ภาษาอินโด-ยูโรเปียนดั้งเดิม
ภาษาอินโด-ยูโรเปียนดั้งเดิม หรือ โปรโต-อินโด-ยูโรเปียน (อังกฤษ: Proto-Indo-European หรือ PIE)[1] คือภาษาสืบสร้างซึ่งเป็นภาษาจากสมมุติฐานที่คาดว่าบรรพบุรุษของอินโด-ยูโรเปียนเคยพูดภาษาเดียวกัน
ภาษาอินโด-ยูโรเปียนดั้งเดิมคือภาษาดั้งเดิมที่เป็นที่สนใจมากที่สุด รวมถึงเข้าใจมากที่สุดอีกด้วย งานส่วนใหญ่ของนักภาษาศาสตร์ในช่วงศตวรรษที่ 19 มักจะเป็นเรื่องการสืบสร้างภาษานี้ และภาษาลูกหลานเช่น ภาษาเจอร์แมนิกดั้งเดิม และมักจะใช้วิธีการเปรียบเทียบเช่นเดียวกับที่ปัจจุบันใช้กัน วิธีการนี้ทำให้สามารถเข้าใจภาษาในหลายหลายอย่าง ถึงแม้จะไม่เคยมีการจดบันทึกภาษานี้ในประวัติศาสตร์เลยก็ตาม
ภาษาอินโด-ยูโรเปียนดั้งเดิมประมาณว่าเคยพูดเป็นภาษาเดียวกันระหว่าง 4500 ถึง 2500 ปีก่อนคริสตกาล[2] ในยุคหินใหม่ ถึงแม้จะประมาณไปไกลหลายพันปี แต่ตามสมมติฐานคุร์กัน บ้านเกิดของภาษานี้น่าจะอยู่ในทุ่งหญ้าสเตปป์พอนติก-แคสเปียนในยุโรปตะวันออก การสืบสร้างภาษาอินโด-ยูโรเปียนดั้งเดิมยังให้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับศาสนาและวัฒนธรรมของผู้พูดอีกด้วย[3]
ภาษาลูกหลาน
[แก้]- ภาษาอานาโตเลียดั้งเดิม — ปัจจุบันสูญแล้ว ภาษาที่เด่นที่สุดคือภาษาของฮิตไตต์ ไม่มีภาษาลูกหลานในปัจจุบัน
- ภาษาโตคาเรียนดั้งเดิม — เป็นภาษาที่พบในตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ไม่มีภาษาลูกหลานในปัจจุบัน
- ภาษาอิตาลิกดั้งเดิม — มีลูกหลานอีกหลายภาษา ปัจจุบันยังเหลือที่พูดแต่ลูกหลานของภาษาละติน เช่น ภาษาสเปน ภาษาฝรั่งเศส ภาษาอิตาลี ภาษาโรมาเนีย
- ภาษาเคลต์ดั้งเดิม — คือภาษาดั้งเดิมของกลุ่มภาษาเคลต์ ในสมัยก่อนมีการพูดกันเป็นส่วนใหญ่ของยุโรป ปัจจุบันเหลือแค่ช่วงตะวันตกเฉียงเหนือของยุโรปเท่านั้น ภาษาลูกหลานในปัจจุบันเช่น ภาษาไอริช ภาษาเวลส์
- ภาษาเจอร์แมนิกดั้งเดิม — เป็นภาษาดั้งเดิมของกลุ่มภาษาเจอร์แมนิก ซึ่งแบ่งแยกเป็นสามกลุ่มย่อย กลุ่มภาษาเจอร์แมนิกตะวันตก กลุ่มภาษาเจอร์แมนิกตะวันออกซึ่งสูญแล้ว และกลุ่มภาษาเจอร์แมนิกเหนือ ภาษาลูกหลานในปัจจุบันเช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาเยอรมัน ภาษานอร์เวย์ ภาษาสวีเดน ภาษาเดนมาร์ก ภาษาไอซ์แลนด์
- ภาษาบอลต์-สลาฟดั้งเดิม — เป็นภาษาดั้งเดิมของกลุ่มภาษาบอลต์และกลุ่มภาษาสลาฟ ภาษาลูกหลานในปัจจุบันเช่น ภาษาลัตเวีย ภาษาลิทัวเนีย ภาษารัสเซีย ภาษาโปแลนด์ ภาษาบอสเนีย-โครเอเชีย-มอนเตเนโกร-เซอร์เบีย
- ภาษาอินโด-อิเรเนียนดั้งเดิม — แบ่งเป็นกลุ่มภาษาอินโด-อารยัน กลุ่มภาษาอิหร่าน และกลุ่มภาษานูริสถานี ภาษาลูกหลานในปัจจุบันเช่น ภาษาฮินดี ภาษาเบงกอล ภาษาเปอร์เซีย
- ภาษาอาร์มีเนียดั้งเดิม — ภาษาลูกหลานในปัจจุบันเช่น ภาษาอาร์มีเนีย
- ภาษากรีกดั้งเดิม — ภาษาลูกหลานในปัจจุบันเช่น ภาษากรีกโบราณ ภาษากรีกปัจจุบัน
- ภาษาแอลเบเนียดั้งเดิม — เป็นภาษาที่มีภาษาลูกหลานทั้งในอดีตถึงปัจจุบันภาษาเดียวคือ ภาษาแอลเบเนีย
สัณฐานวิทยา
[แก้]ราก
[แก้]ภาษาอินโด-ยูโรเปียนดั้งเดิมเป็นภาษาที่มีการผัน หมายถึงมีการผันหน่วยคำต่าง ๆ เพื่อแสดงหน้าที่ในภาษาแตกต่างกัน และภาษานี้มีการสร้างหน่วยคำจากการใช้หน่วยคำเติม แสดงว่ารากคำต่าง ๆ ในภาษาอินโด-ยูโรเปียนดั้งเดิม คือ คำรวมกับหน่วยคำเติมเป็นหัวคำ แล้วนำหัวคำมาผันรุปตามหน้าที่นั้น ๆ ในประโยค[3]
การเปลี่ยนส่วนของคำ
[แก้]หน่วยคำภาษาอินโด-ยูโรเปียนดั้งเดิมจำนวนมากมี e เป็นสระแท้ การเปลี่ยนส่วนของคำของภาษานี้มักจะเปลี่ยน e สั้นเป็น o สั้น เปลี่ยน e ยาว (ē) เป็น o ยาว (ō) หรือไม่มีสระเลย การแปลงสระนี้มีความเกี่ยวข้องทั้งการผันคำนามและกริยา[4]
คำนาม
[แก้]ภาษาอินโด-ยูโรเปียนดั้งเดิมมีการผันคำนาม 8-9 รูปแบบคือ[5]
- กรรตุการก คือการผันที่แสดงถึงประธานของกริยา เช่น They ใน They ate ในภาษาอังกฤษ
- กรรมการก คือการผันที่แสดงถึงกรรมตรงของกริยา
- สัมพันธการก คือการผันที่แสดงถึงคำนามที่ไปดัดแปลงคำนามอื่น (เช่นแสดงความเป็นเจ้าของ)
- สัมปทานการก คือการผันที่แสดงถึงกรรมรองของกริยา เช่น Jacob in Maria gave Jacob a drink ในภาษาอังกฤษ ถ้าเทียบกับภาษาไทย ภาษาไทยจะใช้บุพบท แก่..., เพื่อ..., ให้... หรือ ต่อ... เพื่อแสดงเช่น เขาให้ของแก่แม่ของเขา แม่ของเขาคือกรรมรอง
- กรณการก คือการผันที่แสดงถึงเครื่องมือ หรือด้วย หรือหมายถึง เครื่องมือต่าง ๆ เช่นในภาษาไทย เขาเดินด้วยขา ขาคือเครื่องมือ
- อปาทานการก คือการผันที่บ่งชี้การเคลื่อนที่ เคลื่อนย้าย หรือแยกตัวออกจากบางอย่าง ถ้าเทียบกับภาษาไทย ภาษาไทยใช้บุพบท จาก..., ออกจาก... เพื่อแสดงเช่น เขาย้ายบ้านออกจากเมือง เมืองจะมีการผัน
- อธิกรณการก คือการผันที่บ่งชี้สถานที่ต่าง ๆ ถ้าเทียบกับภาษาไทย คำหลังคำบุพบทที่บอกสถานที่เช่น บน หรือ ใต้ จะมีการผัน เช่น หนังสืออยู่บนโต๊ะ โต๊ะจะมีการผัน
- สัมโพธนการก คือการผันสิ่งที่ถูกเรียกขาน เช่น "I don't know, John" "John" จะถูกผัน
- allative ไม่มีชื่อเป็นภาษาไทย คือการผันที่แสดงการเคลื่อนที่ เคลื่อนย้าย หรือแยกตัวเข้า พบเฉพาะในกลุ่มภาษาอานาโตเลียเท่านั้น
และมีเพศสามเพศได้แก่ เพศชาย เพศหญิง และเพศกลาง
คำสรรพนาม
[แก้]ภาษาอินโด-ยูโรเปียนดั้งเดิมนั้นสามารถสืมหาคำสรรพนามได้ยาก เนื่องจากภาษาหลัง ๆ ได้มีการแปลงเป็นหลายแบบ ภาษาอินโด-ยูโรเปียนดั้งเดิมมีบุรุษสรรพนาม ในบุรุษที่ 1 และ 2 ในขณะที่บุรุษที่ 3 มีการใช้นิยมสรรพนาม (เช่น นี่ นั่น โน่น) แทน บุรุษสรรพนามของภาษานี้แต่ละอย่างเป็นเอกลักษณ์ตัวมันเอง และบางตัวมีการใช้สองแบบ เป็นเรื่องชัดเจนในบุรุษสรรพนามที่ 1 แบบเอกพจน์ ที่แบบแรกจะเก็บไว้ในขณะแบบที่ 2 มีไว้สำรองซึ่งปรากฏในภาษาอังกฤษทั้งสองแบบคือ I และ me และยังมีการผันกรรมการก สัมพันธการก และสัมปทานการกสองแบบอีกด้วย[6]
ที่ 1 | ที่ 2 | |||
---|---|---|---|---|
เอกพจน์ | พหูพจน์ | เอกพจน์ | พหูพจน์ | |
กรรตุการก | *h₁eǵ(oH/Hom) | *wei | *tuH | *yuH |
กรรมการก | *h₁mé, *h₁me | *nsmé, *nōs | *twé | *usmé, *wōs |
สัมพันธการก | *h₁méne, *h₁moi | *ns(er)o-, *nos | *tewe, *toi | *yus(er)o-, *wos |
สัมปทานการก | *h₁méǵʰio, *h₁moi | *nsmei, *ns | *tébʰio, *toi | *usmei |
กรณการก | *h₁moí | *nsmoí | *toí | *usmoí |
อปาทานการก | *h₁med | *nsmed | *tued | *usmed |
อธิกรณการก | *h₁moí | *nsmi | *toí | *usmi |
คำกริยา
[แก้]คล้ายกับคำนาม ล้วนมีผลกับเสียงสระ การแบ่งกริยาภาษานี้แบ่งตามวิธีพื้นฐานมุมมองทางไวยากรณ์
คำกริยาสามารถแบ่งรูปแบบได้เป็น
- นามธรรม คือคำกริยาแสดงสภาวะที่เกี่ยวกับ ความรู้สึกนึกคิด, ความสัมพันธ์, ประสาทสัมผัส, สภาวะความเป็นอยู่ และการวัดหรือการประมาณค่าต่าง ๆ
- ไม่สมบูรณ์ คือคำกริยาที่ยังไม่สมบูรณ์ มีการดำเนินการอยู่ ทำซ้ำ หรือประจำวัน
- สมบูรณ์ คือคำกริยาที่ยังสมบูรณ์แล้ว สามารถมองได้การกระทำ
คำกริยามีวาจกสองแบบคือ
- กรรตุวาจก (active voice) ประโยคที่ประธานกระทำกริยาหลักกับกรรมที่ถูกกระทำ
- มัธยกรรมวาจก (mediopassive voice) คือวาจกสำหรับมัธยวาจก (middle voice) และกรรมวาจก (passive voice) (ประโยคที่ประธานที่ถูกกระทำกับกรรมที่กระทำ)
คำกริยามีบุรุษอยู่สามแบบ (ที่ 1, ที่ 2, ที่ 3)
คำกริยามีจำนวนอยู่สามแบบ
- เอกพจน์ มีหนึ่งสิ่ง สิ่งคือคำนามหรือคำสรรพนาม
- ทวิพจน์ มีสองสิ่ง
- พหูพจน์ มีจำนวนอื่นนอกจากที่บอกมาข้างต้น
ด้านล่างคือการผันคำกริยาตามคำลงท้ายที่เป็นไปได้จาก Sihler ซึ่งเป็นที่ยอมรับในปัจจุบัน
Sihler (1995)[7] | |||
---|---|---|---|
Athematic | Thematic | ||
เอกพจน์ | ที่ 1 | *-mi | *-oh₂ |
ที่ 2 | *-si | *-esi | |
ที่ 3 | *-ti | *-eti | |
ทวิพจน์ | ที่ 1 | *-wos | *-owos |
ที่ 2 | *-th₁es | *-eth₁es | |
ที่ 3 | *-tes | *-etes | |
พหูพจน์ | ที่ 1 | *-mos | *-omos |
ที่ 2 | *-te | *-ete | |
ที่ 3 | *-nti | *-onti |
เลข
[แก้]สามารถสืบสร้างได้ตามนี้
Sihler[7] | |
---|---|
หนึ่ง | *Hoi-no-/*Hoi-wo-/*Hoi-k(ʷ)o-; *sem- |
สอง | *d(u)wo- |
สาม | *trei- (ระดับเต็ม), *tri- (ระดับศูนย์) |
สี่ | *kʷetwor- (ระดับ-o), *kʷetur- (ระดับศูนย์) (ดูเพิ่มเติมที่กฎ kʷetwóres) |
ห้า | *penkʷe |
หก | *s(w)eḱs; อาจจะมาจาก *weḱs |
เจ็ด | *septm̥ |
แปด | *oḱtō, *oḱtou หรือ *h₃eḱtō, *h₃eḱtou |
เก้า | *(h₁)newn̥ |
สิบ | *deḱm̥(t) |
100, *ḱm̥tóm น่าจะมีความหมายเริ่มแรกว่าจำนวนใหญ่[8]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ https://indo-european.info/indo-european-lexicon.pdf
- ↑ Powell, Eric A. "Telling Tales in Proto-Indo-European". Archaeology. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-02-12. สืบค้นเมื่อ 2017-07-30.
- ↑ 3.0 3.1 Fortson 2004, p. 16. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "FOOTNOTEFortson200416" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน - ↑ Fortson (2004), pp. 73–74.
- ↑ Fortson (2004), p. 102.
- ↑ 6.0 6.1 Beekes, Robert; Gabriner, Paul (1995). Comparative Indo-European linguistics: an introduction. Amsterdam: J. Benjamins Publishing Company. pp. 147, 212–217, 233, 243. ISBN 978-1556195044.
- ↑ 7.0 7.1 Sihler, Andrew L. (1995). New comparative grammar of Greek and Latin. New York u.a.: Oxford Univ. Press. ISBN 0-19-508345-8.
- ↑ Lehmann, Winfried P (1993), Theoretical Bases of Indo-European Linguistics, London: Routledge, pp. 252–55, ISBN 0-415-08201-3
บรรณานุกรม
[แก้]- Anthony, David W.; Ringe, Don (2015). "The Indo-European Homeland from Linguistic and Archaeological Perspectives". Annual Review of Linguistics. 1 (1): 199–219. doi:10.1146/annurev-linguist-030514-124812.
- Bomhard, Allan (2019). "The Origins of Proto-Indo-European: The Caucasian Substrate Hypothesis". Journal of Indo-European Studies (ภาษาอังกฤษ). 47 (1 & 2, Spring/Summer 2019).
- Fortson, Benjamin W. (2004). Indo-European language and culture: an introduction. Malden, Mass: Blackwell. ISBN 1405103159. OCLC 54529041.
- Mallory, J. P. (1989). In Search of the Indo-Europeans: Language, Archaeology, and Myth (ภาษาอังกฤษ). Thames and Hudson. ISBN 9780500050521.
- Mallory, JP; Adams, DQ (2006), The Oxford Introduction to Proto-Indo-European and the Proto-Indo-European World, Oxford: Oxford University Press, ISBN 9780199296682
- Meier-Brügger, Michael (2003), Indo-European Linguistics, New York: de Gruyter, ISBN 3-11-017433-2
- Szemerényi, Oswald (1996), Introduction to Indo-European Linguistics, Oxford
- "Voiceless high vowels and syncope in older Indo-European" (PDF). Martin Kümmel, department of Indo-European linguistics, University of Jena.