เลตัน เบนส์
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | เลตัน จอห์น เบนส์[1] | ||
วันเกิด | [1] | 11 ธันวาคม ค.ศ. 1984||
สถานที่เกิด | เคิร์กบี เมอร์ซีย์ไซด์ อังกฤษ | ||
ส่วนสูง | 1.70 m (5 ft 7 in)[2] | ||
ตำแหน่ง | แบ็กซ้าย | ||
สโมสรเยาวชน | |||
เอฟเวอร์ตัน | |||
–2002 | วีแกนแอทเลติก | ||
สโมสรอาชีพ* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) |
2002–2007 | วีแกนแอทเลติก | 145 | (4) |
2007–2020 | เอฟเวอร์ตัน | 348 | (29) |
รวม | 493 | (33) | |
ทีมชาติ | |||
2004–2007 | อังกฤษ อายุไม่เกิน 21 ปี | 16 | (1) |
2010–2015 | อังกฤษ | 30 | (1) |
จัดการทีม | |||
2022– | เอฟเวอร์ตัน U18 | ||
2025– | เอฟเวอร์ตัน (ผู้จัดการร่วม) | ||
เกียรติประวัติ | |||
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น |
เลตัน จอห์น เบนส์ (อังกฤษ: Leighton John Baines; เกิด 11 ธันวาคม ต.ศ. 1984) เป็นอดีตนักฟุตบอลชาวอังกฤษ เคยเล่นในตำแหน่งแบ็กซ้ายให้กับเอฟเวอร์ตันตั้งแต่ ค.ศ. 2007 ถึง 2020
สโมสร
[แก้]วีแกน แอทเลติก
[แก้]เบนส์เล่นเกมอาชีพเกมแรกให้กับ วีแกน แอทเลติก ในปี 2002 และเป็นผู้เล่นชุดคว้าแชมป์ดิวิชั่น 2 ของอังกฤษ และฤดูกาลต่อมา (2002–03) เขาได้เลื่อนสู่ทีมชุดใหญ่ และเป็นสมาชิกทีมชุดแชมป์ดิวิชัน 1 ซึ่งในฤดูกาลนั้นเอง เบนส์ทำประตูแรกให้กับสโมสรได้ จากลูกยิงไกล ในเกมที่แข่งกับ อิปสวิช ทาวน์ และฤดูกาลต่อมา (2004–05) ทีมของเขาได้เล่นใน พรีเมียร์ลีก
เบนส์เซ็นสัญญาใหม่กับ วีแกนในเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2005[3] และขยายสัญญาอีกครั้ง หลังจากทำผลงานในสนามได้น่าประทับใจในฤดูกาลแรกที่เล่นในพรีเมียร์ลีก ขณะที่ วีแกนได้รองแชมป์ ลีก คัพ ปี 2006
เอฟเวอร์ตัน
[แก้]ในเดือนกรกฎาคม ปี 2007 เบนส์ปฏิเสธร่วมทีม ซันเดอร์แลนด์ ที่เสนอซื้อตัวเขาร่วมทีมด้วยราคา 6 ล้านปอนด์ (ประมาณ 299 ล้านบาท)[4] ในเดือนต่อมาเขาเซ็นสัญญากับ เอฟเวอร์ตัน ราคา 5 ล้านปอนด์ โดยจะจ่ายอีก 1 ล้านปอนด์ เมื่อเขาลงเล่นให้กับทีมแล้ว[5][6]
เขาไม่ได้เล่นเต็มที่ในฤดูกาลแรกที่อยู่กับเอฟเวอร์ตัน เพราะมีอาการบาดเจ็บ และฟอร์มการเล่นที่ดีของ ฟิล แจกีเอลกา และ โจเซฟ โยโบ ในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก และ เป็นตัวสำรองในตำแหน่ง แบ็คซ้ายที่ โจเลียน เลสคอตต์ จองไว้อยู่[ต้องการอ้างอิง] เขาเล่นให้กับทีมในฤดูกาลแรกเพียง 29 นัด รวมทุกรายการ ในฤดูกาลที่สอง เบนส์ได้ลงเล่นสม่ำเสมอขึ้น เนื่องจากอาการบาดเจ็บของ โจเซฟ โยโบ ทำให้ โจเลียน เลสคอตต์ลงไปเล่นในตำแหน่ง เซ็นเตอร์แบ็ก โอกาสนี้เองจึงทำให้ เบนส์ได้เล่นในตำแหน่งแบ็คซ้ายของทีม เขาได้รับเลือกเป็นนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสรประจำเดือนถึง สองครั้งติด[ต้องการอ้างอิง] เขาทำประตูแรกให้กับทีมในเกมที่เยือน พอร์ตสมัท ในวันที่ 21 มีนาคม หลังจากที่ 57 เกม (ทุกรายการ) ไม่มีสกอร์ และวันที่ 30 สิงหาคม 2009 เขายิงจุดโทษในนาทีสุดท้ายในเกมที่พบกับ วีแกน ซึ่งเป็นทีมเก่าตัวเองในเกม ที่เอาชนะไป 2–1 และเดือนต่อมาเขาได้เป็นกัปตันทีมเอฟเวอร์ตัน ในเกม ยูฟ่ายูโรปาลีก ที่พบกับ เออีเค เอเธนส์[7] และวันที่ 2 มกราคม 2010 เบนส์ยิงจุดโทษในนาทีที่ 95 ในเกมเอฟเอคัพ ที่พบกับ คาร์ไลล์ ยูไนเต็ด
ในฤดูกาล 2010–11 เบนส์เล่นทุกเกมในซีชั่นนี้[8] ขณะเดียวกัน เขาทำประตูได้ 7 ลูก (ทุกรายการ) และ เขายังได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลของสโมสร และ ลูกยิงแห่งปีของสโมสรอีกด้วย[9] ประตูที่ยิงเชลซีนั้น เป็นลูกไดเร็ก ฟรีคิก ซึ่งลูกนี้ได้รับผลโหวตให้เป็น ลูกยิงแห่งปีของสโมสร เขาทำแอสซิสต์ 11 ในฤดูกาลนั้นซึ่งทำได้เยอะที่สุดเป็นอันดับ 5 ในลีก และเป็นกองหลังที่ทำแอสซิสต์เยอะที่สุดในฤดูกาล 2010-11[ต้องการอ้างอิง]
เบนส์ทำประตูได้ 5 ลูกในฤดูกาล 2011–12 โดย 4 ใน 5 นั้นมาจากจุดโทษทั้งสึ้น เขาลงเล่นเกมลีกครบ 99 ก่อนจบฤดูกาลด้วยอาการบาดเจ็บ[10] ความสามารถของเขาถือว่าน่าประทับใจมาก และได้รับการเสนอเป็นทีมยอดเยื่ยมโดย พีเอฟเอ ของฤดูกาล 2012 และเป็นนักเตะคนแรกในรอบ 22 ปีนับตั้งแต่ เนวิลล์ เซาท์ธอลล์ ในปี 1989–90.[11] ในฤดูกาล 2012–13 เขาส่งบอลให้เพื่อนร่วมทีมถึง 116 ครั้ง[12] มากกว่าผู้เล่นทั้งใน ห้าลีกดังของยุโรป[13] และเมื่อทีมยอดเยื่ยมปี 2013 โดย พีเอฟเอประกาศขึ้น เบนส์ถูกเลือกติดทีมอีกครั้งหนึ่ง[14]และเขาได้รับเลือกเป็นนักเตะยอดเยื่ยมของทีมอีกสมัย[15] เขาเป็นผู้เล่นคนเดียวในสนามที่เล่นให้กับทีมทุกนัดในพรีเมียร์ลีก [12] เขาโดนทาบทามร่วมทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในช่วงตลาดซื้อ-ขายนักเตะ หน้าร้อน ปี 2013แต่โดนปฏิเสธ จากเอฟเวอร์ตัน[16] เบนส์ ทำ 2 ประตู จากฟรีคิก แต่ละด้านจากผู้รักษาประตู ยูสซี ยาสเคไลเนน จากด้านเดียวกันในเกมที่เอาชนะเวสต์แฮม ยูไนเต็ดไป 3–2 ในเดือนกันยายน[17]
ทีมชาติ
[แก้]เขาเล่นให้กับ ทีมชาติอังกฤษ ชุดอายุไม่เกิน 21 ปี ในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ชุดอายุไม่เกิน 21 ปี รอบคัดเลือก ที่ ออสเตรีย ใน เดือน กันยายน 2004 ภายใต้การคุมทีมของ ปีเตอร์ เทย์เลอร์[18]
เขาทำประตูในชุด ยู-21 ในเกมที่พบกับ ทีมชาติเยอรมนี ชุด ยู-21 ในวันที่ 6 ตุลาคม 2006 ในเกมที่ชนะ 1–0 ในเกม เพย์ออฟนัดแรก เขาเล่นครบ 4 นัด ใน ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ชุดอายุไม่เกิน 21 ปี เบนส์เล่นในชุดยู-21 16 นัด ทำได้ 1 ประตู เขาถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ครั้งแรกในเดือน มีนาคม 2009[19] และเขาได้ลงเล่นในเกมชุดใหญ่นัดแรก ในเกมที่พบกับ ทีมชาติอียิปต์ ที่ สนามกีฬาเวมบลีย์ เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2010 เขาเล่นครบ 90 นาทีในเกมที่ชนะ 3–1[20] เขาถูกเลือกติด 30 คนแรกที่จะติดทีมชาติอังกฤษ ไปเล่นศึกฟุตบอลโลก 2010,[21] แต่ไม่ได้ติด 23 คนสุดท้ายไปเล่นที่ แอฟริกาใต้[22] โดย แบ็ดซ้ายของแอสตันวิลลา สตีเฟ่น วอร์น็อคได้ไปเล่นแทน[23] เบนส์เล่นเกมทีมชาติอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 มิถุนายน 2011 โดยลงเล่นแทน แอชลีย์ โคล ที่มาอาการบาดเจ็บ ในเกม ยูโร 2012 รอบคัดเลือก เจอกับ ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ โดยทำ 1 แอสซิสต์ ให้ แอชลีย์ ยัง ยิงประตู
เบนส์มีซื่อติดในทีมของ รอย ฮอดจ์สัน เพื่อทำศึก ยูโร 2012 ในเดือน พฤษภาคม[24] แต่ไม่ได้ลงเล่นเพราะ ฮอดจ์สัน เลือกใช้ แอชลีย์ โคล ใน สี่เกมที่อังกฤษเล่น[25] ใน เดือนกันยายน 2012เขาทำประตูแรกให้กับทีมชาติอังกฤษในเกมที่เอาชนะทีมชาติมอลโดวา ในศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือกซึ่งเขายิงฟรีคิก เป็นลูกปิดท้าย 5–0[26] และในเกมคัดเลือกนัดสุดท้ายที่เจอกับโปแลนด์ เบนส์ทำแอสซิสต์ให้ เวย์น รูนีย์ ทำประตู และได้รับการเสนอซื่อเป็น แมนออฟเดอะเมช ในนัดนั้น
ประตูทีมชาติ
[แก้]ประตู | ว/ด/ป | สถานที่ | คู่แข่ง | สกอร์ | ผลการแข่งขัน | ทัวร์นาเมนต์ |
---|---|---|---|---|---|---|
1. | 7 กันยายน 2012 | ซิมบูร สเตเดี้ยม, คีชีเนา, มอลโดวา | มอลโดวา | 5–0 | 5–0 | ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก |
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 Hugman, Barry J., บ.ก. (2010). The PFA Footballers' Who's Who 2010–11. Edinburgh: Mainstream Publishing. p. 29. ISBN 978-1-84596-601-0.
- ↑ "Player Profile: Leighton Baines". Premier League. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-01-12. สืบค้นเมื่อ 16 May 2016.
- ↑ "Baines commits to Latics". Sky Sports. สืบค้นเมื่อ 23 September 2006.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "Baines rejects Sunderland switch". BBC Sport. 25 July 2007. สืบค้นเมื่อ 25 July 2007.
- ↑ "Baines joins Everton". Sky Sports. สืบค้นเมื่อ 6 August 2007.
- ↑ "Everton capture Baines from Wigan". BBC Sport. 7 August 2007. สืบค้นเมื่อ 7 August 2007.
- ↑ "Everton revived on Europa League stage". 17 September 2009. สืบค้นเมื่อ 6 February 2011.
- ↑ Doyle, Paul (26 May 2011). "Number-crunching makes grim reading for Arsenal's defence". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 2011-05-26.
- ↑ "Baines' Glorious Treble". 20 May 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-04-01. สืบค้นเมื่อ 20 May 2011.
- ↑ Hunter, Andy (19 April 2012). "Everton's Leighton Baines hamstrung but should be fit for Euro 2012". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 23 April 2012.
- ↑ "Arsenal's Robin van Persie is honoured to win PFA player of year award". The Guardian. 23 April 2012. สืบค้นเมื่อ 23 April 2012.
- ↑ 12.0 12.1 "Chelsea defeat epitomises the season for Everton". ESPN (UK). สืบค้นเมื่อ 19 May 2013.
- ↑ "Forget Messi and Ronaldo, it's Premier League defender Baines who creates more chances than anyone in Europe". Daily Mail. สืบค้นเมื่อ 19 May 2013.
- ↑ Riach, James (2013-04-29). "Tottenham's Gareth Bale wins PFA player of year award for second time". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 2013-04-30.
- ↑ "Baines Named Player Of The Season". Everton F.C. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-07. สืบค้นเมื่อ 19 May 2013.
- ↑ "Everton keen to reward Leighton Baines with new deal". The Daily Telegraph. สืบค้นเมื่อ 5 September 2013.
- ↑ "West Ham 2 Everton 3: Lukaku on debut and two stunners from Baines see off Hammers in thriller". Daily Mail. สืบค้นเมื่อ 21 September 2013.
- ↑ "The boy's a bit special". FourFourTwo. December 2004.
- ↑ "Everton star Leighton Baines eager to make the most of Wayne Bridge's England snub". Daily Mail. London. 2 March 2010.
- ↑ McNulty, Phil (3 March 2010). "England 3–1 Egypt". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 2010-03-04.
- ↑ "Capello names surprise Cup squad". BBC News. 11 May 2010.
- ↑ "World Cup 2010: Walcott left out of England squad". BBC Sport. 1 June 2010. สืบค้นเมื่อ 2010-06-01.
- ↑ Bernstein, Joe (16 January 2011). "It's not for kids! Leighton Baines axed from World Cup squad by Fabio Capello outside toy shop". Daily Mail. London.
- ↑ "England Euro 2012 squad: Ruddy, Carroll & Defoe in, Ferdinand out". BBC Sport. 16 May 2012. สืบค้นเมื่อ 19 May 2012.
- ↑ "England Squad". UEFA. สืบค้นเมื่อ 16 August 2012.
- ↑ "Moldova 0–5 England". สืบค้นเมื่อ 7 September 2012.