ข้ามไปเนื้อหา

โอบีวัน เคโนบี

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก เบน เคโนบี)
โอบีวัน เคโนบี
ตัวละครใน สตาร์ วอร์ส
ไฟล์:Ben Kenobi.png
Alec Guinness as Obi-Wan Kenobi [a]
ปรากฏครั้งแรกสตาร์ วอร์ส (ค.ศ. 1977)
สร้างโดยจอร์จ ลูคัส
แสดงโดย
ให้เสียงโดยVarious [b]
ข้อมูลตัวละครในเรื่อง
นามแฝงเบน เคโนบี
เผ่าพันธุ์มนุษย์
เพศชาย
อาชีพ
  • เจไดเริ่มต้น
  • อัศวินเจได
  • นายพลเจได
  • อาจารย์เจได
สังกัด
อาจารย์ไควกอน จินน์
โยดา
ศิษย์

โอบีวัน "เบน" เคโนบี (อังกฤษ: Obi-Wan Kenobi) คือตัวละครตัวหนึ่งในมหากาพย์ภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์ สตาร์ วอร์ส (Star Wars) แสดงโดยยวน แมคเกรเกอร์ ในไตรภาคต้น และเซอร์อเล็ก กินเนสส์ ในไตรภาคเดิม มีบทบาทสำคัญเป็นหนึ่งในตัวละครหลักในภาพยนตร์ทั้งหกภาคของภาพยนตร์ชุดนี้และเนื้อหาในจักรวาลขยายอีกจำนวนมาก มีตำแหน่งเป็นอาจารย์เจได และมีศิษย์เอกคือ "อนาคิน สกายวอล์คเกอร์" แต่เมื่ออนาคินเข้าสู่ด้านมืดกลายเป็นซิธลอร์ด "ดาร์ธ เวเดอร์" โอบีวันก็ได้ฝึกสอนศิษย์เอกคนใหม่คือ "ลุค สกายวอล์คเกอร์" ซึ่งเป็นบุตรชายของอนาคินหรือ ดาร์ธ เวเดอร์

โอบีวัน เคโนบี เกิดในปีที่ 57 ก่อนยุทธการยาวิน เป็นอาจารย์เจไดที่มีชื่อเสียงเป็นตำนาน เขาได้รับการฝึกฝนจากอาจารย์โยดาและไควกอน จินน์ และเป็นผู้ฝึกสอนทั้งอนาคินและลุค สกายวอล์คเกอร์ ในวิถีแห่งพลัง

ในช่วงแรกของการฝึกฝนเป็นเจได โอบีวันมีปัญหาการควบคุมอารมณ์โกรธ และมีอายุเกือบจะเลยเกณฑ์ที่จะมีอาจารย์รับเป็นพาดาวัน เมื่อเขาเข้าร่วมการประลองในหมู่พาดาวันรุ่นใหญ่ ในตอนนั้น อาจารย์โยดาได้แนะนำให้ไควกอน จินน์ ซึ่งเสียลูกศิษย์คนแรกไปเมื่อเก้าปีก่อนมาดูการประลองเพื่อมองหาศิษย์คนใหม่ ไควกอนสังเกตเห็นพรสวรรค์และความสามารถของโอบีวัน แต่กลับปฏิเสธที่จะรับเด็กหนุ่มมาฝึกฝน หลังจากนั้นโอบีวันก็ถูกส่งไปอยู่ในหน่วยเจไดกสิกรรม (ซึ่งใช้พลังฟื้นฟูพืชผลทางการเกษตร) แต่ด้วยโชคชะตานำพา เขาได้กลับมาพบกับไควกอนอีกครั้ง รวมทั้งมีเหตุการณ์ต่าง ๆ ตามมาจนไควกอนยอมรับในตัวของโอบีวันในที่สุด

ด้วยความเยาว์ปัญญา โอบีวันเคยละทิ้งเจไดไปหนึ่งครั้ง แต่ก็กลับมา พร้อมสาบานกับอาจารย์ว่าจะไม่มีวันหันหลังให้เจไดอีก โอบีวันได้รับความไว้วางใจจากอาจารย์มากขึ้น และติดตามไควกอนไปในภารกิจเสี่ยงอันตรายต่าง ๆ ทำให้พาดาวันหนุ่มมีประสบการณ์มากขึ้น และเรียนรู้ที่จะวางตัวให้เหมาะสม กระทั่งภารกิจติดตามอาจารย์เป็นตัวแทนการทูตจากสาธารณรัฐไปเจรจากับสหพันธ์พาณิชย์ที่ดาวนาบูพร้อมกับไควกอน จิน

ในปีที่ 32 ก่อนยุทธการยาวิน เขาได้เป็นเจไดคนแรกในรอบเวลาประมาณหนึ่งพันปีที่สามารถปราบซิธลอร์ดลงได้ หลังจากที่เขาเอาชนะดาร์ธ มอล ในยุทธการธีดครั้งที่ 2 และหลังจากนั้นยังสามารถปราบดาร์ธ เวเดอร์ (โดยไม่ฆ่า) ที่มุสตาฟาร์ โอบีวันยังเป็นหนึ่งในสมาชิกสภาสูงเจไดรุ่นสุดท้ายในช่วงปลายยุคของสาธารณรัฐเก่า เป็นหนึ่งในเจไดจำนวนน้อยที่รอดชีวิตจากการกวาดล้างเจไดครั้งใหญ่ และเป็นผู้เชี่ยวชาญในการต่อสู้ด้วยกระบี่แสงรูปแบบโซเรสุ เขาได้ต่อสู้ให้กับสาธารณรัฐกาแลกติกระหว่างสงครามโคลนในฐานะนายพลใหญ่ ได้รับฉายาว่า"นักเจรจาต่อรอง" และยังเป็นผู้ที่ขัดขวางแผนการของนายพลกรีวัสได้ด้วยตัวเองอีกด้วย

โอบีวันปรากฏตัวใน สตาร์ วอร์ส เป็นครั้งแรกในเอพพิโซด 4 ในบทบาทของผู้เฒ่าผู้รักสันโดษนาม เบน เคโนบี ต่อมาจึงได้รับการเปิดเผยว่า ที่จริงแล้วเขาคือ โอบีวัน เคโนบี อัศวินเจได ผู้เคยร่วมสงครามโคลน และได้ฝึกสอนลุค สกายวอล์กเกอร์ ในวิถีแห่งพลัง ส่วนในไตรภาคต้น แสดงให้เห็นชีวิตของเจไดหนุ่ม โอบีวัน ที่เติบโตขึ้นไปพร้อมกับเนื้อเรื่องที่ดำเนินไป โดยพัฒนาจากการเป็นศิษย์ของไควกอน จินน์ ไปเป็นอาจารย์ให้กับอนาคิน สกายวอล์คเกอร์ในวัยหนุ่ม ผู้ซึ่งเป็นบิดาของ ลุค ศิษย์คนสุดท้ายของเขา โอบีวันเสียชีวิตลงในปีที่ 0 ก่อนยุทธการยาวิน บนดาวมรณะดวงแรก ในการดวลกับ ดาร์ธ เวเดอร์ เขาตั้งใจสละชีวิตตนเอง โดยยอมถูกคมดาบฟันเข้าจัง ๆ แต่ร่างของโอบีวันได้หายไป เหลือแต่ผ้าคลุมกับกระบี่แสงของเขา และจิตของเขาก็ได้กลายเป็น ฟอร์ซโกสต์ ดวงวิญญาณซึ่งเป็นหนึ่งเดียวกับพลัง คอยชี้นำลุคตลอดเวลา

ประวัติ

[แก้]

วัยเด็ก (ปีที่ 57-32 ก่อนยุทธการยาวิน)

[แก้]

โอบีวัน เคโนบี ถือกำเนิดในปีที่ 57 ก่อนยุทธการยาวิน เป็นบุตรคนโตของครอบครัวที่ค่อนข้างมีฐานะ และถูกพามายัง คอรัสซัง เพื่อเริ่มการฝึกเป็นเจไดในช่วงเวลาไม่นานหลังจากนั้น บ้านเกิดของโอบีวันคือ สตูว์จอน ซึ่งเป็นที่ที่โอบีวันยังคงมีความทรงจำลาง ๆ เกี่ยวกับวัยเด็ก ครอบครัว และเคยเล่นกับน้องชาย โอเวน บนพื้นหญ้าสีเขียว มีบันทึกไว้ว่าโอบีวันอาจเคยได้ไปพบกับโอเวน และคนอื่น ๆ ในครอบครัวอีกครั้งในภายหลัง

ก้าวสู่วิถีแห่งพลัง

[แก้]

หลังโอบิวันได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพาดาวันของไควกอน จินน์ เขาก็คอยติดตามอาจารย์ออกปฏิบัติภารกิจไปทุกที่ กระทั่งเกิดเหตุการณ์ในภาค ภัยซ่อนเร้น เขาจึงได้พบกับอนาคินเป็นครั้งแรก เดิมทีโอบีวันใช้สไตล์การต่อสู้ด้วยเพลงดาบ รูปแบบที่ 4 (อาตารุ) เป็นหลัก ซึ่งอิงจากเพลงดาบที่ไควกอน ผู้เป็นอาจารย์ถนัด แต่หลังจากไควกอนถูก ดาร์ธมอล สังหาร โอบีวันจึงเปลี่ยนมาใช้รูปแบบที่ 3 โซเรสุ ซึ่งทำให้เขาสกัดปลายดาบข้างหนึ่งของมอลออกได้ แต่ด้วยประสบการณ์ที่ยังน้อย ทำให้เขาพลาดท่าถูกมอลใช้พลังผลักตกลงไปในปล่องระบายอากาศ ขณะที่เขากำลังสิ้นหวัง ก็เหลือบไปเห็นกระบี่แสงของอาจารย์ที่ตกอยู่ข้าง ๆ โอบีวันจึงใช้พลังดึงดาบกลับมาหาตัวพร้อม ๆ กับกระโดดขึ้นไป มอลที่ไม่ทันระวังตัวจึงถูกเคโนบีฟันเข้าที่กลางลำตัวจนขาดครึ่ง

ตั้งแต่สูญเสียอาจารย์ไป โอบีวันก็ได้เริ่มฝึกฝนกระบวนท่ารูปแบบที่ 3 (โซเรสุ) อย่างจริงจัง ซึ่งเป็นกระบวนท่าชนิด เน้นป้องกันการโจมตี แล้วอาศัยจังหวะโต้กลับขณะศัตรูเปิดช่องว่าง แทนที่จะเน้นการเคลื่อนไหวด้วยความเร็วเหมือน รูปแบบที่ 4 (อาตารุ) กระทั่งต่อมาเขาก็ฝึกสำเร็จจนได้รับการยกย่องจากนิกายเจไดในฐานะ ปรมาจารย์ผู้เป็นเลิศในรูปแบบที่ 3

เพลงดาบรูปแบบที่ 3 ของโอบีวันถือว่า เก่งกาจยากจะมีใครเทียบเท่า เป็นเหตุผลให้เขาสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ที่ร้ายกาจมาได้หลายครั้ง เช่น ดาร์ธมอล นายพลกรีวัส หรือแม้แต่ ดาร์ธเวเดอร์ อดีตลูกศิษย์ของเขาเอง ในศึกบนดาวมุสตาฟา และในภาคแยก โอบีวัน เคโนบี

แม้ว่าโอบีวันจะไม่ได้แข็งแกร่งด้านพลังเหมือนกับเจไดผู้มีจำนวน มิดิคลอเรี่ยน มากเป็นอันดับต้น ๆ อย่างโยดา หรือ อนาคิน แต่ในด้านเพลงดาบของเขา ถือว่าอยู่ในระดับที่เยี่ยมยุทธ์รองจาก เมซ วินดู รวมทั้งการต่อสู้ด้วยกลยุทธ์อันเฉียบแหลมของเขา ร่วมกับการใช้พลังด้วยวิธีพลิกแพลง แทนที่จะใช้กำลังเข้าปะทะ ในยุคของจักรวรรดิกาแลคติค โอบีวัน เคโนบี จึงถือเป็นศัตรูที่น่ากลัวและยากจะต่อกรสำหรับฝ่ายจักรวรรดิ

กระบี่แสง

[แก้]

กระบี่แสงของโอบีวัน

[แก้]

ในชีวิตการเป็นเจได โอบีวันใช้กระบี่แสงด้วยกันทั้งหมด 3 เล่ม เริ่มแรกเมื่อยังเป็นพาดาวัน โอบีวันใช้กระบี่แสงที่มีรูปทรงด้ามคล้ายกับ ไควกอน จินน์ ตามธรรมเนียมที่พาดาวันจะต้องสร้างกระบี่แสงเล่มแรกตามแบบอย่างอาจารย์ของตัวเอง ใบดาบของโอบีวันเป็นสีฟ้า ในขณะที่ไควกอนใช้ใบดาบสีเขียว ในช่วงแรกจนถึงเหตุการณ์ภาค 1 : ภัยซ่อนเร้น โอบีวันยังคงใช้ดาบเล่มนี้ ร่วมกับกระบวนท่ารูปแบบที่ 4 อาตารุ เป็นหลัก เหมือนกับไควกอน กระทั่งในการต่อสู้ที่นาบู กระบี่แสงเล่มนี้หายไปในการต่อสู้กับ ดาร์ธมอล เพราะถูกมอลเตะลงไปในปล่องระบายอากาศ ก่อนที่เคโนบีจะใช้กระบี่แสงของอาจารย์เอาชนะมอลได้ หลังรับอนาคินมาเป็นลูกศิษย์ โอบีวันใช้กระบี่แสงเล่มที่ 2 ที่รูปร่างเหมือนกับเล่มแรกนี้ด้วย ก่อนดาบเล่มที่ 2 นี้จะหายไปหลังถูก เคานท์ดูกู จับตัวบนดาว จีโอโนซิส

ต่อมาในภาคที่ 3 : ซิธชำระแค้น โอบีวันได้สร้างกระบี่แสงขึ้นมาใหม่อีก 1 เล่ม โดยคราวนี้เขาสร้างด้ามที่มีรูปทรงใหม่ในแบบของเขาเอง ต่างจากของเดิมที่สร้างตามแบบอาจารย์ กระบี่แสงเล่มใหม่นี้มีด้ามที่เล็กและสั้นลง ทำให้ใช้งานได้คล่องขึ้น รองรับการใช้รูปแบบที่ 3 ที่เขาเชี่ยวชาญ และยังคงมีใบดาบสีฟ้าดังเดิม

โอบีวันใช้กระบี่แสงเล่มที่ 3 นี้ตลอดมาจนถึงบั้นปลายชีวิตของเขาในฐานะ เบน เคโนบี เขาเดินทางไปยังดาวมรณะพร้อมกับพวกลุค สกายวอล์คเกอร์ และเผชิญหน้ากับเวเดอร์อีกครั้ง หลังจากประดาบกับเวเดอร์ และสละตัวเองกลายเป็นจิตแห่งพลังหายไป เหลือเพียงผ้าคลุม และกระบี่แสง ไม่มีใครรู้ว่ากระบี่แสงของโอบีวันหายไปไหนหลังจากนั้น แต่คาดว่าเวเดอร์น่าจะเก็บมันไป เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าเขาเอาชนะอดีตอาจารย์ได้

สิ่งที่ประหลาดคือ แม้ว่าโอบีวันจะสอนอนาคินว่า ควรเก็บรักษาอาวุธของตนให้ดี แต่ตัวเขากลับทำกระบี่แสงหายบ่อยกว่าอนาคินเสียอย่างนั้น

เบื้องหลัง

[แก้]

ผู้แสดง

[แก้]
Ewan Gordon McGregor

ผู้แสดงเป็นโอบีวันในภาพยนตร์ ภัยซ่อนเร้น, กองทัพโคลนส์จู่โจม, ซิธชำระแค้น คือ Ewan McGregor และในภาพยนตร์ ความหวังใหม่ แสดงโดย Sir Alec Guinness ซึ่งเป็นบทบาทที่ทำให้ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบยอดเยี่ยมฝ่ายชาย (ถือเป็นการเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาการแสดงครั้งเดียวของภาพยนตร์ชุดสตาร์ วอร์ส) นอกจากนี้ Guinness ยังมารับบทโอบีวันซ้ำในฐานะวิญญาณ ฟอร์ซโกสต์ ในภาพยนตร์ จักรวรรดิเอมไพร์โต้กลับ และ การกลับมาของเจได อีกด้วย

Sir Alec Guinness

ในการ์ตูนชุด Clone Wars (2D) ภาคต่อ The Clone Wars (3D) และวิดีโอเกม Battlefront II และ Revenge of the Sith ตัวละครโอบีวันได้รับการให้เสียงโดย James Arnold Taylor นอกจากนี้ยังมี David Davies ให้เสียงในวิดีโอเกม Galactic Battlegrounds และ Rogue Squadron II: Rogue Leader และ Tim Omundson ให้เสียงในเกม Rogue Squadron III: Rebel Strike ส่วนในฉบับละครวิทยุให้เสียงโดย Bernard Behrens

หนังสือ The Making of Star Wars: The Definitive Story Behind the Original Film กล่าวไว้ว่าลูคัสเป็นผู้เสนอความคิดให้ตัวละครเบน เคโนบี ตายบนดาวมรณะ ซึ่ง Guinness เป็นฝ่ายคัดค้านในตอนแรก จนกระทั่งได้รับการอธิบายว่าตัวละครเบน ยังคงมีบทบาทอยู่ต่ออีกเล็กน้อยหลังจากยานมิลเลนเนียม ฟอลคอนหนีออกมาจากดาวมรณะได้ Guinness จึงยอมรับบทบาทนี้

ส่วนเกี่ยวข้อง

[แก้]
  • ในประเทศโปแลนด์มีถนนชื่อ "ulica Obi-Wana Kenobiego" ชื่อแปลได้ว่า "ถนนของโอบีวัน เคโนบี"
  • โอบีวัน เคโนบี เป็นหนึ่งในตัวละครไม่กี่ตัวที่มีบทบาทในภาพยนตร์สตาร์ วอร์ส ทั้งหกภาค

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]



อ้างอิงผิดพลาด: มีป้ายระบุ <ref> สำหรับกลุ่มชื่อ "lower-alpha" แต่ไม่พบป้ายระบุ <references group="lower-alpha"/> ที่สอดคล้องกัน