โจว ซิงฉือ
โจว ซิงฉือ | |
---|---|
สารนิเทศภูมิหลัง | |
ชื่อเกิด | โจว ซิงฉือ 周星馳 |
เกิด | ฮ่องกงของบริเตน | 22 มิถุนายน ค.ศ. 1962
อาชีพ | นักแสดง , นักเขียนบท , ผู้กำกับภาพยนตร์ , ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ |
ฐานข้อมูล | |
IMDb |
โจว ซิงฉือ หรือ Stephen Chow (จีนตัวเต็ม: 周星馳, จีนตัวย่อ: 周星驰, พินอิน: Zhōu Xīngchí, อังกฤษ: Stephen Chow, Stephen Chow Sing-Chi) เกิดวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ.1962 ที่เกาะฮ่องกง เป็นนักแสดง โปรดิวเซอร์ ผู้กำกับ ผู้อำนวยการสร้าง ผู้เขียนบทภาพยนตร์แนวตลกโปกฮา , แนวตลกล้อเลียน (Parody Movie) ได้รับยกย่องให้เป็น เจ้าพ่อหนังฮา หรือ King of Comedy ของวงการหนังจีนฮ่องกงและเอเชีย อัจฉริยะตลกผู้บัญญัติหนังแนวคอเมดี้ - ดราม่า (Comedy - Drama) ไว้บนโลกภาพยนตร์ จากนักแสดงพันล้านดอลล่าห์ฮ่องกง(HKD) สู่ผู้กำกับ - ผู้อำนวยการสร้าง พันล้านดอลล่าห์สหรัฐ(USD) ในจีนแผ่นดินใหญ่ ผู้ครอบครองตลาดภาพยนตร์แนวตลกโปกฮาไว้เพียงผู้เดียวตลอดระยะเวลายาวนานกว่า 30 ปี
ประวัติ
[แก้]โจว ซิงฉือ หรือ Stephen Chow เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว มีพี่สาวหนึ่งคน น้องสาวสองคน รกรากของครอบครัวอยู่ที่นครเซี่ยงไฮ้ จีนแผ่นดินใหญ่ โจว ซิงฉือ ใฝ่ฝันอยากทำงานวงการภาพยนตร์มาตั้งแต่เด็ก มีนักแสดงในดวงใจ คือ บรูซ ลี , โจว เหวินฟะ , ว่าน จือเหลียง เมื่อเขาเรียนจบการศึกษาระดับมัธยมได้ไปสมัครงานค่ายสถานีโทรทัศน์ทีวีบี(TVB) ฮ่องกง แต่ถูกทางค่ายปฏิเสธจึงหันสมัครเข้าเรียนการแสดงในโรงเรียนการแสดงของค่ายทีวีบี(TVB)แทน รุ่นเดียวกันกับเหลียง เฉาเหว่ย และเริ่มงานเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์สำหรับเด็ก ในรายการ 430 กระสวยอวกาศ :430 Space Shuttle คู่กับเหลียง เฉาเหว่ย และได้แสดงละครซีรีส์ให้กับค่ายทีวีบี(TVB) และแสดงภาพยนตร์ แต่เป็นบทตัวประกอบ เป็นส่วนใหญ่
ในปี ค.ศ.1987 โจว ซิงฉือ ได้แสดงละครซีรีส์ในบทสมทบเป็นครั้งแรก ในละครซีรีส์เรื่อง ค่าของคน(The Price Of Growing Up ,1987) มีนักแสดงขวัญใจของเขา ว่าน จื่อเหลียง เป็นพระเอกนำแสดง ในปี 1988 เขาได้แสดงภาพยนตร์ในบทสมทบเป็นครั้งแรก ในภาพยนตร์เรื่อง โหดแค่แหลก (He Who Chases Afer the wind ,1988) มีว่าน จื่อเหลียง พระเอกขวัญใจของเขานำแสดงเช่นเคย เขาฉายแววความสามารถทางการแสดงได้อย่างโดดเด่น จนวงการภาพยนตร์ฮ่องกงกล่าวขานว่า เขาเป็นนักแสดงดาวรุ่งที่น่าจับตามองในยุคนั้น ร่วมกับ หลิว เต๋อหัว , ม้อ เส้าชง และหลิน จุ้นเสียน ภาพยนตร์ที่ทำให้เขามีชื่อเสียงอย่างมาก คือ ภาพยนตร์เรื่อง Final Justice (1988) หรือชื่อไทย เฉ่งไอ้คุณโป (หรืออีกชื่อ สารวัตรใจเพชร) ร่วมแสดงกับ หลี ซิ่วเสียน (Danny Lee) เขาแสดงบทสมทบได้อย่างโดดเด่นจนได้เข้าชิงรางวัลตุ๊กตาทองฮ่องกง(Hong Kong Film Award) สาขานักแสดงดาวรุ่งยอดเยี่ยม(Best New Performer) แต่พลาดรางวัลไป แต่เขาก็ชนะเลิศได้รับรางวัลม้าทองคำไต้หวัน (Taiwan Golden Horse Award) ในสาขานักแสดงสมทบยอดเยี่ยม(Best Supporting Actor) จากภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน จากนั้นเป็นต้นมา เขาก็มีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆและมีผลงานภาพยนตร์ตามมาอีกมากมาย ในยุคเริ่มแรกของการแสดงภาพยนตร์และละครซีรีส์ โจว ซิงฉือแสดงในบทสมทบแนวทั่วไป ดราม่า แอ็คชั่น แก็งสเตอร์ ตามความนิยมของตลาดสมัยนั้น จนกระทั่งในปี 1989 เขาก้าวขึ้นมารับบทพระเอกละครซีรีส์ของค่ายโทรทัศน์ทีวีบี(TVB) ในเรื่อง จอมยุทธสะท้านโลกันตร์ (The Final Combat ,1989) ซีรีส์กำลังภายในแนวตลกโปกฮาที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงเป็นกระแสนิยมทั่วเกาะฮ่องกง ส่งให้โจว ซิงฉือ ก้าวสู่สถานะพระเอก(Leader Actor) อย่างเต็มตัว จนเป็นที่คาดการณ์ว่า เขาจะโด่งดังจากการเป็นนักแสดงแนวตลกโปกฮา และเป็นดาราตลก(Comedy Star) ซึ่งวงการบันเทิงฮ่องกงขาดแคลนมาโดยตลอด
ในปี 1990 จากกระแสความโด่งดังของภาพยนตร์เรื่อง God of Gamblers ,1989 หรือชื่อไทย คนตัดคน ภาค 1 โด่งดังถล่มทลายไปทั่วเอเชีย โจว ซิงฉือ พระเอกตลกหน้าใหม่ของวงการบันเทิงฮ่องกง ได้มารับบทล้อเลียนคาแรกเตอร์ของโจว เหวินฟะ ที่แสดงบทโคตรเซียนเกาจิ้งในเรื่อง คนตัดคน ดังกล่าว ในภาพยนตร์เรื่อง All for the Winner ,1990 หรือชื่อไทย คนตัดเซียน ตัวหนังถูกใจผู้ชมชาวฮ่องกงเป็นอย่างมาก ในระดับที่เรียกว่าถล่มทลาย โจว ซิงฉือ จึงก้าวเป็นดาราตลก(Comedy Star)อย่างเต็มตัว และเป็นจุดเริ่มต้นหนังแนว ตลกล้อเลียน (Parody Movie) ของโจว ซิงฉือ เป็นต้นมา ทั้งยังสร้างกระแสคู่หูคู่ฮา โจว ซิงฉือ กับอู๋ เมิ๋งต๋า ในโลกภาพยนตร์อีกด้วย ต่อมาทางผู้สร้างภาพยนตร์เจ้าเดิม(ค่าย Win 's Entertainment) ได้นำโจว ซิงฉือ มาร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่อง God of Gamblers 2 ,1990 หรือชื่อไทย คนตัดคน ภาค 2 คู่กับหลิว เต๋อหัว ตัวหนังประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายไปทั่วเอเชีย โจว ซิงฉือ จึงโด่งดังทั่วเอเชียในพริบตา พร้อมกับส่งให้เขาก้าวสู่ทำเนียบ พระเอกยอดนิยม(Box Office Star) สายหนังตลกโปกฮา หรือคอเมดี้(Comedy) ในตลาดหนังระดับเอเชียอีกด้วย
ในปี 1991 จากกระแสคู่หูคู่ฮา โจว ซิงฉือ กับ อู๋ ม่งต๊ะ ที่ได้รับบทเป็นอา - หลาน ในภาพยนตร์เรื่อง คนตัดเซียน และ คนตัดคน ภาค 2 ดังกล่าว ทางผู้สร้างภาพยนตร์เจ้าเดิม(ค่าย Win 's Entertainment) นำทั้งคู่มาแสดงร่วมกันในภาพยนตร์แนวคู่หูคู่ฮาเป็นการเฉพาะ ในเรื่อง Fight Back to School ,1991 หรือชื่อไทย คนเล็กนักเรียนโต ภาพยนตร์ทำรายได้อย่างถล่มทลายทั้งในเกาะฮ่องกงและทั่วเอเชีย จนเกิดปรากฏการณ์กระแสคู่หูคู่ฮา โจว ซิงฉือ กับ อู๋ ม่งต๊ะ โด่งดังไปทั่วเอเชีย และภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์ หนังแนวตลกโปกฮาสไตล์ "โจว ซิงฉือ & อู๋ ม่งต๊ะ" พร้อมส่งให้นักแสดงสมทบอย่าง อู๋ ม่งต๊ะ กลายเป็นดาราคู่บุญของโจว ซิงฉือ เป็นต้นมา มีผลงานร่วมกันมากมายหลายต่อหลายเรื่อง จนเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวหนังตลกของโจว ซิงฉือ โดยปริยาย
โจว ซิงฉือ ได้รับความนิยมอย่างมหาศาล ทั้งในเกาะฮ่องกง จีนแผ่นดินใหญ่ ทั่วเอเชีย และดังไกลถึงระดับโลก จนวงการหนังฮอลลีวู้ดเปรียบเปรยว่าเขาคือ จิม แคร์รีย์ (Jim Carrey) แห่งเอเชีย สมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งเกาะฮ่องกง จัดเก็บยอดรายได้ภาพยนตร์(box office) ในช่วงอุตสาหกรรมภาพยนตร์ฮ่องกงรุ่งเรือง ตั้งแต่ปี ค.ศ.1985 - ค.ศ.2005 (รอบ 20 ปี) โจว ซิงฉือ เป็นนักแสดงนำที่มียอดรายได้ภาพยนตร์(Box Office) รวมกันสูงถึง 1,317,452,311 ล้านเหรียญฮ่องกง(HKD) กลายเป็นพระเอกหนังพันล้านของอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนฮ่องกง ซึ่งในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์มีเพียงสองคนเท่านั้น คู่กับหลิว เต๋อหัว ที่มียอดรายได้ภาพยนตร์(Box Office) จำนวน 1,733,275,816 ล้านเหรียญฮ่องกง(HKD) จนวงการภาพยนตร์ฮ่องกงให้ฉายาทั้งสองคนว่า คู่พระเอกขาว - ดำ (Black & White) หรือ พระเอกสายตลกโปกฮา (โจว ซิงฉือ) - พระเอกสายโศกนาฏกรรม (หลิว เต๋อหัว) ทั้งคู่ยังได้แสดงภาพยนตร์ร่วมกัน แนวตลกโปกฮาผสมดราม่าโรมานซ์ ในเรื่อง Tricky Brains ,1991 หรือชื่อไทย คนกัดคน แสดงเป็นพี่น้องมีพ่อคนเดียวกัน(รับบทพ่อโดยอู๋ ม่งต๊ะ) ตัวหนังประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล และเป็นที่ฮือฮาอย่างมากมายไปทั่วเอเชีย ทั้งกลายเป็นจุดเริ่มต้นหนังแนวคอเมดี้ - ดราม่า (Comedy - Drama) ของโจว ซิงฉือ ที่ต่อมาหนังแนวนี้ของเขาโด่งดังไปทั่วโลก
โจว ซิงฉือ ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นกับภาพยนตร์แนวตลกล้อเลียน(Parody Movie) ที่มีต้นฉบับเป็นวรรณกรรม นวนิยาย อย่างเช่น อุ้ยเสี่ยวป้อ จอมยุทธเย้ยยุทธจักร ภาค 1 , 2 (Royal Tram 1 , 2 / 1992) ยาจกซู ไม้เท้าประกาศิต (King of Beggars ,1992) ถังไป่หู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ (Flirting Scholar ,1993) จี้กง ใหญ่อย่างข้าไม่มี (The Mad Monk ,1993) เปาบุ้นจิ้นหน้าขาว (Hail The Judge ,1994) พยัคฆ์ไม่ร้าย คังคังฉิก (Forbidden City Cop ,1996) หรือ ล้อเลียนหนังดังระดับตำนานอย่างเรื่อง พยัคฆ์ไม่ร้าย 007 (From Beijing with Love ,1994) เป็นต้น และที่ได้รับกล่าวขานว่า เป็นภาพยนตร์สุดคลาสสิคตลอดกาล คือ ภาพยนตร์เรื่อง ไซอิ๋ว 95 เดี๋ยวลิงเดี๋ยวคน ภาค 1 , 2 (A Chinese Odyssey ภาค 1 , ภาค 2 ตอน Cinderella ,1995)
แต่ถึงกระนั้น โจว ซิงฉือ ไม่หยุดความสำเร็จกับหนังตลกแนวล้อเลียน(Parody Movie) ไว้เพียงอย่างเดียว เขาได้คิดค้นหนังตลกในแบบฉบับของตัวเองจนประสบความสำเร็จ ในปี 1991 เขาได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง Fist of Fury ,1991 หรือชื่อไทย คนเล็กต้องใหญ่ เขาได้หยิบยืมคาแรกเตอร์ตัวละครจากการ์ตูนญี่ปุ่นมาสร้างคาแรกเตอร์ตัวละครขึ้นมาใหม่ จนเป็นภาพจำแก่ผู้ชมภาพยนตร์เป็นอย่างมาก ต่อมาเขาได้ชื้อลิขสิทธิ์การ์ตูนญี่ปุนเรื่องนั้นมาดัดแปลงขึ้นสู่จอภาพยนตร์ ในเรื่อง Love on Delivery ,1994 หรือชื่อไทย โลกบอกว่าข้าต้องใหญ่ ซึ่งการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องนั้นคนไทยรู้จักกันดีในชื่อเรื่อง "ถึงจะเห่ยแต่ก็สู้นะเฟ้ย" โจว ซิงฉือ ได้พัฒนาคาแรกเตอร์ตัวละครในรูปแบบเดียวกันลงในภาพยนตร์ของเขาหลายต่อหลายเรื่อง จนกลายเป็นอัตลักษณ์ประจำตัวของเขา อย่างเช่น คนเล็กกุ๊กเทวดา (The God of Cookery ,1996) คนเล็กไม่เกรงใจนรก (King of Comedy ,1999) ภาพยนตร์ที่เป็นกระแสไปทั่วโลก เช่น นักเตะเสี่ยวลิ้มยี่ (Sholin Soccer ,2001) คนเล็กหมัดเทวดา (Kung Fu Hustle ,2004) จนวงการภาพยนตร์โลก ยกย่องให้เป็นหนึ่งในแนวหนังของโลก คือ "หนังตลก สไตล์โจวซิงฉือ" หรือ Chow 's Comedy หนังคอเมดี้ - ดราม่า (Comedy - Drama) ที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัว แนวพระเอกต่ำตม(Loser) แต่ต่อสู้จนประสบความสำเร็จสูงสุดในชีวิต ในบ้านเราตั้งชื่อหนังของโจว ซิงฉือ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวว่า "คนเล็ก" ตามหนังสไตล์นี้ของเขานั่นเอง นอกจากนี้ โจว ซิงฉือ ยังแสดงออกถึงการมีนักแสดงระดับตำนานโลกอย่าง บรูซ ลี เป็นไอดอลหรือขวัญใจของเขา โจว ซิงฉือ จึงได้เลียนแบบคาแรกเตอร์ หรือบุคลิกการแสดงของบรูซ ลี ลงบนภาพยนตร์ของเขาหลายต่อเรื่อง หลายต่อหลายฉาก ซึ่งล้วนเป็นการคาราวะนักแสดงในดวงใจของเขาคนนี้ ทั้งนั้น และสื่อตะวันตกได้ยกย่องโจว ซิงฉือว่า เขาคือ ชาร์ลี แชปลิน แห่งโลกตะวันออก
โจว ซิงฉือ เริ่มมีบทบาทในการเขียนบทภาพยนตร์ กำกับภาพยนตร์ โปรดิวเซอร์และอำนวยการสร้างภาพยนตร์ในปี 1993 ผลงานเขียนบทภาพยนตร์และร่วมกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา คือ ถังไป่หู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ (Flirting Scholar ,1993) ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เขายังมีบริษัทผลิตภาพยนตร์ของเขาเองในนาม Star Overseas (สตาร์ โอเวอร์ซีส) และได้ลองผลิตภาพยนตร์แนวสยองขวัญปนตลกร้าย ในเรื่อง กึ๋ยเฉพาะชั้น 9 (Out of the Dark ,1995) แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนัก
ด้านฝีมือการแสดง โจว ซิงฉือ ไม่เพียงแต่เป็นนักแสดงตลกเท่านั้น เขายังมีฝีมือการแสดงอย่างยอดเยี่ยม ได้รับรางวัล นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม(Best Actor) จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ เอเชียแปซิฟิก(Asia Pacific Film Festival) จากภาพยนตร์ เรื่อง Justice My Foot ,1992 หรือชื่อไทย คนเล็กสะท้านยุทธจักร และรางวัลตุ๊กตาทอง(Hong Kong Film Awards) นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม(Best Actor) จากภาพยนตร์ เรื่อง Shaolin Soccer ,2001 หรือชื่อไทย นักเตะเสียวลิ้มยี่
ผลงานในระยะหลังของเขา โจว ซิงฉือทำหน้าที่เขียนบทภาพยนตร์ โปรดิวเซอร์ กำกับการแสดง และอำนวยการสร้าง แต่ไม่ได้แสดงหนังเอง เขายังได้รับรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม(Best Director) จากภาพยนตร์ เรื่อง Shaolin Soccer (2001) หรือชื่อไทย นักเตะเสียวลิ้มยี่ ผลงานแสดงเรื่องสุดท้ายของเขา คือ ภาพยนตร์เรื่อง คนเล็กของเล่นใหญ่ (CJ 7 ,2008) หนังทุนสร้างฮ่องกง - จีนแผ่นดินใหญ่ ด้านชีวิตส่วนตัว โจว ซิงฉือ กำลังคบหากับคู่รักต่างวัยชื่อ หลอ ไห่ซาน[1] ปัจจุบัน โจว ซิงฉือ ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น ในการเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ และอำนวยการสร้างภาพยนตร์ หนังของเขาทำเงินถล่มทลายในจีนแผ่นดินใหญ่ ทำสถิติเป็น ผู้กำกับ - ผู้อำนวยการสร้าง พันล้านดอลล่าห์สหรัฐ(USD) คนแรกในจีนแผ่นดินใหญ่ จากภาพยนตร์ของเขาเพียง 4 เรื่อง แต่แฟนๆภาพยนตร์ทั่วโลก ต่างเฝ้ารอและเรียกร้องให้ โจว ซิงฉือ หวนกลับมาแสดงภาพยนตร์อีกครั้ง
ผลงานที่ผ่านมา
[แก้]ซีรีส์
[แก้]- It Runs in the Family (1990)
- THE FINAL COMBAT (1989) หรือ จอมยุทธสะท้านโลกันตร์ ต่อมาเปลี่ยนชื่อใหม่ตอนลงม้วนวีดีโอ เป็น จอมยุทธผงาดฟ้า
- มังกรหยก (1983) - ทหารเลวชาวกิม , ชาวบ้านที่ถูก บ๊วยทิฮวง ฆ่าตายเป็นคนที่ 99
- ตัวประกอบ ในภาพยนตร์เรื่อง A Better Tomorrow ,1986 หรือ โหด เลว ดี ภาค 1 ออกมาฉากเดียวแล้วถูก โจว เหวินฟะ ยิงตายในร้านอาหาร
ผลงานภาพยนตร์
[แก้]Year | English Title | Chinese title | Role | Award |
---|---|---|---|---|
1988 | Final Justice | 霹靂先鋒 | นักแสดง | Golden Horse Award for Best Supporting Actor |
1988 | Faithfully Yours | 最佳女婿 | นักแสดง | |
1988 | He Who Chases After the Wind | 捕風漢子 | นักแสดง | |
1989 | The Final Combat (TV series) | 蓋世豪俠 | นักแสดง | |
1989 | The Justice of Life (TV series) | 他來自江湖 | นักแสดง | |
1989 | Thunder Cops II | 贼公差婆 | นักแสดง | |
1989 | Just Heroes | 義膽群英 | นักแสดง | |
1989 | Dragon Fight | 龍在天涯 | นักแสดง | |
1990 | Love Is Love | 望夫成龍 | นักแสดง | |
1990 | My Hero | 一本漫畫闖天涯 | นักแสดง | |
1990 | Lung Fung Restaurant | 龍鳳茶樓 | นักแสดง | |
1990 | The Unmatchable Match | 风雨同路 | นักแสดง | |
1990 | Curry and Pepper | 咖喱辣椒 | นักแสดง | |
1990 | Sleazy Dizzy | 小偷阿星 | นักแสดง | |
1990 | Look Out, Officer! | 師兄撞鬼 | นักแสดง | |
1990 | All for the Winner | 賭聖 | นักแสดง | |
1990 | When Fortune Smiles | 無敵幸運星 | นักแสดง | |
1990 | Triad Story | 江湖最後一個大佬 | นักแสดง | |
1990 | Legend of the Dragon | 龍的傳人 | นักแสดง | |
1990 | God of Gamblers II | 賭俠 | นักแสดง | |
1991 | The Top Bet | 賭霸 | นักแสดง | |
1991 | คนเล็กต้องใหญ่ | 新精武門1991 | นักแสดง | |
1991 | Fight Back to School | 逃學威龍 | นักแสดง | |
1991 | God of Gamblers III: Back to Shanghai | 賭俠2之上海灘賭聖 | นักแสดง | |
1991 | The Magnificent Scoundrels | 情聖 | นักแสดง | |
1991 | The Banquet | 豪門夜宴 | นักแสดง | |
1991 | Tricky Brains | 整蠱專家 | นักแสดง | |
1992 | คนเล็กต้องใหญ่ 2 | 漫畫威龍 | นักแสดง | |
1992 | All's Well, Ends Well | 家有囍事 | นักแสดง | |
1992 | Fight Back to School II | 逃學威龍2 | นักแสดง | |
1992 | Justice, My Foot! | 審死官 | นักแสดง | Asia Pacific Film Festival for Best Actor |
1992 | อุ้ยเสี่ยวป้อ จอมยุทธเย้ยยุทธจักร 1 (Royal Tramp) |
鹿鼎記 | นักแสดง | |
1992 | อุ้ยเสี่ยวป้อ จอมยุทธเย้ยยุทธจักร 2 (Royal Tramp II) |
鹿鼎記2神龍教 | นักแสดง | |
1992 | ยาจกซู ไม้เท้าประกาศิต (King of Beggars) |
武狀元蘇乞兒 | นักแสดง | |
1992 | The Thief of Time | 群星會 | นักแสดง | |
1993 | คนเล็กนักเรียนโต 3 (Fight Back to School III) |
逃學威龍3之龍過雞年 | นักแสดง | |
1993 | ถังไป่หู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ (Flirting Scholar) |
唐伯虎點秋香 | ผู้กำกับ นักแสดง |
|
1993 | จี้กง ใหญ่อย่างข้าไม่มี (The Mad Monk) |
濟公 | นักแสดง | |
1994 | โลกบอกว่าข้าต้องใหญ่ (Love on Delivery) |
破壞之王 | ผู้กำกับ นักแสดง |
|
1994 | เปาบุ้นจิ้นหน้าขาว (Hail the Judge) |
九品芝麻官 | นักแสดง | |
1994 | พยัคฆ์ไม่ร้าย คัง คัง ฉิก (From Beijing with Love) |
國產凌凌漆 | ผู้กำกับ ผู้เขียนบท นักแสดง |
|
1995 | ไซอิ๋ว 95 เดี๋ยวลิงเดี๋ยวคน 1 (A Chinese Odyssey Part One: Pandora's Box) |
西遊記第壹佰零壹回之月光寶盒 | นักแสดง | |
1995 | ไซอิ๋ว 95 เดี๋ยวลิงเดี๋ยวคน 2 (A Chinese Odyssey Part Two: Cinderella) |
西遊記大結局之仙履奇緣 | นักแสดง | |
1995 | กึ๋ยเฉพาะชั้น 9 (Out of the Dark) |
回魂夜 | นักแสดง | |
1995 | คนไม่ธรรมดา ยืดได้หดได้ (Sixty Million Dollar Man) |
百變星君 | นักแสดง | |
1996 | สายไม่ลับคังคังโป๊ย หรือ สายไม่ลับ 008 (Forbidden City Cop) |
大內密探零零發 | ผู้กำกับ ผู้เขียนบท นักแสดง |
|
1996 | คนเล็กกุ๊กเทวดา (The God of Cookery) |
食神 | ผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ ผู้เขียนบท นักแสดง |
|
1997 | คนเล็กกำลังใหญ่ (All's Well, Ends Well 1997) |
97家有囍事 | นักแสดง | |
1997 | คนเล็กทนายเทวดา หรือ จุ๊ย ขี้จุ๊ (Lawyer Lawyer) |
算死草 | นักแสดง | |
1998 | คนเล็กใหญ่เก๊กโลก (The Lucky Guy) |
行運一條龍 | นักแสดง | |
1999 | คนเล็กตัดห้าเอ (The Tricky Master) |
千王之王2000 | นักแสดง | |
1999 | คนเล็กไม่เกรงใจนรก (King of Comedy) |
喜劇之王 | ผู้กำกับ ผู้เขียนบท นักแสดง |
|
2001 | นักเตะเสี้ยวลิ้มยี่ (Shaolin Soccer) |
少林足球 | ผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ ผู้เขียนบท, Action Choreography, นักแสดง |
|
2004 | คนเล็กหมัดเทวดา (Kung Fu Hustle) |
功夫 | ผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ ผู้เขียนบท, Composer, นักแสดง |
|
2008 | คนเล็กของเล่นใหญ่ (CJ7) |
長江七號 | โปรดิวเซอร์ ผู้กำกับ ผู้เขียนบท นักแสดง |
|
2008 | นักเตะสาวเสี้ยวลิ้มยี้ (Shaolin Girl) |
少林少女 | โปรดิวเซอร์ | |
2009 | จั๊มป์ สูงเข้าไว้โดดไปให้ถึงฝัน (Jump) |
跳出去 | โปรดิวเซอร์ | |
2009 | ดราก้อนบอล อีโวลูชั่น เปิดตำนานใหม่ นักสู้กู้โลก (Dragonball Evolution) |
七龍珠 | โปรดิวเซอร์ | |
2010 | CJ7 แอนิเมชั่น (CJ7: The Cartoon) |
長江7號愛地球 | โปรดิวเซอร์ | |
2013 | ไซอิ๋ว 2013 คนเล็กอิทธิฤทธิ์หญ่าย (Journey to the West: Conquering the Demons) |
西遊·降魔篇 | ผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ ผู้เขียนบท, Action Choreography |
|
2016 | เงือกสาว ปัง ปัง (The Mermaid) |
美人魚 | ผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ ผู้เขียนบท, Composer |
|
2017 | ไซอิ๋ว 2017 คนเล็กอิทธิฤทธิ์ใหญ่ (Journey to the West: The Demons Strike Back) |
西遊伏妖篇 | โปรดิวเซอร์ | |
2019 | Journey to the West: Conquering the Demons TV | 剧版西遊降魔篇 | โปรดิวเซอร์ | |
2019 | The Mermaid TV | 剧版美人魚 | โปรดิวเซอร์ | |
2019 | Project D(sequel of From Beijing with Love) | D计划 | ผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ ผู้เขียนบท, Actor |
|
2019 | The New King of Comedy | ผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ ผู้เขียนบท, Credit cookie |
||
2019 Summer | The Mermaid 2 | 美人魚2 | ผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ ผู้เขียนบท |
อ้างอิง
[แก้]แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- Stephen Chow ข้อมูลที่ Internet Movie Database
- www.hkcinemagic.com › Cultural & Societal › Chinese cultural elements
- www.hkcinemagic.com/en/cat.asp?catid=38&did=137
- hkmdb.com/db/people/view.mhtml?id=7230&display_set=eng