ฮวนกาย
ฮวนกาย (หฺวาน เจีย) | |
---|---|
桓階 | |
เสนาบดีพิธีการ (太常 ไท่ฉาง) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. ? – ค.ศ. ? | |
กษัตริย์ | โจผี |
ขุนนางมหาดเล็ก (侍中 ชื่อจง) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. 220 – ค.ศ. ? | |
กษัตริย์ | โจผี |
หัวหน้าสำนักราชเลขาธิการ (尚書令 ช่างชูลิ่ง) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. 220 – ค.ศ. ? | |
กษัตริย์ | โจผี |
ราชเลขาธิการ (尚書 ช่างชู) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. ? – ค.ศ. 220 | |
กษัตริย์ | พระเจ้าเหี้ยนเต้ |
หัวหน้ารัฐบาล | โจโฉ |
ขุนนางมหาดเล็ก (侍中 ชื่อจง) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. 213 – ค.ศ. ? | |
กษัตริย์ | พระเจ้าเหี้ยนเต้ |
หัวหน้ารัฐบาล | โจโฉ |
ขุนพลราชองครักษ์หู่เปิน (虎賁中郎將 หู่เปินจงหลางเจี้ยง) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. 213 – ค.ศ. ? | |
กษัตริย์ | พระเจ้าเหี้ยนเต้ |
หัวหน้ารัฐบาล | โจโฉ |
เจ้าเมืองเจ้าจฺวิ้น (趙郡太守 เจ้าจฺวิ้นไท่โฉ่ว) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. ? – ค.ศ. 213 | |
กษัตริย์ | พระเจ้าเหี้ยนเต้ |
หัวหน้ารัฐบาล | โจโฉ |
นายทะเบียนของอัครมหาเสนาบดี (丞相主簿 เฉิงเซี่ยงจู่ปู้) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. 208 – ค.ศ. ? | |
กษัตริย์ | พระเจ้าเหี้ยนเต้ |
หัวหน้ารัฐบาล | โจโฉ |
ขุนนางสำนักราชเลขาธิการ (尚書郎 ช่างชูหลาง) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. ? – ค.ศ. ? | |
กษัตริย์ | พระเจ้าเลนเต้ / พระเจ้าเหี้ยนเต้ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | ไม่ทราบ นครหลินเซียง มณฑลหูหนาน |
เสียชีวิต | ไม่ทราบ |
บุตร |
|
บุพการี |
|
ญาติ |
|
อาชีพ | ขุนนาง |
ชื่อรอง | ปั๋วซฺวี่ (伯緒/伯序) |
สมัญญานาม | เจินโหว (貞侯) |
บรรดาศักดิ์ | อันเล่อเซียงโหว (安樂鄉侯) |
ฮวนกาย[a], เต๊งไก่[b] หรือ หองไก่[c] (มีบทบาทในช่วงคริสต์ทศวรรษ 190–220) มีชื่อในภาษาจีนกลางว่า หฺวาน เจีย (จีน: 桓階; พินอิน: Huán Jiē) ชื่อรอง ปั๋วซฺวี่ (จีน: 伯緒/伯序; พินอิน: Bóxù) เป็นขุนนางชาวจีนในช่วงปลายยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันออกและรับใช้ขุนศึกโจโฉ หลังการล่มสลายของราชวงศ์ฮั่นตะวันออก ฮวนกายได้รับราชการกับรัฐวุยก๊กในยุคสามก๊กเป็นระยะเวลาสั้น ๆ[6]
ภูมิหลังครอบครัว[แก้]
ฮวนกายเป็นชาวอำเภอหลินเซียง (臨湘縣 หลินเซียงเซี่ยน) เมืองเตียงสา (長沙郡 ฉางชาจฺวิ้น) ซึ่งปัจจุบันคือนครหลินเซียง มณฑลหูหนาน[7] ปู่ของฮวนกายชื่อหฺวาน เชา (桓超) บิดาของฮวนกายชื่อหฺวาน เชิ่ง (桓勝) ทั้งคู่รับราชการเป็นเจ้าเมืองในยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันออก หฺวาน เชิ่งยังเป็นราชเลขาธิการ (尚書 ช่างชู) ในสำนักราชเลขาธิการและมีชื่อเสียงในพื้นที่ภาคใต้ของจีน[8]
การรับราชการช่วงต้น[แก้]
ฮวนกายเริ่มรับราชการในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ปกครอง (功曹) ในเมืองเตียงสาอันเป็นเมืองบ้านเกิด ในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 187 และ ค.ศ. 190 เมื่อซุนเกี๋ยนดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าเมือง (太守 ไท่โฉ่ว) ของเมืองเตียงสา ซุนเกี๋ยนได้เสนอชื่อฮวนกายให้เป็นเซี่ยวเหลียน ราชสำนักฮั่นจึงเรียกตัวฮวนกายมายังนครหลวงลกเอี๋ยงให้มารับราชการเป็นเจ้าหน้าที่สำนักราชเลขาธิการ (尚書郎 ช่างชูหลาง) เมื่อบิดาของฮวนกายเสียชีวิต ฮวนกายได้ลาออกจากตำแหน่งกลับมาบ้านเพื่อไว้ทุกข์[9]
ในปี ค.ศ. 191 หลังจากซุนกวนถูกสังหารในที่รบในยุทธการที่ซงหยงที่รบกับเล่าเปียวเจ้ามณฑลเกงจิ๋ว ฮวนกายกล้าเสี่ยงเดินทางไปซงหยงเพื่อขอให้เล่าเปียวมอบศพของซุนเกี๋ยนให้ตนเพื่อจะได้จัดงานศพอย่างเหมาะสมให้กับซุนเกี๋ยน เล่าเปียวรู้สึกประทับใจในคุณธรรมของฮวนกายจึงตกลง[10] ภายหลังฮวนกายคืนศพของซุนเกี๋ยนให้กับครอบครัวของซุนเกี๋ยน ซึ่งได้นำศพไปฝังที่อำเภอขยกโอ๋ (曲阿縣 ชฺวีเออเซี่ยน; อยู่ในนครตานหยาง มณฑลเจียงซูในปัจจุบัน)[11]
การรับราชการกับจาง เซี่ยนและเล่าเปียว[แก้]
ในปี ค.ศ. 200 เมื่อขุนศึกโจโฉและอ้วนเสี้ยวรบกันในยุทธการที่กัวต๋อ เล่าเปียวต้องรวบรวมกำลังพลจากเมืองต่าง ๆ ทั่วมณฑลเกงจิ๋ว (ครอบคลุมพื้นที่ของมณฑลหูเป่ย์และมณฑลหูหนานในปัจจุบัน) เพื่อส่งไปโจมตีโจโฉและสนับสนุนอ้วนเสี้ยว[12] เมื่อฮวนกายได้ยินเรื่องนี้จึงไปพบจาง เซี่ยน (張羨) เจ้าเมืองเตียงสา และบอกว่า:
"ไม่เคยมีเรื่องความพ่ายแพ้ในประวัติศาสตร์ที่ไม่เกิดขึ้นกับใครก็ตามที่เริ่มสงครามโดยปราศจากเหตุผลที่ชอบธรรม นี่คือสาเหตุที่เจ๋ฮวนก๋ง (齊桓公 ฉีหฺวานกง) นำเจ้านายต่าง ๆ แสดงคำมั่นว่าจะภักดีต่อราชวงศ์จิว (周 โจว) และเป็นสาเหตุที่จิ้นบุนก๋ง (晉文公 จิ้นเหวินกง) เอาชนะผู้ชิงบัลลังก์และเชิญจิวเซียงอ๋อง (周襄王 โจวเซียงหวาง) กลับคืนครองบัลลังก์ บัดนี้ตระกูลอ้วนทำสิ่งที่ตรงกันข้าม หากเล่าเปียวตัดสินใจสนับสนุนตระกูลอ้วน ก็เหมือนหาเคราะห์ร้ายใส่ตน ท่านเจ้าเมืองผู้ชาญฉลาด ท่านควรใช้วิจารณญาณและสติปัญญาของท่านนำความรุ่งเรืองมาสู่ตนและหลีกเลี่ยงภัยพิบัติ ท่านไม่ควรเข้าร่วมกับคนพวกนั้น"[13]
จาง เซี่ยนถามฮวนกายว่าควรทำอย่างไรดี ฮวนกายตอบว่า:
"ท่านโจ (โจโฉ) อาจดูเหมือนกำลังจะพ่ายแพ้ในยามนี้ แต่เขาก็ยกตนเป็นผู้เชิดชูความชอบธรรม ช่วยเหลือราชสำนักจากการล่มจม และใช้อาณัติที่ได้รับพระราชทานจากจักรพรรดิในการลงโทษคนอธรรม ใครจะกล้ายืนขวางหน้าเขาเล่า หากท่านโน้มน้าวให้เจ้าเมืองของทั้งสี่เมืองตอนใต้ของเกงจิ๋วให้รักษาตำแหน่งไว้จากนี้และสนับสนุนท่านโจเพื่อเขาโจมตีเล่าเปียว นั่นจะเป็นการดีที่สุด!"[14]
จาง เซี่ยนทำตามคำแนะนำของฮวนกายและประสบความสำเร็จในการโน้มน้าวเจ้าเมืองของสามเมืองใกล้เคียงคือบุเหลง (武陵; อยู่บริเวณนครฉางเต๋อ มณฑลหูหนานในปัจจุบัน), เลงเหลง (零陵 หลิงหลิง; อยู่บริเวณนครหย่งโจว มณฑลหูหนานในปัจจุบัน) และฮุยเอี๋ยง (桂陽 กุ้ยหยาง; อยู่บริเวณนครเชินโจว มณฑลหูหนานในปัจจุบัน) ให้ตัดสัมพันธ์กับเล่าเปียวและแปรพักตร์เข้าด้วยโจโฉ โจโฉยินดีมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้[15]
เวลานั้นโจโฉยังคงทำศึกกับอ้วนเสี้ยว จึงไม่สามารถนำทัพไปยังมณฑลเกงจิ๋วเพื่อโจมตีเล่าเปียว เล่าปียวใช้โอกาสของสถานการณ์นี้เข้าโจมตีจาง เซี่ยนที่เมืองเตียงสา จาง เซี่ยนเสียชีวิตด้วยอาการป่วยระหว่างถูกล้อม เมืองเตียงสาตกถูกทัพเล่าเปียวยึดได้หลังการเสียชีวิตของจาง เซี่ยน ฮวนกายเข้าหลบซ่อนตัวและเมืองเตียงสาถูกตีแตก[16]
ต่อมาเล่าเปียวให้อภัยแก่ฮวนกายในเรื่องที่ฮวนกายยุยงจาง เซี่ยนและเจ้าเมืองคนอื่นของอีก 3 เมืองให้ก่อกบฏต่อตน และรับฮวนกายเข้ารับราชการกับตนในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ผู้ช่วยและเจ้าหน้าที่พิธีบวงสรวง (從事祭酒 ฉงชื่อจี้จิ่ว) เล่าเปียวยังต้องการจัดให้ฮวนกายไดแต่งงานของน้องสาวของชัวฮูหยินภรรยาของเล่าเปียว แต่ฮวนกายปฏิเสธและบอกว่าตนแต่งงานแล้ว ฮวนกายยังอ้างว่าตนป่วยและปฏิเสธที่จะรับใช้เล่าเปียว[17]
การรับราชการกับโจโฉ[แก้]
ปลายปี ค.ศ. 208 หลังจากโจโฉรับการสวามิภักดิ์ของเล่าจ๋องผู้เป็นบุตรชายและผู้สืบทอดตำแหน่งของเล่าปียวในฐานะเจ้ามณฑลเกงจิ๋ว โจโฉได้ยินเรื่องที่ฮวนกายเคยให้คำแนะนำจาง เซี่ยนและเห็นว่าฮวนกายมีความสามารถไม่ธรรมดา จึงรับฮวนกายมารับราชการในตำแหน่งนายทะเบียน (主簿 จู่ปู้) ภายหลังเลื่อนตำแหน่งให้เป็นเจ้าเมือง (太守 ไท่โฉ่ว) ของเมืองเจ้าจฺวิ้น (趙郡; อยู่บริเวณนครหานตาน มณฑลเหอเป่ย์ในปัจจุบัน)[18]
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การรับราชการกับโจผี[แก้]
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ครอบครัว[แก้]
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ดูเพิ่ม[แก้]
หมายเหตุ[แก้]
- ↑ ชื่อที่ปรากฏในสามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ตอนที่ 6[1][2][3]
- ↑ ชื่อที่ปรากฏในสามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ตอนที่ 63[4]
- ↑ ชื่อที่ปรากฏในสามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ตอนที่ 63[5]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ ("ฮวนกายจึงว่าข้าพเจ้ากับเล่าเปียวได้รู้จักกันมาแต่น้อย ข้าพเจ้าจะขออาสาไปว่าแก่เล่าเปียวตามคำอุยกาย ซุนเซ็กได้ฟังก็มีความยินดีนักจึงให้ฮวนกายไป แลฮวนกายจึงเข้าไปหาเล่าเปียว") "สามก๊ก ตอนที่ ๖". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ May 13, 2023.
- ↑ ("เก๊งเหลียงจึงว่าแก่เล่าเปียวว่า ซึ่งท่านจะยอมให้ศพซุนเกี๋ยนไปนั้น ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วย แลซุนเกี๋ยนล่วงมาทำการครั้งนี้เพราะเปนคนใจหยาบช้าจึงถึงแก่ความตาย แลซุนเซ็กผู้บุตรนั้นก็ยังอ่อนความคิดอยู่ แลทหารทั้งปวงก็เห็นจะย่อท้อฝีมือทหารเรา ถ้าท่านฟัง ข้าพเจ้าจะคิดมิให้ทหารทั้งปวงเหลือกลับไปเมืองกังตั๋งได้แต่สักคนหนึ่งเลย ขอท่านให้จับฮวนกายฆ่าเสียเถิด แล้วยกทหารออกไปตี แลเมืองกังตั๋งนั้นก็จะได้เปนสิทธิแก่ท่าน ถ้าท่านมิฟังข้าพเจ้า แลจะให้ศพซุนเกี๋ยนไปนั้นเห็นจะมีอันตรายแก่ท่านเปนมั่นคง) "สามก๊ก ตอนที่ ๖". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ May 13, 2023.
- ↑ ("แล้วเล่าเปียวจึงว่าแก่ฮวนกาย ให้เร่งกลับออกไปเถิด เวลาพรุ่งนี้ให้เอาตัวหองจอมาส่งให้เราที่ประตูเมือง เราจะส่งศพซุนเกี๋ยนไปให้ ฮวนกายก็เอาเนื้อความกลับไปบอกแก่ซุนเซ็ก ๆ ก็มีความยินดี") "สามก๊ก ตอนที่ ๖". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ May 13, 2023.
- ↑ ("แล้วฮัวหิมอองลองซินเลียกกาเซี่ยงเล่าอี้เล่าฮัวตันเกียวตันกุนเต๊งไก่ขุนนางผู้ใหญ่ กับนายทหารประมาณสี่สิบคน พากันเข้าไปยังเมืองฮูโต๋ เข้าไปเฝ้าพระเจ้าเหี้ยนเต้") "สามก๊ก ตอนที่ ๖๓". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ May 13, 2023.
- ↑ ("พระเจ้าเหี้ยนเต้ขัดเคืองนักแต่ว่าจำเปนด้วยกลัว จึงสั่งให้หองไก่แต่งหนังสือ ในหนังสือนั้นว่าโจผีนี้สมควรอยู่แล้วที่จะรับราชสมบัติแทนเรา ด้วยเราคิดถึงโจโฉนัก แต่ก่อนบ้านเมืองเกิดศึกราษฎรก็ยับเยินไปอาศรัยอยู่ป่าดงมาก เพราะโจโฉปราบปรามข้าศึกบ้านเมืองก็ราบคาบราษฎรก็อยู่เย็นเปนสุข บัดนี้โจโฉหาบุญไม่แล้ว โจผีได้แทนบิดาเห็นมีบุญมากกว่าบิดาอีก ราษฎรทั้งปวงก็นิยมยินดีรักใคร่นัก ขอให้ท่านเสวยราชสมบัติแทนเราเถิด") "สามก๊ก ตอนที่ ๖๓". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ May 13, 2023.
- ↑ de Crespigny (2007), p. 335.
- ↑ (桓階字伯緒,長沙臨湘人也。) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 22.
- ↑ (魏書曰:階祖父超,父勝,皆歷典州郡。勝為尚書,著名南方。) อรรถาธิบายจากเว่ย์ชูในจดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 22.
- ↑ (仕郡功曹。太守孫堅舉階孝廉,除尚書郎。父喪還鄉里。) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 22.
- ↑ (會堅擊劉表戰死,階冒難詣表乞堅喪,表義而與之。) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 22.
- ↑ (堅薨,還葬曲阿。) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 46.
- ↑ (後太祖與袁紹相拒於官渡,表舉州以應紹。) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 22.
- ↑ (階說其太守張羨曰:「夫舉事而不本於義,未有不敗者也。故齊桓率諸侯以尊周,晉文逐叔帶以納王。今袁氏反此,而劉牧應之,取禍之道也。明府必欲立功明義,全福遠禍,不宜與之同也。」) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 22.
- ↑ (羨曰:「然則何向而可?」階曰:「曹公雖弱,杖義而起,救朝廷之危,奉王命而討有罪,孰敢不服?今若舉四郡保三江以待其來,而為之內應,不亦可乎!」) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 22.
- ↑ (羨曰:「善。」乃舉長沙及旁三郡以拒表,遣使詣太祖。太祖大恱。) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 22.
- ↑ (會紹與太祖連戰,軍未得南。而表急攻羨,羨病死。城陷,階遂自匿。) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 22.
- ↑ (乆之,劉表辟為從事祭酒,欲妻以妻妹蔡氏。階自陳已結婚,拒而不受,因辭疾告退。) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 22.
- ↑ (太祖定荊州,聞其為張羨謀也,異之,辟為丞相掾主簿,遷趙郡太守。) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 22.
บรรณานุกรม[แก้]
- ตันซิ่ว (ศตวรรษที่ 3). จดหมายเหตุสามก๊ก (ซานกั๋วจื้อ).
- เผย์ ซงจือ (ศตวรรษที่ 5). อรรถาธิบายจดหมายเหตุสามก๊ก (ซานกั๋วจื้อจู้).
- de Crespigny, Rafe (2007). A Biographical Dictionary of Later Han to the Three Kingdoms 23-220 AD. Leiden: Brill. ISBN 9789004156050.