อี.ที. ดิเอกซ์ตราเทอร์เรสเทรียล (วิดีโอเกม)
อี.ที. ดิเอกซ์ตราเทอร์เรสเทรียล | |
---|---|
![]() ปกบรรจุตลับเกม อี.ที. ดิเอกซ์ตราเทอร์เรสเทรียล | |
ผู้พัฒนา | อาตาริอิงค์ |
ผู้จัดจำหน่าย | อาตาริอิงค์ |
ออกแบบ | Howard Scott Warshaw |
เครื่องเล่น | อาตาริ 2600 |
วางจำหน่าย | |
แนว | ผจญภัย |
รูปแบบ | ผู้เล่นคนเดียว |
อี.ที. ดิเอกซ์ตราเทอร์เรสเทรียล (อังกฤษ: E.T. the Extra-Terrestrial เรียกอีกอย่างว่า E.T. ) เป็นวิดีโอเกมแนวผจญภัยในปี 1982 ที่พัฒนาและเผยแพร่โดย อาตาริอิงค์ สำหรับเครื่องเล่นเกมคอนโซล อาตาริ 2600 โดยได้เค้าโครงจากภาพยนตร์ชื่อเดียวกันและได้รับการออกแบบโดย Howard Scott Warshaw วัตถุประสงค์ของเกมคือการแนะนำตัวละครตัวนี้ผ่านหน้าจอแบบลูกบาศก์[2] เพื่อเก็บชิ้นส่วนของโทรศัพท์นพเคราะห์ สามชิ้น ซึ่งจะส่งสัญญาณวิทยุกลับไปในอวกาศ เพื่อแจ้งให้ยานแม่กลับมารับ
Warshaw ตั้งใจพัฒนาเกมที่จะปรับให้คล้ายกับภาพยนตร์และบริษัทอาตาริ คิดว่ามันจะเป็นเกมที่ประสบความสำเร็จด้วยยอดขายที่สูงขึ้น เนื่องจากภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเป็นที่นิยมอย่างมากในสมัยนั้น การเจรจาเพื่อรักษาสิทธิที่จะพัฒนาเกมจบลงในปลายเดือนกรกฎาคม 1982 โดยที่ Warshaw ใช้เวลาเพียงแค่ 5 สัปดาห์ในการพัฒนาเกม[3] เพื่อให้วางจำหน่ายทันช่วงเทศกาลคริสต์มาส 1982 หลังปล่อยตัวเกมครั้งสุดท้าย เกมต้องเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก E.T. มักถูกอ้างถึงว่าเป็นหนึ่งในเกมวิดีโอที่เลวร้ายที่สุดตลอดกาลและเป็นหนึ่งในความล้มเหลวในเชิงพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์วิดีโอเกม อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เป็นที่นิยมมากสำหรับเหตุผลและยังถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของวิดีโอเกม โดยเกมถูกโยงว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยต้น ๆ ที่นำมาสู่วิกฤตการณ์อุตสาหกรรมวิดีโอเกมในปี 1983 และได้รับการอ้างถึงบ่อยครั้ง และ เย้ยหยันในวัฒนธรรมสมัยนิยม ซึ่งจะถูกนำมาใช้เป็นเครื่องเตือนเกี่ยวกับอันตรายของการพัฒนาเกมที่เร็วเกินไปและการเร่งสตูดิโอที่มากเกินเหตุ
มีรายงานในปี 1983 ที่มีการเปิดเผยเป็นตำนานเมืองว่าผลที่ตามมาของการผลิตตลับเกมที่มากเกินไปและการส่งคืนตลับเกมที่ขายไม่ออกนับล้านตลับ ทำให้ตลับเกมทั้งหมดได้ถูกฝังอยู่ในหลุมฝังกลบของเมืองแอละโมกอร์โด รัฐนิวเม็กซิโก ในปี 2013 ได้มีแผนดำเนินการขุดค้นเพื่อตรวจสอบความจริงของรายงานเกี่ยวกับการฝังกลบ[4] กระทั่งในเดือนเมษายน 2014 ผู้ขุดค้นยืนยันว่าเรื่องการฝังตลับเกมที่แอละโมกอร์โดเป็นเรื่องจริง นอกเหนือจากเกม E.T. แล้วยังได้ขุดพบตลับเกมอื่น ๆ อีกด้วย[5][6] โดยเจมส์ เฮลเลอร์ อดีตผู้จัดการของอาตาริ ผู้รับผิดชอบต่อการฝังตลับเกมได้เปิดเผยกับสำนักข่าว AP ว่ามีตลับเกมจำนวน 728,000 ตลับถูกฝังอยู่
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "E.T.™ NEEDS YOUR HELP!". AtariAge. Atari Age. สืบค้นเมื่อ March 2, 2014.
- ↑ "The Cube World of E.T. The Extra-Terrestrial for the Atari 2600". YouTube. Replayability. สืบค้นเมื่อ July 4, 2017.
- ↑ "DP Interviews". Digitpress.com. สืบค้นเมื่อ March 6, 2014.
- ↑ "Alamogordo approves Atari excavation". ALAMOGORDO, N.M. (KRQE). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ พฤษภาคม 30, 2013. สืบค้นเมื่อ มิถุนายน 2, 2013.
- ↑ Schreier, Jason. "E.T. Found In New Mexico Landfill". Kotaku. สืบค้นเมื่อ February 4, 2015.
- ↑ Llorca, Juan Carlos (September 28, 1983). "Diggers Find Atari's E.T. Games in Landfill". ABC News. สืบค้นเมื่อ April 26, 2014.