งูสิงธรรมดา
งูสิงธรรมดา | |
---|---|
งูสิงธรรมดาที่อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี | |
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | ยูแคริโอตา Eukaryota |
อาณาจักร: | สัตว์ Animalia |
ไฟลัม: | สัตว์มีแกนสันหลัง Chordata |
ชั้น: | สัตว์เลื้อยคลาน |
อันดับ: | กิ้งก่าและงู |
อันดับย่อย: | งู Serpentes |
วงศ์: | วงศ์งูพิษเขี้ยวหลัง |
สกุล: | งูสิง (Schlegel, 1837) |
สปีชีส์: | Ptyas korros |
ชื่อทวินาม | |
Ptyas korros (Schlegel, 1837) | |
ชื่อพ้อง | |
|
งูสิงธรรมดา หรือ งูสิงตาโต หรือ งูสิงบ้าน หรือ งูเห่าตะลาน (อังกฤษ: Indo-Chinese rat snake; ชื่อวิทยาศาสตร์: Ptyas korros) เป็นงูสิงชนิดหนึ่งที่ไม่มีพิษ จัดอยู่ในวงศ์งูพิษเขี้ยวหลัง (Colubridae)
มีความยาวเมื่อโตเต็มที่ประมาณ 1,400 มิลลิเมตร และหางยาว 445 มิลลิเมตร หัวยาวและส่วนของหัวกว้างกว่าลำคอเล็กน้อย ส่วนปลายของหัวมน ตาใหญ่มาก ลำตัวกลมและยาว หางยาวและส่วนปลายหางเรียว ผิวหนังลำตัวมีเกล็ดปกคลุม เกล็ดบนหัวเป็นแผ่นกว้าง เกล็ดบนหลังทางส่วนต้นของลำตัวมีขนาดใหญ่และพื้นผิวเรียบ เกล็ดท้องขยายกว้าง เกล็ดใต้หางเป็นแถวคู่ เกล็ดรอบลำตัวในตำแหน่งกึ่งกลางตัวจำนวน 15 เกล็ด เกล็ดท้องจำนวน 170 เกล็ด และเกล็ดใต้หางจำนวน 125 เกล็ด ลำตัวมีด้านบนของหัวและบนหลังครึ่งทางด้านหน้าของลำตัวสีน้ำตาลหรือสีน้ำตาลอมเขียว ส่วนครึ่งทางด้านท้ายของลำตัวสีน้ำตาล เกล็ดปกคลุมลำตัวและหางมีขอบแผ่นเกล็ดสีจางหรือสีขาว ซึ่งสีขาวของขอบแผ่นเกล็ดได้ขยายกว้างขึ้นตามลำดับไปทางด้านท้ายลำตัวและหาง ทำให้ด้านท้ายของลำตัว โดยเฉพาะหาง เป็นสีขาวที่มีโครงข่ายร่างแหสีดำ คาง ใต้คอ และด้านท้องสีขาวอมน้ำตาล ด้านใต้หางสีขาว งูวัยอ่อนมีจุดเล็กสีขาวเรียงตัวเป็นแถวพาดขวาง (ไม่เป็นระเบียบ) เป็นระยะอยู่ทางส่วนต้นของลำตัว
พบกระจายพันธุ์ในทุกประเทศในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ และอนุทวีปอินเดีย เป็นงูที่กินหนูเป็นอาหารหลักกินงูเป็นรอง ออกหากินในเวลากลางวันบนพื้นดิน แต่ขึ้นต้นไม้ได้ดีและรวดเร็ว ว่ายน้ำได้ ประกอบกับมีพฤติกรรมการขู่และชูหัวพร้อมส่งเสียงขู่ฟ่อคล้ายงูเห่า ซึ่งเป็นงูที่มีพิษร้ายแรง จึงได้อีกชื่อหนึ่งว่า งูเห่าตะลาน
เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535[4]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Ptyas korros". IUCN Red List of Threatened Species.
- ↑ Boulenger, G.A. 1893. Catalogue of the Snakes in the British Museum (Natural History). Volume I., Containing the Families...Colubridæ Aglyphæ, part. Trustees of the British Museum (Natural History). (Taylor and Francis, Printers). London. xiii + 448 pp. + Plates I.- XXVIII. (Zamenis korros, pp. 384-385.)
- ↑ The Reptile Database. www.reptile-database.org.
- ↑ "งูสิงบ้าน งูเห่าตะลาน" (PDF). tistr.or.th. สืบค้นเมื่อ July 26, 2016.
อ่านเพิ่ม
[แก้]- Ahsan, M. Farid, and Shayla Parvin. 2001. The first record of Ptyas korros (Colubridae) from Bangladesh. Asiatic Herpetological Research 9: 23–24.
- Jan, G., and F. Sordelli. 1867. Iconographie générale des Ophidiens: Vingt-quatrième livraison. Baillière. Paris. Index + Plates I.- VI. (Coryphodon korros, Plate IV., Figure 2.)
- Lazell, J.D. 1998. Morphology and the status of the snake genus Ptyas. Herpetological Review 29 (3): 134.
- Schlegel, H. 1837. Essai sur la physionomie des serpens. Partie Général xxviii + 251 pp. + Partie Descriptive 606 + xvi pp. Schonekat. Amsterdam.