จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
มายเวิลด์ 2.0 |
---|
 |
สตูดิโออัลบั้มโดย |
---|
วางตลาด | 19 มีนาคม ค.ศ. 2010 (ดู ประวัติการจำหน่าย) |
---|
บันทึกเสียง | 2009-2010 |
---|
แนวเพลง | ป๊อป, ทีนป๊อป, อาร์แอนด์บี, แดนซ์ป๊อป |
---|
ความยาว | 37:37 นาที |
---|
ค่ายเพลง | Island, RBMG |
---|
โปรดิวเซอร์ | อัชเชอร์ (ผู้อำนวยการสร้าง), สกูเตอร์ เบราน์(ผู้อำนวยการสร้าง), แอนโตนิโอ แอลเอ เรด (ผู้อำนวยการสร้าง), Tricky Stewart, เดอะ-ดรีม, ดาโปะ โทริโมโตะ, มีดี้ มาเฟีย, เบนนี่ แบรนโค, The Messengers, บรานด์-ไมเคิล คอกซ์, The Stereotypes |
---|
|
|
---|
ลำดับอัลบั้มของจัสติน บีเบอร์ |
---|
|
|
ซิงเกิลจากMy World 2.0 |
---|
|
|
มายเวิลด์ 2.0 (อังกฤษ: My World 2.0) เป็นผลงานชิ้นที่สองซึ่งเป็นสตูดิโออัลบั้ม โดยนักร้องชาวแคนาดาจัสติน บีเบอร์ และเป็นผลงานชิ้นแรกที่เป็นสตูดิโออัลบั้ม อัลบั้มนี้ได้ออกมาหลังจากที่ อีพี มายเวิลด์ นั้นได้เปิดตัว มายเวิลด์ 2.0 นี้ได้เปิดตัวเมื่อวันที่ 19 มีนาคม ค.ศ. 2010[2] บีเบอร์ได้ทำงานร่วมกับผู้อำนวยการสร้าง นักแต่งเพลง ก่อนที่อัลบั้มนี้เปิดตัว ประกอบด้วย Tricky Stewart, เดอะ-ดรีม และ มีดี้ มาเฟีย รวมไปถึงคนใหม่ที่มาเสริมอย่างบรานด์-ไมเคิล คอกซ์ และ The Stereotypes นอกจากนั้นยังต้องการให้มีแนวเพลงอาร์แอนด์บีที่เด่นขึ้นกว่างานเพลงชิ้นก่อน และอัลบั้มนี้ยังสื่อถึงการที่เขาโตขึ้นจากครั้งก่อน และมีวุฒิภาวะมากขึ้น นอกจากที่มีแนวเพลงของอาร์แอนด์บีแล้ว อัลบั้มยังมีการรวมเพลงแนวป๊อบและฮิปฮอปอีกด้วย
อัลบั้มนี้มีกระแสตอบรับที่ดี และขึ้นติดอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกา ในบิลบอร์ด 200[3] ขายได้ทั้งหมด 283,000 กว่าชุด ทำให้บีเบอร์เป็นบุคคลที่อายุน้อยที่สุดที่ขึ้นอันดับ 1 ของชาร์ต รองจากสตีวี วันเดอร์เมื่อปี ค.ศ. 1963 และเป็นศิลปินคนแรกตั้งแต่ในปี ค.ศ. 2004 ที่มีอัลบั้ม 2 ชุดติดอยู่ใน 5 อันดับแรก[3] จนกระทั่งอัลบั้มได้ขายไปในช่วงสัปดาห์ที่สอง บีเบอร์ได้เปิดตัวได้เหมือนกับช่วงของเดอะบีตเทิลส์ที่ได้ขึ้นอันดับหนึ่ง และขายอัลบั้มได้ดีตลอดสัปดาห์[4] นอกจากนั้นอัลบั้มยังติดอันดับ 1 ในแคนาดา และสัปดาห์ต่อมาก็ติดอันดับหนึ่งในไอร์แลนด์, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ รวมไปถึงติดอันดับ 1 ใน 10 ของชาร์ตกว่า 15 ประเทศ และบีเบอร์ยังมีทัวร์คอนเสิร์ตสำหรับอัลบั้มแรกเขาชื่อว่ามายเวิลด์ ทัวร์
อัลบั้มนี้ได้เริ่มเปิดตัวด้วยการออกเพลงซิงเกิล "เบบี้" โดยร่วมร้องกับลูดาคริส ซึ่งเปิดตัวเมื่อ 18 มกราคม ค.ศ. 2010 และซิงเกิล "เนเวอร์เล็ตยูโก" เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ค.ศ. 2010 "ยูสมาย" เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ค.ศ. 2010 "ซัมบอดี้ทูเลิฟ" ได้เปิดตัววันที่ 20 เมษายน ค.ศ. 2010 เป็นซิงเกิลที่สองและ "ยูสมาย" จะเป็นซิงเกิลที่สามในอังกฤษ ในวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 2010
|
1. | "Baby" (featuring Ludacris) | Justin Bieber, The-Dream, Tricky Stewart, Christina Milian,Ludacris | T. Nash, C. Stewart, C. Milian | 3:36 |
---|
2. | "Somebody to Love" | J. Bieber, Heather Bright & The Stereotypes | The Stereotypes | 3:42 |
---|
3. | "Stuck in the Moment" | J. Bieber, The Stereotypes, Dan August Rigo | The Stereotypes | 3:43 |
---|
4. | "U Smile" | J. Bieber, Jerry Duplessis, Arden Altino, Dan August Rigo | J. Duplessis, A. Altino | 3:17 |
---|
5. | "Runaway Love" | J. Bieber, Melvin Hough II, Rivelino Wouter, Timothy Thomas & Theron Thomas | Melvin Hough II | 3:33 |
---|
6. | "Never Let You Go" | J. Bieber, Johnta Austin, Bryan-Michael Cox | B. Cox | 4:26 |
---|
7. | "Overboard" (featuring Jessica Jarrell) | J. Bieber, Midi Mafia, Dapo Torimiro, Taurian Shropshire | Midi Mafia, D. Torimiro | 4:11 |
---|
8. | "Eenie Meenie" (with Sean Kingston) | J. Bieber, Carlos Battey, Steven Battey, Kisean Anderson | Benny Blanco | 3:23 |
---|
9. | "Up" | J. Bieber, The Messengers | The Messengers | 3:55 |
---|
10. | "That Should Be Me" | J. Bieber, The Messengers, Luke Boyd | The Messengers | 3:53 |
---|
ความยาวทั้งหมด: | 37:37 |
---|
|
11. | "Kiss and Tell" (iTunes and Japan bonus track) | J. Bieber, Dan August Rigo, The Runners, The Monarch | The Runners, The Monarch | 3:29 |
---|
12. | "Where Are You Now" (Wal-Mart, Australia and Japan bonus track) | J. Bieber | B. Cox | 4:27 |
---|
|
---|
|
สตูดิโออัลบั้ม | |
---|
อีพี | |
---|
อัลบั้มรวมเพลง | |
---|
อัลบั้มรีมิกซ์ | |
---|
ทัวร์ | |
---|
ภาพยนตร์และโทรทัศน์ | |
---|
บทความที่เกี่ยวข้อง | |
---|
|