ข้ามไปเนื้อหา

ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2023

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก 2023 FIFA Club World Cup)
ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2023
FIFA Club World Cup Saudi Arabia 2023
كأس العالم للأندية لكرة القدم
السعودية 2023
รายละเอียดการแข่งขัน
ประเทศเจ้าภาพซาอุดีอาระเบีย
วันที่12–22 ธันวาคม ค.ศ. 2023
ทีม(จาก 6 สมาพันธ์)
อันดับเมื่อสิ้นสุดการแข่งขัน
ชนะเลิศประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ซิตี (สมัยที่ 1)
รองชนะเลิศประเทศบราซิล ฟลูมิเนนเซ
อันดับที่ 3ประเทศอียิปต์ อัลอะฮ์ลี
อันดับที่ 4ประเทศญี่ปุ่น อูราวะ เรดไดมอนส์
สถิติการแข่งขัน
จำนวนนัดที่แข่งขัน7
จำนวนประตู23 (3.29 ประตูต่อนัด)
ผู้ชม183,997 (26,285 คนต่อนัด)
ผู้ทำประตูสูงสุดฆูเลียน อัลบาเรซ (แมนเชสเตอร์ซิตี)
การีม แบนเซมา (อัลอิตติฮัด)
อาลี มาอาโลอุล (อัลอะฮ์ลี)
คนละ 2 ประตู
ผู้เล่นยอดเยี่ยมโรดริ (แมนเชสเตอร์ซิตี)
รางวัลแฟร์เพลย์ประเทศซาอุดีอาระเบีย อัลอิตติฮัด
2022
2025

ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2023 (อังกฤษ: 2023 FIFA Club World Cup) จะเป็นการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก ครั้งที่ 20 โดยฟีฟ่าเป็นผู้จัดการแข่งขันของสโมสรฟุตบอลระหว่างผู้ชนะจาก 6 สมาพันธ์ระดับทวีป ตลอดจนแชมป์ลีกของประเทศเจ้าภาพ การแข่งขันจะจัดที่ประเทศซาอุดิอาระเบียตั้งแต่วันที่ 12 ถึง 22 ธันวาคม ค.ศ. 2023[1] และเป็นการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกในรูปแบบ 7 ทีมเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะขยายเป็น 32 ทีมในการแข่งขันปี 2025[2]

เรอัลมาดริด เป็นทีมแชมป์เก่า[3] แต่ไม่มีสิทธิ์ลงแข่งขันป้องกันแชมป์ในครั้งนี้เนื่องจากไม่ได้แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2022–23

สโมสรที่เข้าแข่งขัน

[แก้]

ด้านล่างนี้คือทีมเจ็ดทีมที่ได้สิทธิ์เข้าแข่งขันรายการนี้

สโมสร สมาพันธ์ฟุตบอล คุณสมบัติ วันที่เข้ารอบ การเข้าร่วม (ตัวหนา หมายถึงทีมชนะเลิศ)
เข้าสู่ รอบรองชนะเลิศ
ประเทศบราซิล ฟลูมิเนนเซ คอนเมบอล สโมสรชนะเลิศ โกปาลิเบร์ตาโดเรส ฤดูกาล 2023 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ครั้งที่ 1
ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ซิตี ยูฟ่า สโมสรชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2022–23 10 มิถุนายน พ.ศ. 2566 ครั้งที่ 1
เข้าสู่ รอบสอง
ประเทศญี่ปุ่น อูราวะ เรดไดมอนส์ เอเอฟซี สโมสรชนะเลิศ เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก 2022 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566[note 1] ครั้งที่ 3 (ครั้งก่อนหน้านี้: 2007, 2017)
ประเทศอียิปต์ อัลอะฮ์ลี ซีเอเอฟ สโมสรชนะเลิศ ซีเอเอฟแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2022–23 11 มิถุนายน พ.ศ. 2566 ครั้งที่ 9 (ครั้งก่อนหน้านี้: 2005, 2006, 2008, 2012, 2013, 2020, 2021, 2022)
ประเทศเม็กซิโก คลับเลออน คอนคาแคฟ สโมสรชนะเลิศ คอนคาแคฟแชมเปียนส์ลีก 2023 4 มิถุนายน พ.ศ. 2566 ครั้งที่ 1
เข้าสู่ รอบแรก
ประเทศนิวซีแลนด์ ออกแลนด์ซิตี โอเอฟซี สโมสรชนะเลิศ โอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก 2023 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 ครั้งที่ 11 (ครั้งก่อนหน้านี้: 2006, 2009, 2011, 2012, 2013, 2014, 2015, 2016, 2017, 2022)
ประเทศซาอุดีอาระเบีย อัลอิตติฮัด เอเอฟซี (เจ้าภาพ) สโมสรชนะเลิศ ซาอุดีโปรลีก ฤดูกาล 2022–23 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 ครั้งที่ 2 (ครั้งก่อนหน้านี้: 2005)

หมายเหตุ

  1. อูราวะ เรดไดมอนส์ เข้าร่วมในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เมื่อสโมสรซาอุดีอาระเบีย อัล-ฮิลาล ได้รับการยืนยันให้เป็นคู่ต่อสู้ในรอบชิงชนะเลิศ. หากทีมจากประเทศเจ้าภาพคว้าแชมป์เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก, รองชนะเลิศของเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกจะได้รับเชิญแทนที่ของผู้ชนะลีกเจ้าบ้าน. อูราวะ เรดไดมอนส์ คว้าแชมป์เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2566, ยืนยันการเข้ารอบครั้งที่สองของพวกเขา.

ผู้เล่น

[แก้]

แต่ละทีมจะต้องระบุชื่อผู้เล่น 23 คน (สามคนต้องเป็นผู้รักษาประตู) อนุญาตให้เปลี่ยนอาการบาดเจ็บได้จนถึง 24 ชั่วโมงก่อนการแข่งขันนัดแรกของทีม.[4]

การแข่งขัน

[แก้]
รอบแรก รอบสอง รอบรองชนะเลิศ รอบชิงชนะเลิศ
  12 ธันวาคม 2023 – ญิดดะฮ์ (KASC)                          
 ประเทศซาอุดีอาระเบีย อัลอิตติฮัด  3   15 ธันวาคม 2023 – ญิดดะฮ์ (PAASC)        
 ประเทศนิวซีแลนด์ ออกแลนด์ซิตี  0


     ประเทศเม็กซิโก คลับเลออน  0
19 ธันวาคม 2023 – ญิดดะฮ์ (KASC)
   ประเทศญี่ปุ่น อูราวะ เรดไดมอนส์  1    
 ประเทศญี่ปุ่น อูราวะ เรดไดมอนส์  0
     ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ซิตี  3  
22 ธันวาคม 2023 – ญิดดะฮ์ (KASC)
 ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ซิตี  4
15 ธันวาคม 2023 – ญิดดะฮ์ (KASC)
   ประเทศบราซิล ฟลูมิเนนเซ  0


 ประเทศอียิปต์ อัลอะฮ์ลี  3
18 ธันวาคม 2023 – ญิดดะฮ์ (KASC)
 ประเทศซาอุดีอาระเบีย อัลอิตติฮัด  1


   
 ประเทศบราซิล ฟลูมิเนนเซ  2
ชิงอันดับ 5 ชิงอันดับ 3
     ประเทศอียิปต์ อัลอะฮ์ลี  0


 
       ประเทศญี่ปุ่น อูราวะ เรดไดมอนส์  2
       ประเทศอียิปต์ อัลอะฮ์ลี  4
  22 ธันวาคม 2023 – ญิดดะฮ์ (PAASC)

หมายเหตุ

  1. ^
    หากทีมจากประเทศเจ้าภาพชนะการแข่งขันชิงแชมป์สมาพันธ์ ทีมที่มีอันดับดีที่สุดนอกประเทศนั้นในการแข่งขันชิงแชมป์สมาพันธ์จะได้รับเชิญแทนผู้ชนะลีกของประเทศเจ้าภาพ
  2. ^ a b c
    จะพิจารณาจากการจับฉลาก (AFC / CAF / CONCACAF)
  3. ^ a b
    จะพิจารณาจากการจับฉลาก (CONMEBOL / UEFA)

รอบแรก

[แก้]
อัลอิตติฮัด ประเทศซาอุดีอาระเบีย3–0ประเทศนิวซีแลนด์ ออกแลนด์ซิตี
รายงาน

รอบสอง

[แก้]

รอบรองชนะเลิศ

[แก้]

นัดชิงอันดับที่สาม

[แก้]

รอบชิงชนะเลิศ

[แก้]
แมนเชสเตอร์ซิตี ประเทศอังกฤษ4–0ประเทศบราซิล ฟลูมิเนนเซ
รายงาน

ผู้ทำประตู

[แก้]
อันดับ ผู้เล่น ทีม ประตู
1 ประเทศอาร์เจนตินา ฆูเลียน อัลบาเรซ ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ซิตี 2
ประเทศฝรั่งเศส การีม แบนเซมา ประเทศซาอุดีอาระเบีย อัลอิตติฮัด
ประเทศตูนิเซีย อาลี มาอาลูล ประเทศอียิปต์ อัลอะฮ์ลี
4 ประเทศโคลอมเบีย จห์อน อาริอัส ประเทศบราซิล ฟลูมิเนนเซ 1
ประเทศอียิปต์ อีแมม อาชัวร์ ประเทศอียิปต์ อัลอะฮ์ลี
ประเทศโปรตุเกส บือร์นาร์ดู ซิลวา ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ซิตี
ประเทศอียิปต์ ฮุสเซอิน เอล ชาฮัต ประเทศอียิปต์ อัลอะฮ์ลี
ประเทศอังกฤษ ฟิล โฟเดน ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ซิตี
ประเทศอียิปต์ ยัสเซอร์ อิบราฮิม ประเทศอียิปต์ อัลอะฮ์ลี
ประเทศกินี โจเซ ก็องเต ประเทศญี่ปุ่น อูราวะ เรดไดมอนส์
ประเทศฝรั่งเศส อึงโกโล ก็องเต ประเทศซาอุดีอาระเบีย อัลอิตติฮัด
ประเทศบราซิล จอห์น เคนเนดี ประเทศบราซิล ฟลูมิเนนเซ
ประเทศโครเอเชีย มาเตออ กอวาชิช ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ซิตี
ประเทศบราซิล โรมารินโญ ประเทศซาอุดีอาระเบีย อัลอิตติฮัด
ประเทศเนเธอร์แลนด์ อเล็กซ์ ชอล์ก ประเทศญี่ปุ่น อูราวะ เรดไดมอนส์
ประเทศเดนมาร์ก อาเล็กซันเดอร์ สโชลซ์ ประเทศญี่ปุ่น อูราวะ เรดไดมอนส์
ประเทศแอฟริกาใต้ เพอร์ซี ตาอู ประเทศอียิปต์ อัลอะฮ์ลี

1 การทำเข้าประตูตัวเอง

รางวัล

[แก้]

รางวัลด้านล่างนี้จะมอบให้เมื่อสิ้นสุดการแข่งขัน. โรดริ ของ แมนเชสเตอร์ซิตี ชนะรางวัล ลูกบอลทองคำ.[5]

ลูกบอลทองคำ ลูกบอลเงิน ลูกบอลทองแดง
ประเทศสเปน โรดริ
(แมนเชสเตอร์ซิตี)
ประเทศอังกฤษ ไคล์ วอล์กเกอร์
(แมนเชสเตอร์ซิตี)
ประเทศโคลอมเบีย จห์อน อาริอัส
(ฟลูมิเนนเซ)
รางวัลฟีฟ่าแฟร์เพลย์
ประเทศซาอุดีอาระเบีย อัลอิตติฮัด

ฟีฟ่ายังเสนอชื่อ แมนออฟเดอะแมตช์ สำหรับผู้เล่นที่ดีที่สุดในแต่ละเกมของทัวร์นาเมนต์.

แมนออฟเดอะแมตช์
แมตช์ แมนออฟเดอะแมตช์ สโมสร คู่แข่งขัน Ref.
1 ประเทศฝรั่งเศส อึงโกโล ก็องเต ประเทศซาอุดีอาระเบีย อัลอิตติฮัด ประเทศนิวซีแลนด์ ออกแลนด์ซิตี [6]
2 ประเทศอียิปต์ มาร์วัน อัตเตีย ประเทศอียิปต์ อัลอะฮ์ลี ประเทศซาอุดีอาระเบีย อัลอิตติฮัด [7]
3 ประเทศญี่ปุ่น โยชิโอะ โคอิซูมิ ประเทศญี่ปุ่น อูราวะ เรดไดมอนส์ ประเทศเม็กซิโก คลับเลออน [8]
4 ประเทศบราซิล อังเดร ประเทศบราซิล ฟลูมิเนนเซ ประเทศอียิปต์ อัลอะฮ์ลี [9]
5 ประเทศสเปน โรดริ ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ซิตี ประเทศญี่ปุ่น อูราวะ เรดไดมอนส์ [10]
6 ประเทศอียิปต์ อีแมม อาชัวร์ ประเทศอียิปต์ อัลอะฮ์ลี ประเทศญี่ปุ่น อูราวะ เรดไดมอนส์ [11]
7 ประเทศอาร์เจนตินา ฆูเลียน อัลบาเรซ ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ซิตี ประเทศบราซิล ฟลูมิเนนเซ [12]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "Saudi Arabia to host Club World Cup in December". FIFA. 14 February 2023. สืบค้นเมื่อ 16 February 2023.
  2. "FIFA Council approves international match calendars". FIFA. 14 March 2023. สืบค้นเมื่อ 14 March 2023.
  3. "Vinicius and Valverde dazzle as five-star Madrid conquer". FIFA. 11 February 2023. สืบค้นเมื่อ 11 February 2023.
  4. "Regulations for the FIFA Club World Cup Saudi Arabia 2023" (PDF). FIFA. June 2023. สืบค้นเมื่อ 1 November 2023.
  5. "Rodri wins adidas Golden Ball as City reign". FIFA. 22 December 2023. สืบค้นเมื่อ 22 December 2023.
  6. "Stylish Ittihad set up Ahly showdown". FIFA. 12 December 2023. สืบค้นเมื่อ 12 December 2023.
  7. "Al Ahly stun Al Ittihad to set up Flu showdown". FIFA. 15 December 2023. สืบค้นเมื่อ 15 December 2023.
  8. "Schalk strikes as Reds set up City semi". FIFA. 15 December 2023. สืบค้นเมื่อ 15 December 2023.
  9. "Fluminense make final after spirited Al Ahly win". FIFA. 18 December 2023. สืบค้นเมื่อ 18 December 2023.
  10. "City cruise to set up Fluminense final". FIFA. 19 December 2023. สืบค้นเมื่อ 19 December 2023.
  11. "Al Ahly claim bronze after six-goal thriller". FIFA. 22 December 2023. สืบค้นเมื่อ 22 December 2023.
  12. "Clinical City clinch maiden Club World Cup title". FIFA. 22 December 2023. สืบค้นเมื่อ 22 December 2023.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]