คดีฆ่าคนที่เกาะเต่า
คดีระหว่างพนักงานอัยการ กับซอ ลิน และเว พิว | |
---|---|
สาระแห่งคดี | |
คำฟ้อง | ลักลอบเข้าเมืองโดยไม่ผ่านการอนุญาต, พักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต, เจตนาฆ่าคนตาย, โทรมหญิง, ฆ่าคนเพื่อปกปิดความผิดอื่น, ลักทรัพย์ |
คำขอ | ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา, พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 และให้คืนหรือชดใช้ทรัพย์ |
คู่ความ | |
โจทก์ | พนักงานอัยการจังหวัดเกาะสมุย |
จำเลย |
|
ศาล | |
ศาล | ศาลจังหวัดเกาะสมุย |
ผู้พิพากษา |
|
พิพากษา | |
" ประหารชีวิต " | |
คดีหมายเลขดำที่ | 2040/2557 |
ลงวันที่ | 24 ธันวาคม 2557 |
กฎหมาย | ประมวลกฎหมายอาญา, พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 |
เว็บไซต์ | |
คำพิพากษาศาลชั้นต้น |
คดีฆ่าคนที่เกาะเต่า เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2557 เมื่อนักท่องเที่ยวชาวบริติช 2 คน ชื่อ ฮันนาห์ วิตเธอริดจ์ (Hannah Witheridge) และเดวิด มิลเลอร์ (David Miller) ถูกพบเป็นศพบนเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยพบศพดังกล่าวบนหาดทรายรีระหว่างเวลา 4 ถึง 5 นาฬิกา ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการเสียชีวิต ผู้เสียหายทั้งสองถูกตีหลายครั้งที่ศีรษะ วิตเธอริดจ์ถูกข่มขืนกระทำชำเรา และมิลเลอร์จมน้ำ
การสืบสวนหาตัวผู้ต้องสงสัยและการพิจารณาคดีอาญาในเวลาต่อมาถูกสื่อต่างประเทศ องค์การสิทธิมนุษยชน และผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายวิจารณ์อย่างกว้างขวาง คนงานเข้าเมืองผิดกฎหมายชาวพม่าสองคนถูกกล่าวโทษว่าเป็นผู้ก่อเหตุสองสัปดาห์ต่อมา โดยอาศัยหลักฐานดีเอ็นเอเป็นหลัก ผู้ต้องสงสัยทั้งสองในทีแรกถูกปฏิเสธการเข้าถึงการให้คำปรึกษาทางกฎหมาย และตำรวจใช้การทรมานและการข่มขู่เพื่อรีดเอาคำรับสารภาพ นักพยาธิวิทยาและผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายวิจารณ์ตำรวจว่าจัดการหลักฐานไม่ถูกวิธี ทำให้ที่เกิดเหตุปนเปื้อน และไม่ใช้ผู้เชี่ยวชาญเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ส่วนศาลถูกวิจารณ์ว่าเร่งรัดการไต่สวนที่กินเวลาเพียง 18 วัน และไม่เปิดให้จำเลยมีเวลาเตรียมตัวมากพอ ในเดือนธันวาคม 2558 จำเลยทั้งสองถูกพิพากษาว่ามีความผิดฐานฆ่าคนและตัดสินประหารชีวิต ทั้งสองพยายามอุทธรณ์คำพิพากษาแต่ไม่เป็นผล แต่ต่อมามีพระราชกฤษฎีกาในปี 2563 ลดโทษประหารชีวิตเหลือจำคุกตลอดชีวิต
แม้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเกาะเต่าลดลงในช่วงหลังเกิดเหตุ แต่สุดท้ายก็มีผลต่อการท่องเที่ยวบนเกาะเต่าในระยะยาวไม่มากนัก
เบื้องหลัง
[แก้]เกาะเต่าตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีพื้นที่ 21 ตารางกิโลเมตร เป็นเกาะนักท่องเที่ยวยอดนิยมขนาดเล็กที่สุดในบรรดาสามเกาะในอ่าวไทย[1] เกาะมีประชากรท้องถิ่น 2,000 คน มีคนงานเข้าเมืองชาวพม่าอีก 5,000 คน ซึ่งในจำนวนนี้ประมาณ 2,000 คนเป็นผู้เข้าเมืองผิดกฎหมาย[2] เกาะเต่าได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวแบบสะพายกระเป๋า และขึ้นชื่อเรื่องสิ่งมีชีวิตทะเลและการดำน้ำสกูบา มีโรงแรมและรีสอร์ตบนเกาะกว่า 100 แห่ง และถือว่าเป็นศูนย์กลางการดำน้ำใหญ่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2557[2] มีนักท่องเที่ยวประมาณ 500,000 คนต่อปี เหตุฆ่าคนดังกล่าวเป็นคดีฆ่าคนตายบนเกาะครั้งแรกในรอบแปดปี[3]
ผู้เกี่ยวข้อง
[แก้]ฮันนาห์ วิตเธอริดจ์ อายุ 23 ปี เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเอสเซ็กซ์จากเฮมส์บี ประเทศอังกฤษ และเดวิด มิลเลอร์ อายุ 24 ปี เป็นบัณฑิตวิศวกรรมโยธาและโครงสร้างจากเจอร์ซีย์ ซึ่งเป็นเขตสังกัดของบริเตน[1][4] ทั้งสองเดินทางถึงเกาะในวันที่ 25 สิงหาคม 2557[5] ทั้งสองพบกับที่เกาะเต่าโดยพักที่โรงแรมเดียวกัน[6]
เหตุฆ่าคน
[แก้]มิลเลอร์และวิตเธอริดจ์ถูกพบเห็นครั้งสุดท้ายที่บาร์กับเพื่อนในคืนเกิดเหตุกับบุคคลอื่นอีกประมาณ 50 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างด้าว ก่อนออกไปด้วยกันหลังเวลา 01.00 น.[3][5][7] ศพทั้งสองถูกพบที่หาดทรายรีอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ระหว่างเวลา 4 ถึง 5 นาฬิกา โดยคนทำความสะอาดชายหาดชาวพม่า[1][8][9] ทั้งสองศพอยู่ห่างกัน 20 เมตร และอยู่ห่างจากโรงแรมที่พักอยู่ประมาณ 30 เมตร พบจอบเปื้อนเลือดซึ่งเชื่อว่าเป็นอาวุธสังหาร และตะบองไม้ใกล้กับศพ ร่วมกับเสื้อผ้าของผู้เสียหาย[10][3][7] หลังเกิดเหตุ ผู้อยู่อาศัยบนเกาะกั้นท่าเรือเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่อาจก่อเหตุเดินทางออกจากเกาะ[5]
ผลการชันสูตรพลิกศพเผยว่าทั้งสองถูกตีด้วยวัตถุแข็ง มิลเลอร์มีแผลที่ศีรษะ รอยข่วนบนหลัง และน้ำในปอดซึ่งบ่งชี้ว่าจมน้ำ[1][3] ส่วนวิตเธอริดจ์ถูกข่มขืนกระทำชำเราและตีหลายครั้งที่ศีรษะและใบหน้า ทั้งสองศพอยู่ในสภาพกึ่งเปลือย[11]
การสอบสวน
[แก้]ทางการเกรงว่าเหตุดังกล่าวจะกระทบต่อการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ จึงได้เร่งรัดการสืบสวนคดี ตำรวจถูกกดดันให้เร่งมือ ซึ่งสุดท้ายมีผลกระทบต่อวิธีการสืบสวน[12][2] ทีแรกตำรวจตั้งข้อสังเกตว่าผู้ใดที่อาจเป็นผู้กระทำความผิด โดยกล่าวหาหลายคนโดยไม่มีหลักฐานประจักษ์[13] พวกเขามุ่งสนใจบุคคลต่างด้าว โดยโฆษกตำรวจอ้างว่า คนไทยจะไม่ทำแบบนี้[8] ตำรวจสงสัยบุคคลอย่างน้อยสองคนว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง โดยอาศัยชุดดีเอ็นเอสองชุดที่พบบนศพของวิตเธอริดจ์ พวกเขาทดสอบดีเอ็นเอบุคคลกว่า 200 คนบนเกาะ ซึ่งจำนวนมากเป็นคนงานเข้าเมือง[3][14] คนงานเข้าเมืองที่ถูกสอบสวนหลายคนร้องทุกข์ว่าตำรวจสาดน้ำร้อนใส่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งตำรวจปฏิเสธ หลังในทีแรกไม่พบดีเอ็นเอตรงกับคนงานเข้าเมืองคนใด จึงหันความสนใจไปยังนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกที่สัมพันธ์กับผู้เสียหาย[2] โดยเน้นนักท่องเที่ยวชาวบริติชที่อยู่ร่วมห้องกับมิลเลอร์เป็นผู้ต้องสงสัย พร้อมคาดว่าเป็น "อาชญากรรมความหึงหวง" เขาถูกตามตัวทั้งประเทศก่อนตำรวจรีบปล่อยเบาะแส[10][5] ท่ามกลางแรงกดดันให้รีบจับคนร้ายโดยเร็ว เมื่อไม่พบผู้ก่อเหตุหลังเวลาล่วงไปแล้วหนึ่งสัปดาห์ ตำรวจก็ออกชื่อผู้ต้องสงสัยอื่นอีกหลายคนไม่เว้นวัน[2]
สองสัปดาห์หลังพบศพ ในวันที่ 1 ตุลาคม 2557 ตำรวจจับกุมชายสองคนที่รับสารภาพในอีกสองวันต่อมา Zaw Lin และ Wai Phyo[15] คนงานเข้าเมืองผิดกฎหมายชาวพม่าวัย 22 ปีจากรัฐยะไข่ ประเทศพม่า ซึ่งทำงานในอุตสาหกรรมการโรงแรม ทั้งสองไม่มีประวัติอาชญากรรมมาก่อน[1][8][11] ผู้ต้องสงสัยรายที่สามซึ่งเป็นคนงานเข้าเมืองชาวพม่าเช่นเดียวกัน ถูกปล่อยตัวในชั้นสอบสวน[2] ระหว่างการสอบสวนนานหลายชั่วโมง โดยตำรวจใช้คนขายอาหารชาวพม่าเป็นล่าม[14] ผู้ต้องสงสัยให้การว่าพวกตนมีความปรารถนาข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายหลังมีอารมณ์ทางเพศเมื่อเห็นผู้ตายทั้งสองคนจูบกันบนหาด[2][16] ตำรวจพบว่าดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัยตรงกับตัวอย่างคราบอสุจิที่ได้จากศพของวิตเธอริดจ์ จากจอบที่ใช้เป็นอาวุธสังหาร และจากก้นบุหรี่ที่พบใกล้ศพ[2][16] ตำรวจยังระบุว่าพบโทรศัพท์เคลื่อนที่ของมิลเลอร์ในบ้านของ Zaw Lin[17] แม้มีรายงานก่อนหน้านี้ว่าเพื่อนของผู้เสียหายเป็นผู้มอบโทรศัพท์ดังกล่าวให้ตำรวจเอง[2] ตำรวจบังคับให้ผู้ต้องสงสัยทำแผนประกอบคำรับสารภาพต่อหน้าสื่อ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกฎหมายประณามว่าละเมิดสิทธิได้รับการไต่สวนอย่างเป็นธรรม[8]
Zaw Lin และ Wai Phyo ถอนคำให้การหลังมีทนายความกงสุลจากประเทศพม่า และกล่าวว่าคำให้การของพวกตนเกิดขึ้นภายใต้การถูกขู่เข็ญว่าจะทำร้าย ทั้งกล่าวหาว่าถูกทุบตี ปล่อยให้เปลือยกายอยู่ในห้องที่เยือกแข็ง และขู่ช็อตไฟฟ้าและวิสามัญฆาตกรรม[1][18] พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปฏิเสธเรื่องการทรมานเพื่อให้ได้รับคำสารภาพ[18] คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพยายามสอบสวนข้อกล่าวหาดังกล่าว แต่ผู้แทนตำรวจไม่มาประชุมในการนัดหมายทั้งสี่ครั้ง[1]
ทีมจำเลยจากกรุงเทพมหานครซึ่งมีทนายความเกือบ 20 คน ได้รับอนุญาตให้พบผู้ต้องสงสัยทั้งสองเพียงครึ่งชั่วโมง ผู้พิพากษาศาลจังหวัดเกาะสมุยปฏิเสธคำร้องขอให้ชะลอการไต่สวนและให้จำเลยมีเวลาเตรียมต่อสู้คดี[19][14] จำเลยไม่ได้รับอนุญาตให้เห็นรายงานตำรวจ 900 หน้าที่ส่งให้แก่อัยการจนการพิจารณาคดีเริ่ม ในทีแรกอัยการปฏิเสธรายงานนี้ โดยขอให้แก้ไขข้อผิดพลาดบางประการ ให้สารนิเทศเพิ่มเติม และให้รายงานรัดกุมยิ่งขึ้น[17] ในเดือนธันวาคม 2557 ผู้ต้องสงสัยถูกฟ้องคดีอาญาอุกฉกรรจ์ห้าข้อหา ได้แก่ การฆ่าคนโดยไตร่ตรองไว้ก่อน การฆ่าเพื่ออำพรางความผิด การข่มขืนกระทำชำเรา การเข้าเมืองผิดกฎหมาย และการพำนักอยู่ในประเทศโดยไม่มีใบอนุญาต[2] Wai Phyo ยังถูกตั้งข้อหาลักโทรศัพท์ของมิลเลอร์[20]
การพิจารณาคดีและการพิพากษาลงโทษ
[แก้]การพิจารณาคดี 18 วันเริ่มขึ้นในวันที่ 8 กรกฎาคม 2558 ในศาลจังหวัดเกาะสมุย[1][2] ผู้ต้องสงสัยได้รับความช่วยเหลือในการต่อสู้คดีจากทนายความสองคนจากสภาทนายความแห่งประเทศไทย ด้วยความช่วยเหลือจากเครือข่ายสิทธิแรงงานข้ามชาติ[2][11] กับทั้งมีผู้สังเกตการณ์จากผู้แทนองค์การนิรโทษกรรมสากลและกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร ผู้พิพากษาไม่อนุญาตให้สาธารณะจดบันทึก[2]
ฝ่ายจำเลยแย้งว่าการสอบสวนมีข้อบกพร่องเนื่องจากการจัดการหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์อย่างไม่ถูกต้อง การขาดการมีผู้แทนทางกฎหมายระหว่างการสอบสวน และการข่มขู่พยาน[2][21] จำเลยอ้างว่าผู้ต้องสงสัยถูกใช้เป็นแพะรับบาปเพราะเป็นคนงานเข้าเมืองผิดกฎหมายซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง วันที่ 10 กรกฎาคม ศาลสั่งให้ทดสอบดีเอ็นเอซ้ำ[1] ด้านตำรวจเผยว่าตัวอย่างจากศพของวิตเธอริดจ์ถูกใช้หมดแล้ว[22] แต่ยังหาตัวอย่างดีเอ็นเอจากอาวุธสังหารได้ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์ชั้นนำของประเทศพบว่าดีเอ็นเอบนจอบไม่ตรงกับผู้ต้องสงสัย[2] ด้านทนายจำเลยหาสาธารณชนที่เต็มใจมาให้การในการพิจารณาคดีได้ยาก เพราะหลายคนกลัวได้รับผลกระทบ[1][2]
มีรายงานว่ากล้องวงจรปิดหลายตัวใกล้กับที่เกิดเหตุใช้การไม่ได้ และตำรวจไม่ตรวจสอบกล้องใกล้กับท่าเรือ การวิเคราะห์ดีเอ็นเอในคดีซึ่งไม่ถูกตรวจสอบหรือพิสูจน์ยืนยันอย่างเป็นอิสระจากตำรวจมีการส่งให้แก่ศาลเป็นความย่อยาว 1 หน้า และมีหน้าสนับสนุนอีก 4 หน้า ซึ่งบางส่วนเขียนด้วยมือและมีรอยแก้ไข[13][23] Jan Taupin นักนิติวิทยาศาสตร์ชาวออสเตรเลียที่ทนายความจำเลยใช้เป็นพยาน อ้างว่าลำดับเวลาการพิสูจน์ดีเอ็นเอมีความเคลือบคลุม กล่าวคือ การวิเคราะห์ตัวอย่างดีเอ็นเออย่างรวดเร็วในเวลาต่ำกว่า 12 ชั่วโมงนั้นเป็นเรื่องผิดปกติ เพราะ "การดึงดีเอ็นเอจากตัวอย่างผสมนั้นยากและกินเวลา" สุดท้าย Taupin ไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นให้การ และทนายความจำเลยไม่ยกประเด็นนี้ขึ้นมาจนแถลงการณ์ปิด[13] รายงานสื่อตั้งข้อสังเกตว่าอาจเนื่องจากทนายความจำเลยเกรงว่าการเรียกผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศอาจดูเหมือนเป็นการบ่อนทำลายระบบยุติธรรมของไทย และอาจทำให้ผู้พิพากษามีอคติจนมีผลเสียต่อการต่อสู้คดี[24]
เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2558 Zaw Lin และ Wai Phyo ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฆ่าคนโดยผู้พิพากษาสามคน และถูกตัดสินประหารชีวิต[11][25] คำพิพากษาลงโทษมาจากหลักฐานดีเอ็นเอเป็นหลัก[2] Wai Phyo ยังถูกพิพากษาลงโทษฐานลักโทรศัพท์และแว่นกันแดดจากศพของมิลเลอร์ ด้านทนายความจำเลยกล่าวว่าจะอุทธรณ์คดีโดยเร็วที่สุด และจะมองหาช่องโหว่เพื่ออุทธรณ์[21] ในเดือนพฤษภาคม 2559 และ 2560 ความพยายามอุทธรณ์คำพิพากษาไม่เป็นผลในศาลเกาะสมุยและศาลสูงตามลำดับ[26] ศาลฎีกาพิพากษายืนโทษในเดือนสิงหาคม 2562 โดยระบุว่าตำรวจจัดการคดีได้อย่างถูกต้องและหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ "ชัดเจน น่าเชื่อถือ และละเอียด"[11][27]
มีการลดโทษประหารชีวิตเหลือจำคุกตลอดชีวิตในวันที่ 14 สิงหาคม 2563 หลังมีพระราชกฤษฎีกาเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว[4][15] ด้านครอบครัวของมิลเลอร์ยินดีกับการลดโทษดังกล่าว[28]
ปฏิกิริยา
[แก้]การสอบสวนถูกวิจารณ์จากสื่อต่างประเทศ กลุ่มสิทธิมนุษยชน และผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย องค์การนิรโทษกรรมสากลแถลงว่าประเทศไทยจะต้องเริ่มการสอบสวนอย่างเป็นอิสระ มีประสิทธิภาพ และโปร่งใสต่อข้อกล่าวหาการทรมานและการปฏิบัติมิชอบของตำรวจ องค์การฯ ยังต้องข้อกังวลต่อการขาดที่ปรึกษาทางกฎหมายก่อนมีคำรับสารภาพ ตลอดจนความยากลำบากในการแปลภาษาและตีความ[18][29][6] ฮิวแมนไรตส์วอตช์กล่าวว่าคดีนี้ "น่ากังวลใจอย่างยิ่ง" และเรียกร้องให้มีการทบทวนคำพิพากษาในกระบวนการอุทธรณ์ที่โปร่งใสและเป็นธรรม[12] คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติกล่าวว่า พฤติการณ์แวดล้อมการจับกุมคนงานชาวพม่าสองคนน่าเคลือบคลุมสงสัย ทำให้เกิดความประทับใจว่าผู้ต้องสงสัยไม่ทราบสิทธิของพวกตนและยังไม่เกิดความยุติธรรม[30]
คณะกรรมการนักนิติศาสตร์ระหว่างประเทศกล่าวว่า ฝ่ายจำเลยจะต้องได้รับเวลาและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมเพื่อสำรวจว่าการทำลายหลักฐานตามที่มีการกล่าวหาในคดีนี้เหมาะสมและหลีกเลี่ยงไม่ได้หรือไม่ และต้องทดสอบคดีโดยรวม หลายคนตั้งข้อกังวลว่าการปนเปื้อนทำให้เกิดความสงสัยต่อหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ ด้วยพบว่ามีข้าราชการ นักหนังสือพิมพ์ และนักท่องเที่ยวเดินเตร่อยู่รอบที่เกิดเหตุ และตำรวจไม่ได้ให้ผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกหรือเป็นอิสระเก็บหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์[1][13] พรทิพย์ โรจนสุนันท์ นักนิติวิทยาศาสตร์ ให้การในการพิจารณาคดีว่าการจัดการที่เกิดเหตุนั้นจัดการได้เลว[13] เฟลิซิตี เจร์รี (Felicity Gerry) กล่าวว่าการพิจารณาคดีเร่งรัดเกินไปและไม่ยุติธรรมต่อฝ่ายจำเลย ผู้เชี่ยวชาญยังมองว่าการสอบสวนทางนิติวิทยาศาสตร์นั้นขาดความสามารถและอาจใส่ความผู้ต้องสงสัย[31]
ความเห็นในหนังสือพิมพ์ บางกอกโพสต์ เขียนว่า "แทบไม่มีใครเชื่อว่า [Zaw Lin และ Wai Phyo] ฆ่านักท่องเที่ยวชาวอังกฤษอย่างโหดร้ายจริง ๆ" โดยเสริมว่า "ในสื่อไทยทุกประเภท มีความเห็นพ้องว่า Win และ Zaw Lin เป็นแพะรับบาป"[32] ความเห็นในหนังสือพิมพ์อีกฉบับหนึ่งระบุว่า "ความกังขาของสาธารณชนอย่างล้นหลาม ... เกิดจากชื่อเสียยาวนานของตำรวจในการจับแพะรับบาปที่ยากจนและไร้อำนาจเพื่อช่วยอาชญากรผู้ร่ำรวยที่สามารถซื้อความบริสุทธิ์ได้"[2] ข่าวลือเริ่มแพร่สะพัดโดยผู้อยู่อาศัยบนเกาะกล่าวว่าเกาะนี้ถูกมาเฟียคุมอยู่ที่ "มีข้อมูลเกี่ยวกับผู้ร้ายที่แท้จริง" และอ้างว่าตำรวจกำลังปกปิดพวกเขา[33][34]
คำพิพากษาว่ามีความผิดส่งผลให้เกิดอย่างกว้างขวางในประเทศพม่า[2] ผู้ประท้วงเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยทั้งสองซึ่งพวกเขาเชื่อว่าบริสุทธิ์และเป็นแพะรับบาป[35][36] การประท้วงนี้ทำให้ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โกรธโดยเชื่อว่าการประท้วงดังกล่าวเป็นอุบาย "ปลุกปั่น" เพื่อให้ร้ายรัฐบาล เขาประกาศว่าจะ "สั่งการหน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งหมด ... ติดตามผู้อยู่เบื้องหลังการเดินขบวนในประเทศพม่า"[36][37]
ประยุทธ์ยังกล่าวว่า "ปัญหาเกี่ยวกับความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวมีอยู่เสมอ พวกเขาคิดว่าประเทศของเราสวยงามและปลอดภัย ก็เลยทำอะไรที่อยากทำ พวกเขาใส่บิกินี่และเดินไปไหนก็ได้ พวกเขาคิดว่าใส่บิกินี่แล้วปลอดภัยเหรอ...เว้นแต่ว่าไม่สวย" ต่อมาเขากล่าวขอโทษหลังเผชิญกับปฏิกิริยาทางลบของสาธารณะ[38][39] รัฐบาลสหราชอาณาจักรแสดงความกังวลต่อการสืบสวน และเรียกตัวทูตไทยในกรุงลอนดอนเข้าพบเพื่อหารือ[14][40] แม้ในทีแรกไม่ได้รับอนุญาตให้ช่วยสืบสวน แต่สุดท้ายผู้สังเกตการณ์ของตำรวจบริติชได้รับอนุญาตให้ช่วยเหลือ[2] แต่ได้ใช้เวลาบนเกาะเต่าเพียงสองชั่วโมงและไม่ได้พบกับผู้ต้องสงสัยและทนายความจำเลย ข้อค้นพบของผู้แทนฯ ไม่ได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณะ[2][8] ประยุทธ์กล่าวว่าผู้แทนรัฐบาลบริติชและพม่าถูก "จำกัดให้สังเกตการณ์" และต้อง "เคารพกระบวนการของเรา"[19]
เหตุฆ่าคนดังกล่าวร่วมกับการเสียชีวิตและการหายสาบสูญของนักท่องเที่ยวกรณีอื่น ๆ ทำให้แทบลอยด์บริติชขนานนามเกาะเต่าว่าเป็น "เกาะมรณะ"[39] การศึกษาในปี 2559 เขียนว่าคดีดังกล่าวเป็นการทดสอบลิตมัสของระบบยุติธรรมไทย "ทำร้ายภาพลักษณ์ของไทยและอำนาจด้านกฎหมายและความสงบเรียบร้อยในระดับโลกของประเทศอย่างร้ายแรง"[2]
ผลกระทบต่อการท่องเที่ยว
[แก้]รัฐบาลไทยกังวลว่าเหตุฆ่าคนดังกล่าวอาจมีผลต่อการท่องเที่ยวในประเทศ มีข่าวว่านายกรัฐมนตรีโทรศัพท์ไปสอบถามผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเพื่อสอบถามเรื่องการสืบสวนเป็นรายวัน[2] ในระหว่างการสืบสวน กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินทางไปเกาะเต่าในวันที่ 28 กันยายนเพื่อพยายามสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยว[41] เธอยังเสนอให้มีสายรัดข้อมือพิสูจน์รูปพรรณแก่นักท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มความปลอดภัย แต่ต่อมายกเลิกความคิดนี้ไปอย่างรวดเร็ว[2] นายกเทศมนตรีตำบลเกาะเต่าประกาศการตั้งสถานีตำรวจแห่งใหม่ที่มีตำรวจประจำอยู่เต็มเวลา 40 นาย เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีอยู่ 5 นาย มีการกำหนดให้คนงานเข้าเมืองชาวพม่าขึ้นทะเบียนกับตำรวจเพื่อลดคนงานผิดกฎหมายและป้องกันการให้สินบน[1][42]
แม้ว่านักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเกาะเต่าจะลดลงในช่วงหลายเดือนหลังเกิดเหตุฆ่าคน แต่ก็มีผลกระทบระยะยาวต่อการท่องเที่ยวบนเกาะเพียงเล็กน้อย[2]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.00 1.01 1.02 1.03 1.04 1.05 1.06 1.07 1.08 1.09 1.10 1.11 Campbell, Charlie (16 July 2015). "This Septic Isle: Backpackers, Bloodshed and the Secretive World of Koh Tao". Time. สืบค้นเมื่อ 2021-01-28.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ 2.00 2.01 2.02 2.03 2.04 2.05 2.06 2.07 2.08 2.09 2.10 2.11 2.12 2.13 2.14 2.15 2.16 2.17 2.18 2.19 2.20 2.21 2.22 2.23 2.24 Cohen, Erik (2016-09-01). "Contesting narratives: the Koh Tao tourists murders". Asian Anthropology. 15 (3): 207–224. doi:10.1080/1683478X.2016.1204021. ISSN 1683-478X.
- ↑ 3.0 3.1 3.2 3.3 3.4 Olarn, Kocha (18 September 2014). "Police: Still no suspect in killings of Britons on idyllic Thai island". CNN.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ 4.0 4.1 "Thai king commutes death sentence of UK pair's killers". BBC News (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2020-08-16. สืบค้นเมื่อ 2021-01-28.
- ↑ 5.0 5.1 5.2 5.3 Halliday, Josh (16 September 2014). "British tourists murdered in Thailand". The Guardian.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ 6.0 6.1 "Thailand murders: Amnesty International call for police torture probe". BBC News (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2015-12-24. สืบค้นเมื่อ 2021-01-28.
- ↑ 7.0 7.1 Henderson, Barney (15 September 2014). "Two British tourists found dead on Thai island of Koh Tao". The Telegraph.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ 8.0 8.1 8.2 8.3 8.4 "Suspects in Thai Tourist Murders Face Dubious Trial". Time. สืบค้นเมื่อ 2021-01-28.
- ↑ James, Bob (15 September 2014). "Manhunt underway after brutal murder of 2 British tourists on Koh Tao". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2021-03-05.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ 10.0 10.1 Campbell, Charlie (23 September 2014). "What the Murder of Two British Tourists Tells Us About Thailand's Dark Side". Time. สืบค้นเมื่อ 2021-01-28.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ 11.0 11.1 11.2 11.3 11.4 Regan, Helen; Puranasamriddhi, Angie (29 August 2019). "Thailand's Supreme Court upholds death penalty for men convicted of murdering British backpackers". CNN.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ 12.0 12.1 Walker, Oliver Holmes Peter (2015-12-24). "Thailand backpacker murders: Burmese workers sentenced to death". The Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). ISSN 0261-3077. สืบค้นเมื่อ 2021-01-29.
- ↑ 13.0 13.1 13.2 13.3 13.4 Head, Jonathan (24 December 2015). "Thailand beach murders: A flawed and muddled investigation". BBC News (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2021-01-28.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ 14.0 14.1 14.2 14.3 Fuller, Thomas (2014-10-14). "Hearings Open Into Killings of Two British Tourists on Thai Island (Published 2014)". The New York Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0362-4331. สืบค้นเมื่อ 2021-01-28.
- ↑ 15.0 15.1 "Thai king commutes death sentence for Myanmar men in British tourist murder case". Reuters (ภาษาอังกฤษ). 2020-08-14. สืบค้นเมื่อ 2021-02-01.
- ↑ 16.0 16.1 Olarn, Kocha; Armstrong, Paul (3 October 2014). "Burmese men confess to killing British tourists on Koh Tao, Thai police say". CNN.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ 17.0 17.1 Campbell, Charlie (10 October 2014). "The Investigation Into Thailand's Backpacker Slayings Is Officially a Farce". Time. สืบค้นเมื่อ 2021-01-28.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ 18.0 18.1 18.2 McKirdy, Euan (9 October 2014). "Migrants accused of murder of British couple in Thailand recant confessions". CNN.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ 19.0 19.1 "Thai Dictator Faces Ire Over Murder Probe". Time. สืบค้นเมื่อ 2021-01-28.
- ↑ "Koh Tao murder suspects plead not guilty". Bangkok Post. 9 December 2014. สืบค้นเมื่อ 2021-03-06.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ 21.0 21.1 Paul, Armstrong (24 December 2015). "Burmese pair to be executed for murder of British tourists on Koh Tao, Thailand". CNN.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ Fuller, Thomas (2015-12-24). "2 Sentenced to Death in Killing of British Tourists in Thailand (Published 2015)". The New York Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0362-4331. สืบค้นเมื่อ 2021-01-28.
- ↑ Burney, Ian; Hamlin, Christopher (2019). Global Forensic Cultures. Johns Hopkins University Press. p. 247.
- ↑ Burney, Ian; Hamlin, Christopher (2019). Global Forensic Cultures. John Hopkins University Press. p. 248.
- ↑ "Thailand murders: Two men found guilty and face death for UK killings". BBC News (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2015-12-24. สืบค้นเมื่อ 2021-03-06.
- ↑ "Thai beach murders: Convicted men lose death sentence appeal". BBC News (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2017-03-01. สืบค้นเมื่อ 2021-01-28.
- ↑ "Thai beach murders: Death sentence upheld by Supreme Court". BBC News (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2019-08-29. สืบค้นเมื่อ 2021-01-28.
- ↑ "Backpacker's family 'grateful' for Thai king's clemency". BBC News (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2020-08-16. สืบค้นเมื่อ 2021-02-01.
- ↑ "Myanmar suspects 'recant confessions'". Bangkok Post. 9 October 2014. สืบค้นเมื่อ 2021-01-28.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ Ashayagachat, Achara (8 October 2014). "Koh Tao pair claim they were tortured before confessing". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2021-03-06.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ Mortimer, Caroline (26 April 2016). "Thai beach murders: DNA investigation into death of British backpackers Hannah Witheridge and David Miller 'incompetent at best'". The Independent.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ Dawson, Alan (12 October 2014). "The big issue: The unsolved murders". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2021-03-06.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ Phillips, Tom (26 December 2014). "Koh Tao murders: suspects in killing of David Miller and Hannah Witheridge say they were framed". The Telegraph (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2021-03-06.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ Walker, Peter (2014-11-23). "Koh Tao's dark side: dangers of island where Britons were murdered". The Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). ISSN 0261-3077. สืบค้นเมื่อ 2021-03-06.
- ↑ "Thai officials on alert as Myanmar protests spread". Bangkok Post. 26 December 2015. สืบค้นเมื่อ 2021-03-07.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ 36.0 36.1 "Prayut lashes out at Myanmar Koh Tao protestors". Bangkok Post. 28 December 2015. สืบค้นเมื่อ 2021-03-07.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "Prawit suspects Koh Tao plot". Bangkok Post. 29 December 2015. สืบค้นเมื่อ 2021-03-07.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "Koh Tao 'an island in shock'". BBC News (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2021-01-28.
- ↑ 39.0 39.1 Paddock, Richard C.; Suhartono, Muktita (2018-11-03). "Thai Paradise Gains Reputation as 'Death Island'". The New York Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0362-4331. สืบค้นเมื่อ 2021-01-28.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ Halliday, Josh (13 October 2014). "Foreign Office calls in Thai diplomat over murder inquiry concerns". The Guardian.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ Chaolan, Surapong (29 September 2014). "3 sought for Koh Tao murders". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2021-03-05.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "Island killings prompt stiffer worker rules". Bangkok Post. 23 September 2014. สืบค้นเมื่อ 2021-01-28.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์)