การออกแบบแฟชั่น
การออกแบบแฟชั่น (อังกฤษ: fashion design) ถือเป็นศิลปะการถักทอชีวิตการเป็นอยู่ของคนลงบนเสื้อผ้า โดยใช้เวลา สถานที่ วัฒนธรรมและประเพณีเป็นพื้นฐานในการสร้างสรรค์[1][2] ในหนึ่งปีคอลเลคชั่นของเสื้อผ้าจะแบ่งออกเป็น 3 ฤดูกาลคือ คอลเลคชั่นฤดูหนาว คอลเลคชั่นฤดูร้อนและคอลเลคชั่นฤดูใบไม้ผลิ
ประเภทของนักออกแบบแฟชั่น
[แก้]นักออกแบบแฟชั่นสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทที่ทำงานเต็มเวลากับบริษัทที่มีชื่อเสียง[3] และประเภทที่ทำเป็นงานเสริมเพื่อแบรนด์ของตัวเองแล้วส่งให้ร้านค้า[4] โดยร้านค้าจะส่งรูปแบบที่ได้รับจากนักออกแบบแฟชั่นให้โรงงานทอผ้า โรงงานทอผ้ามีหน้าที่ผลิตเสื้อผ้าและลงป้ายบอกขนาดของแต่ละตัว บวกกับพิมพ์รับรองคุณภาพ นักออกแบบแฟชั่นบางคนออกแบบป้ายด้วยตัวเองเพื่อให้เข้ากับกลุ่มตลาดที่เขาต้องการ
นอกจากนี้นักออกแบบแฟชั่นบางคนนักออกแบบแฟชั่นประจำตัวของผู้มีชื่อเสียง ในโลกของแฟชั่นชั้นสูง นักออกแบบแฟชั่นจะส่งผลงานให้กับโรงงานที่ทำเกี่ยวกับแฟชั่นชั้นสูงเพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะแบรนด์ดังนั้นจะมีทีมออกแบบอยู่แล้วแต่การควบคุมงานอยู่ในกำมือของเจ้าของแบรนด์อยู่ดี
คอลเลคชั่น
[แก้]คอลเลคชั่นเป็นการทำงานที่นักออกแบบแฟชั่นเอาผลงานออกแบบหลาย ๆ ชิ้นมาประกอบกัน เพื่อให้เกิดเทรนด์ใหญ่ในตลาดทั้งแฟชั่นชั้นสูงและตลาดใหญ่ นักออกแบบแฟชั่นเวลาออกแบบต้องเอาหลายสิ่งหลายอย่างเข้ามาคิดด้วย ไม่ว่าจะเป็นมุมมองของลูกค้า รูปแบบเก่า ๆ ในตลาด รูปแบบของคู่แข่ง และเทรนด์ที่มีในท้องตลาดในขณะนั้น รวมไปถึงซีซั่นของคอลเลคชั่นนั้น ๆ [1]
การออกแบบชุด
[แก้]นักออกแบบแฟชั่นสามารถทำงานได้หลายแบบไม่ว่าจะลงบนกระดาษ หรือทาบผ้าบนหุ่นเพื่อให้เกิดทรงของชุด หลังจากที่เสร็จก็จะเอาคนออกแบบลวดลายเข้ามาช่วย แล้วทำลวดลายตามที่นักออกแบบแฟชั่นต้องการ การออกแบบลวดลายถือเป็นงานที่มีความเครียดสูง เพราะต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการทำงาน ความสวยของชุดขึ้นอยู่กับการทำลวดลายให้เข้ากัน ในที่สุดตัวอย่างก็จะใช้ลองสวมบนตัวนางแบบจริง[5]
ประวัติศาสตร์
[แก้]อุตสาหกรรมสิ่งถักทอนั้นได้เริ่มต้นขึ้นในศตวรรษที่ 19 เมื่อผลงานของ Charles Frederick Worth ได้รับการติดป้ายผลงาน เรื่องราวก่อนหน้านี้มีอยู่ว่า นักออกแบบแฟชั่นส่วนมากนั้นออกแบบโดยหวังขายกับราชวงศ์โดยที่ไม่รู้ว่าดีไซเนอร์คือใคร แต่เมื่อเวลาผ่านไป คนเริ่มรู้จักการเป็นนักออกแบบแฟชั่นมากขึ้น นักออกแบบแฟชั่นสามารถบอกได้ว่าบุคคลแต่ละบุคคลควรใส่อะไรให้เหมาะกับตัวเอง แทนที่จะใส่ตามมีตามเกิด และเหมือนกันหมด คำว่า couturier จึงตั้งขึ้นเป็นการเรียกนักออกแบบแฟชั่นประเภทนี้ เดี๋ยวนี้หลากหลายบ้านทอผ้าว่าจ้างศิลปินมาให้แต่งแต้มผ้าดิบให้ภาพเหล่านี้ได้มีการออกป่าวประกาศให้ทุกคนได้เห็น ดังนั้นคนจึงสนใจมากกว่ามานั่งถักทอด้วยตนเองเพราะประหยัดเงินกว่า เมื่อลูกค้าชอบก็จะสั่งให้บ้านถักทอทำ และทำใหเกิดกำไรจากการทำงาน ทุกอย่างทำให้เกิดวัฒนธรรมที่ว่านักออกแบบแฟชั่นออกแบบให้ลูกค้าดูก่อนที่จะทำจริง
การออกแบบมีวิธีการหลายประเภท
- Haute couture: ออกแบบชุดให้สังคมชั้นสูง โดยชุดจะมีราคาแพงเพราะใช้เวลานานในการตัดเย็บ และมีความละเอียดอ่อนมาก[6][7][8]
- Ready to wear: ออกแบบชุดเดิมหลายขนาด แต่ออกมาไม่เยอะในแต่ละขนาด[9][10]
- Mass market: ทำออกมาเพื่อคนหลายกลุ่ม หลายรุ่น หลายวัย.[11][12][13]
รายได้
[แก้]โดยมากนั้นนักออกแบบแฟชั่นที่มีความสามารถมีรายได้สูงถึง 42,150 ถึง 87,120 ดอลลาร์ต่อปี ในเดือนพฤษภาคมปี ค.ศ. 2008 ประเทศสหรัฐอเมริกาได้เปิดเผยตัวเลขจากการวิจัยของ US Bureau of Labor โดยเฉลี่ยแล้วนักออกแบบแฟชั่นได้รับรายได้ประมาณ 61,160 ดอลลาร์ต่อปี โดยเกินครึ่งได้มากกว่า 34,800 ดอลลาร์ต่อปี มีประมาณร้อยละ 10 ที่ได้ต่ำกว่า 32,150 ดอลลาร์ต่อปี และอีกร้อยละ 10 ที่ได้มากกว่า 124,780 ดอลลาร์ต่อปี[14]
การออกแบบแฟชั่นรอบโลก
[แก้]หลายประเทศมีอุตสาหกรรมสิ่งทอของตัวเอง เช่น เบลเยี่ยม สเปน โปตุเกส อินเดีย บราซิล เนเธอแลนด์ เยอรมัน โปแลนด์ ออสเตรเลีย เป็นต้น แต่มีเพียง 5 ประเทศที่มีชื่อเสียงในระดับสากล ได้แก่ ฝรั่งเศส อังกฤษ อเมริกา อิตาลี และญี่ปุ่น
การออกแบบแฟชั่นในอเมริกา
[แก้]ส่วนมากตลาดของประเทศมีฐานอยู่ที่นิวยอร์ก แต่ก็มีบางส่วนอยู่ที่ลอสแอนเจลิส จุดเด่นของรูปแบบของที่นี่คือ การตัดที่เนี๊ยบ สไตล์เรียบง่าย สบาย ๆ บ่งบอกถึงความเป็นนักกีฬาสูง แบรนด์ที่มีอิทธิพลมากที่สุดใน ค.ศ. 1940-1950 คือ Claire McCardell แบรนด์ดังอื่น ๆ ที่มีอิทธิพลเหมือนกัน เช่น Calvin Klein, Ralph Lauren, Anna Sui, Donna Karan, Kenneth Cole, Marc Jacobs, Michael Kors, Vera Wang, Betsey Johnson, Tommy Hilfiger, Villains SF เก็บถาวร 2016-04-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เป็นต้น
การออกแบบแฟชั่นในอังกฤษ
[แก้]ลอนดอนเป็นศูนย์ของอุตสาหกรรมสิ่งถักทอของอังกฤษ และมีอิทธิพลจากหลากหลายประเทศส่งผลต่อแฟชั่นสมัยใหม่ในปัจจุบัน รูปแบบโดยทั่วไปของอังกฤษนั้นดูซับซ้อนและฉลาด ยิ่งเดี๋ยวนี้รูปแบบยิ่งมีเอกลักษณ์มากขึ้น แบรนด์ที่มีชื่อเสียงในอังกฤษมีอยู่มากมาย เช่น Burberry, Jimmy Choo, Paul Smith, Vivienne Westwood, Stella McCartney, John Galliano Alexandar McQueen เป็นต้น
การออกแบบแฟชั่นในฝรั่งเศส
[แก้]ตลาดของฝรั่งเศสส่วนมากอยู่ในปารีส รูปแบบแฟชั่นของที่นี่มีความโดดเด่นมาก ต้องดูเก๋ แต่เรียบหรูจากการตัดเย็บที่เนี๊ยบและละเอียดมาก โดยมีแบรนด์ที่มีชื่อเสียง เช่น Louis Vuitton, Balmain, Chanel, Christian Dior, Givenchy, Yves Saint Laurant เป็นต้น
การออกแบบแฟชั่นในญี่ปุ่น
[แก้]ญี่ปุ่นเป็นประเทศเดียวในเอเชียที่มีรูปแบบแฟชั่นเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ตลาดส่วนใหญ่อยู่ที่โตเกียว งานของที่นี่มีความปล่อยโล่งและซับซ้อน เป็นเหตุมาจากการตัดเย็บที่ซับซ้อนตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ ส่วนสีนั้นจะเป็นโทนนุ่ม และลวดลายมากมาย มีนักออกแบบที่มีชื่อเสียงหลายคน เช่น Yohji Yamamoto, Kenzo, Issey Miyake, Comme des Garcons’s Rei Kawakubo เป็นต้น
ผู้มีส่วนร่วม
[แก้]- Fashion designer – ผู้ออกแบบทรงชุด
- Pattern maker - ผู้ออกแบบลวดลาย
- Tailor - ผู้ทอ
- Textile designer - ผู้ออกแบบเนื้อผ้า
- Stylist - ผู้เลือกชุดให้เข้ากับเครื่องประดับ
- Buyer - ผู้ซื้อที่มีรสนิยม
- Seamstress - ผู้ทำชุด ready to wear อาจเป็นแค่คนคุมเครื่อง
- Teacher of fashion designer - ผู้สอนศิลปะและการทำงานที่อยู่ในอุตสาหกรรมแฟชั่น
- Custom clothier - ผู้ผลิตผ้าและส่งต่อให้โรงงาน
- Illustrator - ผู้ทำโฆษณาขายชุด
- Model - ผู้ใส่ชุดแสดงผลงาน และถ่ายแบบ
- Fit model - หุ่นสำหรับใช้ในการออกแบบชุด
- Fashion Journalist - ผู้เขียนเกี่ยวกับการมาของเทรนด์
- Fashion advisor - ผู้ให้ความเห็นเกี่ยวกับสไตล์สี
- Photographer - ช่างภาพดูแลภาพลักษณ์ของงาน
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 คอลัมน์‘แฟชั่นนิพนธ์’ภูมิปัญญาไทยจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ฉบับวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2557 สืบค้นวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2557
- ↑ Description of Designers from Occupation Outlook Handbook เก็บถาวร 2011-11-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน สืบค้นวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2557
- ↑ "In Praise of In-House Designers". Graphicpush. Graphicpush. สืบค้นเมื่อ 13 May 2012.
- ↑ Steven Snell (5 August 2009). "17 Tips for Designers on Starting a Freelance Business" (Article). Design Mag. DesignMag. สืบค้นเมื่อ 13 May 2012.
- ↑ บทความเรื่อง 4 กูรูแฟชั่นชั้นนำของไทย แนะเทคนิคแก้ไขรูปร่างด้วยเสื้อผ้าจากเว็บไซต์ artbangkok.com เก็บถาวร 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน สืบค้นวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2557
- ↑ "What is Haute Couture?". Haute Couture Hot. HauteCoutureNews.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-06-12. สืบค้นเมื่อ 13 May 2012.
- ↑ Pauline Weston Thomas. "Haute Couture Fashion History" (Article). Fashion-Era.com. Fashion-Era.com. สืบค้นเมื่อ 13 May 2012.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-04-12. สืบค้นเมื่อ 2014-04-03.
- ↑ "What is pret-a-porter?". Answers. Answers Corporation. สืบค้นเมื่อ 13 May 2012.
- ↑ "Bespoke vs. Made To Measure vs. Off The Rack – What's The Difference?". Real Men Real Style. RMRS. สืบค้นเมื่อ 13 May 2012.
- ↑ Catherine Valenti (1 May 2012). "Designers Flock to Mass-Market Retailers" (Article). ABC News. ABC News. สืบค้นเมื่อ 13 May 2012.
- ↑ Sameer Reddy (31 October 2008). "Out from Underground" (Article). The Daily Beast. Newsweek Magazine. สืบค้นเมื่อ 13 May 2012.
- ↑ Stephania Lara (22 June 2010). "Mass market broached by high-end fashion". The Prospector. College Media Network. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (Article)เมื่อ 2013-11-02. สืบค้นเมื่อ 13 May 2012.
- ↑ "Fashion Designers". Occupational Outlook Handbook. U.S. Bureau of Labor Statistics. สืบค้นเมื่อ 13 May 2012.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ แฟชั่น
- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ การออกแบบแฟชั่นในอเมริกา
- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ การออกแบบแฟชั่นในเยอรมนี