน ปักกิ่ง และอื่น ๆ ในปีพ.ศ. 2529 Academy of Chinese Social Science discovered Stone Age relics in Cili County ได้พบเครื่องหินกว่า 108 ชิ้นซึ่งคาดว่าถูกทำขึ้นเมื่อมากกว่าหนึ่งแสนปีที่แล้ว จากนั้นไม่นานในปีพ.ศ. 2531 Archaeological Institute ของมณฑลหูหนานยังเจอโบราณวัตถุอื่น ๆ ในอำเภอซางจื๋อ รวมไปถึงเครื่องหินซึ่งคาดว่ามีอายุกว่าหนึ่งแสนปี

เมื่อหมื่นปีก่อน ผู้คนที่อาศัยอยู่ในเขตซึ่งปัจจุบัณคือเมืองจางเจียเจี้ยได้ใช้ไฟในการทำเครื่องปั้นดินเผา นักโบราณคดีเจอโบราณวัตถุของเครื่องปั้นเหล่านี้มากกว่า 20 ชิ้นด้วยกันในอำเภอฉือลี่ ส่วนในอำเภอซางจื๋อได้มีการค้นพบหม้อซึ่งมีลายที่เป็นเอกลักษณ์และคาดว่ามีอายุกว่าหมื่นปี ในสมัยนั้นการเผาเครื่องปั้นดินเผาเป็นเทคนิคที่ก้าวหน้าที่สุดในประเทศจีน ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในการใช้เครื่องมือหินและเครื่องปั้นดินเผาดูเหมือนจะเป็นการบ่งบอกว่าพื้นที่นี้มีการพัฒนาทางวัฒนธรรมอย่างกว้างขวาง ทว่าเป็นสังคมที่การพัฒนานั้นคงอยู่ไม่นานจึงลดลงและถูกแทนด้วยอำนาจอื่นในพื้นที่ เนื่องด้วยที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของจางเจียเจี้ย พื้นที่ที่ยังไม่ได้พัฒนา และภูมิประเทศที่เป็นภูเขาทำให้การปลูกพืชผักนั้นทำได้ยาก จึงไม่แปลกใจที่จะเกิดการยึดอำนาจขึ้นได้ไม่ยาก[2]

จุดกำเนิดของชื่อ

[แก้]
อู่หลิงยฺเหวียน

ชื่อของเมืองจางเจียเจี้ยถูกนำมาใช้เมื่อปีพ.ศ. 2537 หลังจากอุทยานแห่งชาติในอู่หลิงยฺเหวียน (武陵源) ถูกยกให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกในปีพ.ศ. 2535 เพื่อให้มีความโดดเด่นมากขึ้น ชื่อจางเจียเจี้ยมาจากหมู่บ้านเล็ก ๆ ในเขตเดียวกันซึ่งต้อนนี้ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม ทั้งสามตัวอักษรของชื่อ (张家界) สามารถตีความได้ดังนี้ "จาง" (张) เป็นนามสกุลทั่วไปในประเทศจีน "เจีย" (家) แปลได้ว่า "ครอบครัว" และ "เจี้ย" (界) แปลว่า "บ้านเกิด" โดยแปลได้ว่า "บ้านเกิดของครอบครัวจาง" ชื่อนี้เกี่ยวข้องกับนายพลฮั่น จางเลี่ยง ซึ่งได้ย้ายมาอยู่ในพื้นที่นี้หลังจาก หลิวปัง จักรพรรดิฮั่น ได้เริ่มสังหารผู้ช่วยและนายพลซึ่งช่วยให้เขาได้ขึ้นครองบัลลังก์ เมืองนี้จึงถูกตั้งชื่อตามตระกูลจางซึ่งมาตั้งรกรากที่นี้ [3]

เศรษฐกิจ

[แก้]

จังหวัดนี้โดยส่วนมากเป็นสถานที่ท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวจีนและผู้คนจากประเทศในทวีปเอเชียอื่น ๆ เช่น เกาหลี นอกจากนี้ความนิยมยังเพิ่มขึ้นในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติอีกด้วย 

สถานที่ท่องเที่ยว

[แก้]

อู่หลิงยฺเหวียน ประกอบไปด้วย อุทยานจางเจียเจี้ย เขาเทียนจื่อซาน (天子山)  ทะเลสาบเป่าเฟิง (宝峰湖) และ  โซวฉีแวลลีย์ (索溪峪) และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและที่ถ่ายภาพยนตร์ที่เป็นที่นิยม

นอกจากนี้ในเขตจางเจียเจี้ยยังมีถ้ำมังกรเหลือง (黄龙洞) และ ถ้ำหลงหวังต้ง (龙王洞) ซึ่งขึ้นชื่อในการเกิดของก้อนหินธรรมชาติ (คล้ายกับที่อู่หลิงยฺเหวียน) และ น้ำตกสูงใต้ดิน ลิฟท์แก้ว ไป่หลง ก็อยู่ในเขตนี้เช่นกัน

การเดินทาง

[แก้]

สนามบินจางเจียเจี้ยมีบริการรับส่งสู่สนามบินหลักในประเทศจีน สนามบินนั้นห่างจากตัวเมืองประมาณ 5 กิโลเมตร และห่างประมาณ 30 กิโลเมตรจากอู่หลิงยฺเหวียน นอกจากนั้นยังมีเที่ยวบินระหว่างประเทศจากเมืองอื่น ๆ เช่น ฉางซา ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว รวมไปถึงเที่ยวบินระหว่างจางเจียเจี้ยและโซล ปูซาน[4]

ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

[แก้]

เมืองพี่น้องและเมืองแฝดของจางเจียเจี้ยได้แก่

อ้างอิง

[แก้]

ลิงก์อื่น ๆ

[แก้]