โชกุน (นวนิยาย)
ผู้ประพันธ์ | เจมส์ คลาเวลล์ |
---|---|
ศิลปินปก | เอ็ด เวเบลล์ (ฉบับภาพประกอบเท่านั้น) |
ประเทศ | สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา |
ชุด | เทพนิยาย |
ประเภท | อิงประวัติศาสตร์ |
สำนักพิมพ์ | Delacorte Press (สหรัฐอเมริกา) Hodder & Stoughton (สหราชอาณาจักร) |
วันที่พิมพ์ | ค.ศ. 1975 |
ชนิดสื่อ | พิมพ์ (ปกแข็งและปกอ่อน) |
หน้า | 1152 หน้า (พิมพ์ครั้งแรก, หนังสือปกอ่อน) |
ISBN | 0-440-08721-X (สหรัฐ) – ISBN 0-340-20316-1 (สหราชอาณาจักร) |
OCLC | 9326267 |
823/.914 19 | |
LC Class | PS3553.L365 S5 1975 |
เรื่องถัดไป | Tai-Pan |
โชกุน เป็นนิยายอิงเหตุการณ์และบุคคลสำคัญในญี่ปุ่นช่วงปี 1600 ช่วงปลายยุคอาซูจิ–โมโมยามะ ก่อนเข้าสู่ยุคเอโดะ โชกุนเป็นนิยายลำดับที่ 3 จากทั้งหมด 6 เล่มในมหากาพย์เอเชีย ของเจมส์ คลาเวลล์ แต่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์ในหนังสือเล่มอื่น ๆ โชกุนตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1975 และมียอดขายมากกว่า 6 ล้านเล่มทั่วโลกภายในปี 1980 นิยายเรื่องนี้ถูกดัดแปลงเป็นมินิซีรีส์ทางโทรทัศน์ 2 ครั้ง (1980 และ 2024) ละครเวที 1 ครั้ง (โชกุน: เดอะมิวสิคัล) เกมกระดาน 1 ครั้ง และวิดีโอเกม 3 ครั้ง
คำนำ
[แก้]โชกุน เริ่มต้นขึ้นในยุคที่ญี่ปุ่นไม่มีโชกุน (ผู้ปกครองสูงสุด) มาเป็นเวลาเกือบ 3 ทศวรรษ เกิดความขัดแย้งภายในราชวงศ์ และถูกแทรกแซงทั้งทางการเมืองและทางทหารโดยโปรตุเกสที่เป็นโรมันคาทอลิก ซึ่งเป็นพันธมิตรทางการค้าชาวยุโรปชาติแรกและชาติเดียวของญี่ปุ่นเป็นเวลากว่า 50 ปี สถานการณ์ยิ่งยุ่งเหยิงซับซ้อนมากขึ้น เมื่อเรือลำใหม่จากฮอลันดาที่เป็นโปรแตสแตนท์แล่นมาเทียบท่า มุ่งหมายแย่งชิงการค้าจากโปรตุเกส สร้างจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่กี่เดือนก่อนยุทธการที่เซกิงาฮาระ–ฟื้นฟูระบอบรัฐบาลโชกุน–นิยายเรื่องโชกุนจบลงพร้อมกับเหตุการณ์หลังสงคราม ตัวเอกคือ จอห์น แบล็คธอร์น นักเดินเรือชาวอังกฤษ
เนื้อเรื่อง
[แก้]เรือเอราสมัสของดัตช์ถูกส่งไปญี่ปุ่นอย่างลับ ๆ เพื่อเจาะตลาดการค้าเครื่องเทศและสินค้าล้ำค่าอื่น ๆ จากเอเชียตะวันออกของโปรตุเกส หลังจากลูกเรือส่วนใหญ่ รวมไปถึงกัปตันเสียชีวิต เรือก็ถูกทิ้งไว้ที่ท่าเรืออิซุ ทำให้ลูกเรือที่รอดชีวิตกลายเป็นชาวโปรแตสแตนท์กลุ่มแรกที่เดินทางถึงญี่ปุ่น
เรือเอราสมัส ถูกยึดอาวุธ เอกสาร และเหรียญกษาปณ์ ส่วนลูกเรือที่รอดชีวิตถูก ยาบุ ไดเมียว แห่งแคว้นอิซุจับกุมตัวไว้ ไดเมียวยาบุ พยายามเก็บความโชคดีของเขาไว้เป็นความลับ แต่สายลับได้แจ้งให้โทรานางะ ไดเมียวแห่งคันโตและประธานสภาผู้สำเร็จราชการทราบถึงการมาถึงของเรือ โทรานางจะมองว่าเรือเอราสมัสอาจเป็นประโยชน์ในการต่อกรกับอิชิโด คู่แข่งคนสำคัญในสภา จึงสั่งให้พา จอห์น แบล็คธอร์น คนนำทางมาพบเขาที่โอซากะ
แม้จะมีหลักฐานที่บ่งชี้ถึงความขัดแย้งระหว่างโปรตุเกส (ที่นับถือนิกายโรมันคาทอลิก) กับอังกฤษในสมัยเอลิซาเบธ จนกระทั่งถึงตอนนั้น โทรานางะก็เพิ่งรู้ว่าคริสตจักรแตกแยกออกเป็นหลายฝ่าย
ตัวละคร
[แก้]โชกุนเป็นผลงานนิยายอิงประวัติศาสตร์สร้างจากการต่อสู้แย่งชิงอำนาจระหว่างผู้สืบทอดของโทโยโตมิ ฮิเดโยชิซึ่งนำไปสู่การสถาปนารัฐบาลโชกุน ผู้เขียนได้สร้างตัวละครแต่ละตัวจากบุคคลในประวัติศาสตร์ แต่เปลี่ยนชื่อเพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับเรื่องราวมากยิ่งขึ้น[1]
- จอห์น แบล็คธอร์น – มิอุระ อันจิน (วิลเลียม แอดัมส์) (1564–1620)
- โยชิ โทรานางะ – โทกูงาวะ อิเอยาซุ (1543–1616)
- โยชิ ซูดาระ – โทกูงาวะ ฮิเดตาดะ (1579–1632)
- โยชิ นากะ – มัตสึไดระ ทาดาโยชิ (1580–1607)
- อิชิโด – อิชิดะ มิตสึนาริ (1559–1600)
- โอจิบะ – โยโดะ โดโนะ (1569–1615)
- ยาเอมอน – โทโยโตมิ ฮิเดโยริ (1593–1615)
- โอโนชิ – โอตานิ โยชิตสึงุ (1558–1600)
- ฮาริมะ – อาริมะ ฮารุโนบุ (1567–1612)
- คิยามะ – โคนิชิ ยูกินากะ (1555–1600)
- ซูกิยามะ – มาเอดะ โทชิอิเอะ (1539–1599)
- ซาตากิ – ฮิซามัตสึ ซาดาคัตสึ (1560–1624)
- โทดะ มาริโกะ – โฮโซกาวะ กราเซีย (1563–1600)
- โทดะ ฮิโรมัตสึ – โฮโซกาวะ ฟูจิทากะ (1534–1610)
- โทดะ บุนตารอ – โฮโซกาวะ ทาดะโอกิ (1563–1646)
- โทดะ ซารุจิ – โฮโซกาวะ ทาดาโทชิ (1586–1641)
- คาซิกิ ยาบุ – ฮอนดะ มาซาโนบุ (1538–1616)
- คาซิกิ โอมิ – ฮอนดะ มาซะซึมิ (1566–1637)
- โกโรดะ – โอดะ โนบูนางะ (1534–1582)
- นาคามุระ – โทโยโตมิ ฮิเดโยชิ (1536–1598)
- อาเคจิ จินไซ – อาเกจิ มิตสึฮิเดะ (1528–1582)
- เลดี้ เก็นจิโก – โอเอโยะ (1573–1626)
- มาร์ติน อัลวีโต้ – โจอาว โรดรีเกส ทัสซูซู (1561/1562–1633/1634)
- โยฮัน วินค์ – ยาน โยสเตน แวน โลเดินสไตน์ (1556?–1623)
- สปิลเบอร์เกิน – ยาโคบ์ คเวกเคอร์แนก (?–1606)
- ฟาเธอร์ เดลล์อากัว – อัลเลซานโดร์ วาลิญยาโน (1539–1606)
- บราเธอร์ ไมเคิล – มิเกล ชิจิว่า (1569?–1633)
- แคปเทน-เจเนอรัล เฟอร์เรีย - โฮราติโอ เนเรตตี้ กัปตันของเรือดำในปี 1600
ความถูกต้องทางประวัติศาสตร์
[แก้]ปฏิสัมพันธ์ระหว่าง แบล็คธอร์น กับ โทรานางะ เขียนขึ้นจากบันทึกจากไดอารี่ของแอดัมส์[2] อย่างไรก็ตาม ขณะที่แอดัมส์รับราชการในกองทัพของโทกูงาวะในยุทธการที่เซกิงาฮาระ แต่เขายังไม่ได้เป็นข้ารับใช้หรือซามูไรจนกระทั่งหลังการสู้รบ
แอดัมส์ไม่เคยพบโฮโซกาวะ กราเชีย ต่างจากแบล็คธอร์นที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับโทดะ มาริโกะ[1]
นวนิยายเรื่องนี้มีข้อผิดพลาดหลายประการเกี่ยวกับภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่น เช่นเดียวกับการแสดงภาพปราสาทญี่ปุ่นผิดพลาดโดยให้เห็นว่ามีประตูชัก ซึ่งในความเป็นจริง ญี่ปุ่นไม่มีประตูแบบนี้ นอกจากนี้ นวนิยายเรื่องนี้ยังแสดงให้เห็นว่าซามูไรในคริสต์ศตวรรษที่ 17 ใช้ดาบปลายปืน ซึ่งในความเป็นจริง ดาบปลายปืนยังไม่ได้ถูกประดิษฐ์ขึ้นในเวลานั้น[3]นอกจากนี้ พิราบสื่อสารได้ถูกใช้อย่างแพร่หลายโดยโทรานางะ ยังไม่เป็นที่แพร่หลายในประเทศญี่ปุ่นในช่วงเวลานั้น[4]
ธีมเรื่อง
[แก้]ธีมหลักของนิยายคือความสงบสุขของญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1600 ประเทศที่ต้องเผชิญกับสงครามกลางและการเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่ตลอดเวลา
สังคมญี่ปุ่นถูกมองว่าเป็นชาติที่โดดเดี่ยวและเกลียดชาวต่างชาติ โดยชาวต่างชาติถูกเรียกว่า "คนป่าเถื่อน" และรังเกียจเพราะความเย่อหยิ่ง นิสัยการกิน ขาดความคล่องในการใช้ภาษาญี่ปุ่น และไม่สามารถเคารพประเพณีทางสังคมของญี่ปุ่นได้ เป็นผลให้เกิดความขัดแย้งภายระหว่างวัฒนธรรม ตะวันออก และ ตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องหน้าที่ เกียรติยศ เพศ ความสะอาด อาหาร ภาระผูกพัน ลำดับชั้น ความภักดี และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง และแก่นแท้ของ ตัวตน
การเลี้ยงนกคาเรียร์ปีกแข็ง และเปรียบเทียบนกต่างๆ ของเขากับข้าราชบริพารของเขาตรงข้ามกับค่านิยมของมนุษย์ของค่านิยมตะวันออก ซึ่งตรงข้ามกับค่านิยมของตะวันตก เป็นต้น อีกประการหนึ่งคือการให้เกียรติ และความโปรดปรานแก่ผู้ที่แสดงความภักดี รวมถึงการแลกเปลี่ยนความลับกับแม่ของเขาทำให้โยชิ โทรานางะได้เปรียบในอำนาจของเขาเพื่อเป็นโชกุน
การดัดแปลง
[แก้]ละครโทรทัศน์ 1976
[แก้]ละครโทรทัศน์ในปี 1976 คลาเวลล์ได้จ้าง โรเบิร์ต โบลต์ และเขาไดัเลือกเอริก เบอร์โควิซีซึ่งเคยเขียนเรื่องลอเรนซ์แห่งอาราเบีย และมีผู้กำกับอย่างริชาร์ด แอทเทนบอโร และฌอน คอนเนอรีแต่ก็ได้ยุติลงในเวลาต่อมาและต่อมาโครงการฮอลลีวูดทำให้โชกุนกลับพบชีวิตใหม่ในฐานะมินิซีรีส์ที่สร้างขึ้นสำหรับโทรทัศน์ เวอร์ชันนี้เขียนบทโดยเอริก เบอร์โควิชี และ เจอร์รี ลอนดอน โดยมีนักแสดงนำอย่าง ริชาร์ด เชมเบอร์เลน, โยโกะ ชิมาดะ, จอห์น รีส์-เดวีส์, โทชิโระ มิฟูเนะ และอากิระ คุโรซาวะ มินิซีรีส์เรื่องนี้มีความยาวทั้งหมด 9 ชั่วโมงเรื่องนี้ถ่ายทำทั้งหมดในญี่ปุ่นซึ่งถ่ายทำในสถานที่จริงอากาศทางช่อง เอ็นบีซี
ละครเวที
[แก้]ไม่นานหลังจากซีรีส์ทางโทรทัศน์เริ่มออกฉายตอนแรกโชกุนได้ขึ้นแสดงบนเวทีบรอดเวย์ซึ่งได้รับการดัดแปลงเป็นละครเพลงชึ่งได้ถูกผลิตโดยเคเนเดีเซนเทราและบรอดเวย์ เนื้อเพลงโดยจอห์น ไดร์เวอร์ และดนตรีโดยพอล ชิฮารา เวอร์ชันแรกเปิดตัวที่ศูนย์วัฒนธรรม เคนนีดี เซ็นเตอร์ ใน กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในปี 1990
ละครโทรทัศน์ 2024
[แก้]จอห์น ลันด์กราฟ ซีอีโอของเอฟเอกซ์ ได้ประกาศการดัดแปลงในงานSummer Press Tour ของสมาคมนักวิจารณ์โทรทัศน์ในปี 2018 รายงานจากต้นฉบับระบุว่าแม้จะมีการประกาศการดัดแปลงซีรีส์นี้ แต่ เอฟเอกซ์ ก็ต้องใช้เวลา มากกว่าเจ็ดเดือน และมีความล่าช้าเพิ่มเติมในการถ่ายทำเกิดขึ้นในปี 2019 หลังจากที่ เอฟเอกซ์ รู้สึกว่าโปรเจ็กต์ที่มีอยู่นั้น ไม่อยู่ในสภาพที่ดีพอ ที่จะเดินหน้าต่อไป แม้ว่า ลันด์กราฟ จะเน้นย้ำว่าเวอร์ชันใหม่จะขยายขอบเขตของซีรีส์โดยรวมของ มุมมองของญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ก่อนเกิดโรคระบาดในปี 2020 ดาราดังอย่างฮิโรยูกิ ซานาดะ ซึ่งได้ถ่ายทำช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อให้แน่ใจว่า เอฟเอกซ์ จะสามารถรักษาคำมั่นสัญญาในขณะที่พวกเขากำลังจะปรับปรุงใหม่ภายใต้การแนะนำของนักเขียนและผู้อำนวยการสร้างจัสติน มาร์คส์ และเรเชล คอนโด ในที่สุดซีรีส์นี้ก็ได้ถ่ายทำในเดือนกันยายน 2021 และปิดท้ายในปลายเดือนมิถุนายน 2022[5]
เกม
[แก้]มีเกมคอมพิวเตอร์ที่สร้างขึ้นจากนวนิยาย โชกุน ทั้งหมด 3 เกม โดยมีเกมแนวผจญภัยแบบข้อความสองเกมและใชักราฟิกน้อยอีกหนึ่งเกม ซึ่งผลิตในระบบปฏิบัติการ เอมิกา, พีซี และอีกหนึ่งเกมชื่อ James Clavell's Shōgun ซึ่งผลิตโดยบริษัท Infocom และบริษัทMastertronic เป็นผู้เผยแพร่และจัดจำหน่าย[6] ถูกผลิตขึ้นในระบบปฏิบัติการ Commodore 64, Amstrad CPC และ IBM PC โดย Lee & Mathias และวางจำหน่ายโดย Virgin Entertainment ในปี 1986[7]
นอกจากนี้ผู้จัดจำหน่ายเกมบนโต๊ะFASA ได้เผยแพร่เกมชื่อ James Clavell's Shogunเมื่อปี ค.ศ. 1983 ซึ่งเป็นเกมที่สามของสี่เกมบนกระดานที่มีชื่อเรื่องจากนวนิยายของเจมส์ คลาเวลล์
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 Nedd, Alexis (2024-02-28). "The Real History Behind FX's 'Shōgun'". IndieWire (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2024-03-11.
- ↑ "Why This Historian Is Looking Forward to the New 'Shogun'". TIME (ภาษาอังกฤษ). 2024-02-27. สืบค้นเมื่อ 2024-03-11.
- ↑ Bakkalian, Nyri (2021-12-17). "Is James Clavell's Shogun Accurate History - Or Pure Fiction?". Unseen Japan (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2024-03-11.
- ↑ "MAKING OF A LITERARY SHOGUN". The New York Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 1981-09-13. ISSN 0362-4331. สืบค้นเมื่อ 2024-03-11.
- ↑ "FX's Shōgun Is Based on an Epic, Must-Read Novel". Men's Health (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2024-02-27.
- ↑ "Milliways: Infocom's Unreleased Sequel to Hitchhiker's Guide to the Galaxy". 17 April 2008. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 January 2016. สืบค้นเมื่อ 6 June 2008.
- ↑ "Milliways: Infocom's Unreleased Sequel to Hitchhiker's Guide to the Galaxy". 17 April 2008. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 January 2016. สืบค้นเมื่อ 6 June 2008.