ข้ามไปเนื้อหา

สงครามนากอร์โน-คาราบัคครั้งที่สอง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก 2020 Nagorno-Karabakh conflict)
สงครามนากอร์โน-คาราบัคครั้งที่สอง
ส่วนหนึ่งของ ความขัดแย้งนากอร์โน-คาราบัค
วันที่27 กันยายน – 10 พฤศจิกายน 2563 (1 เดือน 2 สัปดาห์)[7]
สถานที่
ผล ชัยชนะของอาเซอร์ไบจาน[8][9]
ดินแดน
เปลี่ยนแปลง
อาเซอร์ไบจานยึดที่มั่นบางแห่ง[10] บางแห่งในจำนวนนั้นถูกยึดกลับคืนในภายหลัง[11] (ข้อมูลจากอาร์มีเนีย)
อาเซอร์ไบจานยึดหมู่บ้าน 7 หมู่บ้านและยอดเขา 1 ยอด (ข้อมูลจากอาเซอร์ไบจาน)[12]
คู่สงคราม

 อาเซอร์ไบจาน
กองทัพแห่งชาติซีเรีย[a]
สนับสนุนโดย:
 ตุรกี[1][2]

ผู้จัดส่งอาวุธ:

 สาธารณรัฐนากอร์โน-คาราบัค
 อาร์มีเนีย
อาสาสมัครชาวอาร์มีเนียพลัดถิ่น[6]

ผู้จัดส่งอาวุธ:
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ
อาเซอร์ไบจาน อิลฮัม แอลีเยฟ
(ประธานาบดีอาเซอร์ไบจาน, ผู้บัญชาการ)
อาเซอร์ไบจาน ซาคีร์ แฮแซนอฟ (รัฐมนตรีกลาโหมอาเซอร์ไบจาน)
อาเซอร์ไบจาน มาอิส แบร์คูดารอฟ (ผู้บัญชาการทหารบก)[13]
อาร์มีเนีย นีกอล พาชินยัน
(นายกรัฐมนตรีอาร์มีเนีย, ผู้บัญชาการ)
อาร์มีเนีย ดาวิท ตอนอยัน (รัฐมนตรีกลาโหมอาร์มีเนีย)
นากอร์โน-คาราบัค อารายิก ฮารุทยุนยัน (ประธานาธิบดีสาธารณรัฐนากอร์โน-คาราบัค, ผู้บัญชาการ)
นากอร์โน-คาราบัค จาลัล ฮารุทยูนยัน [hy] (รัฐมนตรีกลาโหมสาธารณรัฐนากอร์โน-คาราบัค)
ความสูญเสีย

ข้อมูลจากอาเซอร์ไบจาน:

  • ไม่เป็นที่ทราบ (ทางการ)[14]
  • ทหารเสียชีวิต 11 นาย (ศูนย์วิจัยคาซาร์)[14]
  • เฮลิคอปเตอร์ถูกยิงตก 1 ลำ[15]

ข้อมูลจากอาร์มีเนีย:[16]

  • ทหารเสียชีวิต ~400 นาย[17]
  • เฮลิคอปเตอร์ถูกยิงตก 4 ลำ
  • รถถัง/รถรบทหารราบถูกทำลาย 36 คัน
  • รถรบทหารราบ/ยานเกราะถูกยึด 11 คัน[18]
  • โดรนถูกยิงตก 27 ลำ

ข้อมูลจากอาร์มีเนีย:

  • ทหารเสียชีวิต 59 นาย[19]
  • ทหารบาดเจ็บ ~200 นาย[20]
  • เครื่องบินโจมตี Su-25 ถูกยิงตก 1 ลำ[21]

[22]


ข้อมูลจากอาเซอร์ไบจาน:

  • ทหาร 550+ นายเสียชีวิตหรือบาดเจ็บ
  • รถถัง/รถรบทหารราบถูกทำลาย 24 คัน
  • อากาศยานไร้คนขับถูกยิงตก 18 ลำ
  • ปืนใหญ่ถูกทำลาย 8 กระบอก
  • คลังกระสุนถูกทำลาย 3 แห่ง
  • ปืนต่อต้านอากาศยานถูกทำลาย 15 กระบอก[23][24]
พลเมืองอาเซอร์ไบจานเสียชีวิต 65 คน พลเมืองอาร์มีเนียเสียชีวิต 40 คน;[25] พลเมืองอาเซอร์ไบจานบาดเจ็บ 297 คน[26] พลเมืองอาร์มีเนีย 100 คนบาดเจ็บ[27]
ผู้สื่อข่าวชาวรัสเซีย 3 คน ฝรั่งเศส 2 คน อาร์มีเนีย 1 คน อาเซอร์ไบจาน 1 คน ได้รับบาดเจ็บ[28]
พลเมืองชาวอิหร่าน 1 คน ได้รับบาดเจ็บ

สงครามนากอร์โน-คาราบัคครั้งที่สอง เป็นความขัดแย้งทางอาวุธในภูมิภาคนากอร์โน-คาราบัคระหว่างอาเซอร์ไบจานซึ่งได้รับการสนับสนุนจากตุรกี กับสาธารณรัฐนากอร์โน-คาราบัค (อาร์ทซัค) ซึ่งประกาศตัวเองเป็นเอกราชและได้รับการสนับสนุนจากอาร์มีเนีย นับเป็นความขัดแย้งที่บานปลายครั้งล่าสุดในภูมิภาคซึ่งได้รับการรับรองจากนานาชาติว่าเป็นส่วนหนึ่งของอาเซอร์ไบจาน แต่ส่วนใหญ่อยู่ภายใต้การปกครองของสาธารณรัฐนากอร์โน-คาราบัคและมีชาวอาร์มีเนียเป็นกลุ่มชาติพันธุ์หลักที่อาศัยอยู่

การปะทะเริ่มขึ้นในเช้าวันที่ 27 กันยายน ตามแนวติดต่อนากอร์โน-คาราบัคซึ่งได้รับการกำหนดขึ้นหลังสงครามนากอร์โน-คาราบัค (พ.ศ. 2531–2537) เพื่อเป็นการตอบสนองต่อการปะทะครั้งนี้ อาร์มีเนียและสาธารณรัฐนากอร์โน-คาราบัคได้ประกาศกฎอัยการศึกและการระดมพลทั้งหมด[29][30] ในขณะที่อาเซอร์ไบจานได้ประกาศกฎอัยการศึกและเคอร์ฟิว[31] และต่อมาได้ประกาศการระดมพลบางส่วนในวันที่ 28 กันยายน[32] ตุรกีให้การสนับสนุนทางทหารแก่อาเซอร์ไบจาน แม้ว่าขอบเขตของการสนับสนุนจะยังเป็นที่ถกเถียงก็ตาม[33][34] เชื่อกันว่าการเข้ามามีส่วนร่วมของตุรกีเป็นความพยายามที่จะขยายเขตอิทธิพลของตนทั้งโดยการเสริมสถานะของอาเซอร์ไบจานในความขัดแย้งและโดยการลดอิทธิพลของรัสเซียในภูมิภาค[33][35]

นักวิเคราะห์ระหว่างประเทศเชื่อว่าอาเซอร์ไบจานเป็นผู้เปิดฉากรุกก่อน[33][36] และเป้าหมายหลักของการรุกน่าจะเป็นไปเพื่อยึดพื้นที่ตอนใต้ของนากอร์โน-คาราบัคซึ่งมีภูเขาน้อยกว่าและง่ายต่อการเข้ายึดมากกว่าพื้นที่ตอนในของภูมิภาคซึ่งมีการป้องกันอย่างดี[37][38] ในสงครามครั้งนี้มีการโจมตีโดยใช้อากาศยานไร้คนขับ เครื่องรับรู้ ปืนใหญ่พิสัยไกล[39] และขีปนาวุธ ตลอดจนการโฆษณาชวนเชื่อโดยรัฐและการใช้บัญชีสื่อสังคมทางการในยุทธการข้อมูลข่าวสารออนไลน์[40] ผู้เสียชีวิตจากการสู้รบของทั้งสองฝ่ายรวมกันแล้วอาจอยู่ในระดับหลายพันคน[41]

หลายประเทศและสหประชาชาติออกมาประณามอย่างรุนแรงต่อการใช้กำลังและเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายผ่อนคลายความตึงเครียดและกลับสู่การเจรจาที่มีนัยสำคัญโดยไม่รอช้า[42] ข้อตกลงหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมตามแนวทางของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศซึ่งมีรัสเซียเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยและได้รับความเห็นชอบจากทั้งอาร์มีเนียและอาเซอร์ไบจานมีผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 10 ตุลาคม[43][44][45] อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงดังกล่าวถูกทั้งสองฝ่ายเพิกเฉยอย่างสิ้นเชิง ส่งผลให้แผนการส่งร่างผู้เสียชีวิตกลับประเทศและการแลกเปลี่ยนผู้บาดเจ็บและเชลยหยุดชะงัก[46]

หลังจากอาเซอร์ไบจานเข้ายึดชูชาซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับที่สองของสาธารณรัฐนากอร์โน-คาราบัค มีการลงนามข้อตกลงสันติภาพระหว่างอิลฮัม แอลีเยฟ ประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจาน, นีกอล พาชินยัน นายกรัฐมนตรีอาร์มีเนีย และวลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ซึ่งยุติการสู้รบทั้งหมดในพื้นที่ตั้งแต่เวลา 00:00 น. ของวันที่ 10 พฤศจิกายน ตามเวลามอสโก[47][48][49] อารายิก ฮารุทยุนยัน ประธานาธิบดีสาธารณรัฐนากอร์โน-คาราบัค ตกลงที่จะยุติการสู้รบด้วยเช่นกัน[50] ตามข้อตกลงดังกล่าว แต่ละฝ่ายจะยังคงปักหลักในพื้นที่ที่ตนเองควบคุมอยู่ในปัจจุบัน ในขณะที่ชาวอาร์มีเนียตกลงที่จะคืนดินแดนรอบภูมิภาคนากอร์โน-คาราบัคที่ตนเองยึดครองให้แก่อาเซอร์ไบจาน นอกจากนี้อาเซอร์ไบจานยังจะสามารถเข้าถึงดินแดนส่วนแยกนาคีชีวันทางบกได้อีกด้วย[51] ส่วนรัสเซียจะส่งทหารจำนวนเกือบ 2,000 นายไปเป็นกองกำลังรักษาสันติภาพเพื่อคุ้มครองเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างอาร์มีเนียกับสาธารณรัฐนากอร์โน-คาราบัคเป็นเวลาอย่างน้อยห้าปี[7]

อ้างอิง

[แก้]
  1. Kofman, Michael (2 October 2020). "Armenia-Azerbaijan War: Military Dimensions of the Conflict". Russia Matters. Belfer Center for Science and International Affairs. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-03. สืบค้นเมื่อ 2020-10-05. Turkey has publicly, and militarily, backed Azerbaijan in this conflict....
  2. Jones, Dorian (28 September 2020). "Turkey Vows Support for Azerbaijan in Escalating Nagorno-Karabakh Conflict". Voice of America. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-09-30. สืบค้นเมื่อ 2020-10-05. "Turkey is already supporting Azerbaijan militarily, through technical assistance through arms sales, providing critical military support, especially in terms of armed drones and technical expertise," said Turkish analyst Ilhan Uzgel.
  3. Ravid, Barak (30 September 2020). "Azerbaijan using Israeli "kamikaze drones" in Nagorno-Karabakh clashes". Axios. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-09-30. สืบค้นเมื่อ 2020-10-05.
  4. "Azerbaijani official says military using Israeli-made drones in war with Armenia". i24 News. 30 September 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-09-30. สืบค้นเมื่อ 2020-10-05.
  5. "Israel sending weapons to Azerbaijan as fight with Armenia rages on: Sources". Al Arabiya. 30 September 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-03. สืบค้นเมื่อ 2020-10-05. ...a US intelligence source told Al Arabiya English that Israel was sending planes full of weapons to Azerbaijan.
  6. Dans le Haut-Karabakh, les volontaires arméniens découvrent la guerre // RFI. 03/10/2020.
  7. 7.0 7.1 "Deal Struck to End Nagorno-Karabakh War". The Moscow Times. 10 November 2020. สืบค้นเมื่อ 10 November 2020.
  8. "Azerbaijan and Armenia agree full ceasefire in Nagorno-Karabakh". Financial Times. 10 November 2020. Agreement is seen as victory for Baku and will be monitored by Russian forces
  9. "Armenia, Azerbaijan and Russia sign Nagorno-Karabakh peace deal". BBC. 10 November 2020. The BBC's Orla Guerin in Baku says that, overall, the deal should be read as a victory for Azerbaijan and a defeat for Armenia.
  10. Staff, Reuters (27 September 2020). "Nagorno-Karabakh says the region has lost some territory to Azerbaijan's army" – โดยทาง www.reuters.com.
  11. Armenian, Azeri forces battle again, at least 21 reported killed
  12. "Azerbaijan kills over a dozen Armenian servicemen in Karabakh fighting". trtworld.com (ภาษาอังกฤษ). TRT World. 27 September 2020. สืบค้นเมื่อ 27 September 2020.
  13. Major General Mayis Barkhudarov: "We will fight to destroy the enemy completely"
  14. 14.0 14.1 Outbreak of fighting in Karabakh, updated. News and reports. Video/photo
  15. "Fighting Erupts Between Azeris and Armenians Over Disputed Land". Bloomberg. 27 September 2020. สืบค้นเมื่อ 27 September 2020.
  16. "Armenia military top brass hold tactical consultation". 28 September 2020. สืบค้นเมื่อ 28 September 2020.
  17. "Azerbaijan has suffered over 400 manpower losses". armenpress.am (ภาษาอังกฤษ). Armenpress. 28 September 2020. สืบค้นเมื่อ 28 September 2020.
  18. "Azeri-Armenian Clashes: Nagorno-Karabakh Army Seizes 11 Azerbaijani Armoured Vehicles". 28 September 2020.
  19. Karabakh says 28 more of its troops killed in fighting with Azeri forces
  20. "About 200 military servicemen wounded in Nagorno-Karabakh". 28 September 2020.
  21. "URGENT: Turkish F-16 shoots down Armenia jet in Armenian airspace". Armenpress. 29 September 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 September 2020. สืบค้นเมื่อ 29 September 2020.
  22. https://theaviationist.com/2020/09/30/armenia-releases-images-of-su-25-wreckage-continues-to-claim-it-was-shot-down-by-turkish-f-16/
  23. "Müdafiə Nazirliyi Ermənistanın itkilərini açıqladı" (ภาษาอาเซอร์ไบจาน). 28 September 2020. สืบค้นเมื่อ 28 September 2020.
  24. "MN: Düşmənin 3 silah-sursat anbarı, onlarla texnikası məhv edilib, 550-dən artıq canlı qüvvə itkisi var" (ภาษาอาเซอร์ไบจาน). 28 September 2020. สืบค้นเมื่อ 28 September 2020.
  25. Death Toll Rises as Armenia-Azerbaijan Fighting Enters Second Day
  26. "Ermənilərin yaşayış məntəqəsini atəşə tutması nəticəsində Ağdam sakini həlak olub". report.az (ภาษาอาเซอร์ไบจาน). Report Information Agency. 28 September 2020. สืบค้นเมื่อ 28 September 2020.
  27. Over 30 civilians injured in Artsakh – preliminary information
  28. Staff, Reuters (1 October 2020). "Two French journalists seriously wounded after shelling in Nagorno-Karabakh" – โดยทาง www.reuters.com.
  29. "Armenia and Azerbaijan erupt into fighting over disputed Nagorno-Karabakh". BBC News. 27 September 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 September 2020. สืบค้นเมื่อ 27 September 2020.
  30. "Nagorno-Karabakh announces martial law and total mobilization". Reuters. 27 September 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 October 2020. สืบค้นเมื่อ 27 September 2020.
  31. "Azerbaijan's parliament approves martial law, curfews – president's aide". Reuters. 27 September 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 September 2020. สืบค้นเมื่อ 27 September 2020.
  32. "Azerbaijan's president orders partial military mobilization". tass.com. สืบค้นเมื่อ 2020-10-26.
  33. 33.0 33.1 33.2 Kofman, Michael (2 October 2020). "Armenia–Azerbaijan War: Military Dimensions of the Conflict". Russia Matters. Belfer Center for Science and International Affairs. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-03. สืบค้นเมื่อ 2020-10-05. On 27 September 2020, Azerbaijan launched a military offensive, resulting in fighting that spans much of the line of contact in the breakaway region of Nagorno-Karabakh...
  34. Jones, Dorian (28 September 2020). "Turkey Vows Support for Azerbaijan in Escalating Nagorno-Karabakh Conflict". Voice of America. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-09-30. สืบค้นเมื่อ 2020-10-05. แม่แบบ:-'Turkey is already supporting Azerbaijan militarily, through technical assistance through arms sales, providing critical military support, especially in terms of armed drones and technical expertise', said Turkish analyst Ilhan Uzgel.
  35. Gall, Carlotta (2020-10-01). "Turkey Jumps Into Another Foreign Conflict, This Time in the Caucasus". The New York Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0362-4331. สืบค้นเมื่อ 2020-10-04.
  36. Kucera, Joshua (29 September 2020). "As fighting rages, what is Azerbaijan's goal?". eurasianet.org. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 October 2020. สืบค้นเมื่อ 29 September 2020. The Azerbaijani offensive against Armenian forces is its most ambitious since the war between the two sides formally ended in 1994.
  37. Palmer, James (28 September 2020). "Why Are Armenia and Azerbaijan Heading to War?". Foreign Policy. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 September 2020. สืบค้นเมื่อ 29 September 2020.
  38. "'Забуксовала, заглохла': эксперт о военной операции Азербайджана в Карабахе" (ภาษารัสเซีย). EurAsia Daily. 2 October 2020. Азербайджанская армия не выполнила за 5 дней ни одной задачи первого дня. Михаил Ходарёнок
  39. Gatopoulos, Alex. "The Nagorno-Karabakh conflict is ushering in a new age of warfare". aljazeera.com. สืบค้นเมื่อ 2020-10-15.
  40. Mirovalev, Mansur (15 October 2020). "Armenia, Azerbaijan battle an online war over Nagorno-Karabakh". Al Jazeera.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  41. McKernan, Bethan; Zavallis, Achilleas (2020-10-13). "Trench warfare, drones and cowering civilians: on the ground in Nagorno-Karabakh". The Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). ISSN 0261-3077. สืบค้นเมื่อ 2020-10-13.
  42. "UN Security Council calls for immediate end to fighting in Nagorno-Karabakh". france24.com. Associated Press. 2020-09-30. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 October 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-09-30.
  43. "Nagorno-Karabakh: Armenia and Azerbaijan shaky ceasefire in force". BBC News. 2020-10-10. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 October 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-10-10.
  44. Hovhannisyan, Nailia Bagirova, Nvard (2020-10-10). "Armenia and Azerbaijan accuse each other of violating Nagorno-Karabakh ceasefire". Reuters. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-15. สืบค้นเมื่อ 2020-10-10.
  45. "Armenia Azerbaijan: Reports of fresh shelling dent ceasefire hopes". BBC News. 2020-10-11. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 October 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-10-11.
  46. Bagirova, Nvard Hovhannisyan, Nailia (2020-10-13). "Humanitarian crisis feared as Nagorno-Karabakh ceasefire buckles". Reuters. สืบค้นเมื่อ 2020-10-13.
  47. "Путин выступил с заявлением о прекращении огня в Карабахе" (ภาษารัสเซีย). RIA Novosti. 9 November 2020. สืบค้นเมื่อ 9 November 2020.
  48. "Пашинян заявил о прекращении боевых действий в Карабахе" (ภาษารัสเซีย). RIA Novosti. 9 November 2020. สืบค้นเมื่อ 9 November 2020.
  49. "Nagorno-Karabakh: Russia deploys peacekeeping troops to region". BBC News. 2020-11-10. สืบค้นเมื่อ 2020-11-11.
  50. "Президент непризнанной НКР дал согласие закончить войну" (ภาษารัสเซีย). RIA Novosti. 9 November 2020. สืบค้นเมื่อ 9 November 2020.
  51. https://www.nytimes.com/2020/11/09/world/middleeast/armenia-settlement-nagorno-karabakh-azerbaijan.html