ข้ามไปเนื้อหา

เจ้าหญิงยูริโกะ พระชายาในเจ้าชายทากาฮิโตะ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เจ้าหญิงยูริโกะ
เจ้าหญิงพระชายา
เจ้าหญิงยูริโกะเมื่อ พ.ศ. 2555
ประสูติ4 มิถุนายน พ.ศ. 2466
โตเกียว จักรวรรดิญี่ปุ่น
สิ้นพระชนม์15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 (101 ปี)
เขตชูโอ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
พระภัสดาเจ้าชายทากาฮิโตะ มิกาซะโนะมิยะ (พ.ศ. 2484–2559)
พระบุตรยาซูโกะ โคโนเอะ
เจ้าชายโทโมฮิโตะแห่งมิกาซะ
เจ้าชายโยชิฮิโตะ คัตสึระโนะมิยะ
มาซาโกะ เซ็ง
เจ้าชายโนริฮิโตะ ทากามาโดะโนะมิยะ
ราชวงศ์ญี่ปุ่น (เสกสมรส)
พระบิดามาซานาริ ทากางิ
พระมารดาคูนิโกะ อิริเอะ

เจ้าหญิงยูริโกะ พระชายาในเจ้าชายทากาฮิโตะ (ญี่ปุ่น: 崇仁親王妃百合子โรมาจิTakahito Shinnōhi Yuriko; 4 มิถุนายน พ.ศ. 2466 – 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567) พระนามเดิม ยูริโกะ ทากางิ (ญี่ปุ่น: 高木百合子โรมาจิTakagi Yuriko) เป็นพระชายาในเจ้าชายทากาฮิโตะ มิกาซะโนะมิยะ พระราชโอรสพระองค์เล็กในจักรพรรดิไทโช กับจักรพรรดินีเทเม พระองค์เป็นพระปิตุลานีในสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และเป็นพระกุลเชษฐ์แห่งราชวงศ์พระองค์สุดท้ายที่ประสูติในรัชสมัยไทโช

พระประวัติ

[แก้]

พระชนม์ชีพช่วงต้น

[แก้]

เจ้าหญิงยูริโกะประสูติในโตเกียว เป็นธิดาของไวเคานต์มาซานาริ ทากางิ (พ.ศ. 2437–2491) กับคูนิโกะ ทากางิ (สกุลเดิม อิริเอะ; พ.ศ. 2444–2531) พระชนกสืบสันดานมาจากตระกูลทากางิ อดีตตระกูลขุนนางที่ดูแลพื้นที่แถบทันอัง (Tan'an) และทรงเป็นลื่อของฮตตะ มาซาโยริ โรจูคนสำคัญในยุคบากูมัตสึ เมื่อนับจากพระบิดา ส่วนพระชนนีสืบเชื้อสายมาแต่ตระกูลยานางิวาระ และเป็นพระญาติชั้นที่สองของจักรพรรดิโชวะ[1]

เจ้าหญิงยูริโกะทรงสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนกากูชูอิงเมื่อปี พ.ศ. 2484

เสกสมรส

[แก้]
เจ้าหญิงยูริโกะในพิธีเสกสมรสกับเจ้าชายทากาฮิโตะ มิกาซะโนะมิยะ

มีการประกาศว่าเจ้าชายทากาฮิโตะ มิกาซะโนะมิยะ จะทรงหมั้นกับยูริโกะ ทากางิ พระญาติชั้นที่สองเมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2484 โดยพระราชพิธีทรงหมั้นจัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2484 และมีพระราชพิธีเสกสมรสเมื่อวันที่ 22 ตุลาคมปีเดียวกัน ทั้งสองมีพระโอรส-ธิดา 5 พระองค์ ได้แก่

  1. เจ้าหญิงยาซูโกะแห่งมิกาซะ (ญี่ปุ่น: 甯子内親王โรมาจิYasuko Naishinno; 26 เมษายน พ.ศ. 2487) ทรงลาออกจากฐานันดรศักดิ์เพื่อเสกสมรสกับทาดาเตรุ โคโนเอะ (ญี่ปุ่น: 近衛 忠煇โรมาจิKonoe Tadateru) มีพระโอรสหนึ่งคน
  2. เจ้าชายโทโมฮิโตะแห่งมิกาซะ (ญี่ปุ่น: 寬仁親王โรมาจิTomohito Shinnō; 5 มกราคม พ.ศ. 2489 – 6 มิถุนายน พ.ศ. 2555) เสกสมรสกับโนบูโกะ อาโซ (ญี่ปุ่น: 麻生信子โรมาจิAsō Nobuko) มีพระธิดาสองพระองค์
  3. เจ้าชายโยชิฮิโตะ คัตสึระโนะมิยะ (ญี่ปุ่น: 桂宮宜仁親王โรมาจิKatsura-no-miya Yoshihito Shinnō; 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2491 – 8 มิถุนายน พ.ศ. 2557)
  4. เจ้าหญิงมาซาโกะแห่งมิกาซะ (ญี่ปุ่น: 容子内親王โรมาจิMasako Naishinnō; 23 ตุลาคม พ.ศ. 2494) ทรงลาออกจากฐานันดรศักดิ์เพื่อเสกสมรสกับโซชิตสึ เซ็งที่ 16 (ญี่ปุ่น: 千宗室โรมาจิSen Sōshitsu) มีพระโอรส-ธิดาสามคน
  5. เจ้าชายโนริฮิโตะ ทากามาโดะโนะมิยะ (ญี่ปุ่น: 高円宮憲仁親王โรมาจิTakamado-no-miya Norihito Shinnō; 29 ธันวาคม พ.ศ. 2497 – 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2545) เสกสมรสกับฮิซาโกะ ทตโตริ (ญี่ปุ่น: 鳥取久子โรมาจิTottori Hisako) มีพระธิดาสามพระองค์

พ.ศ. 2565 พระองค์มีพระบุตร 5 พระองค์ พระนัดดา 9 พระองค์/คน และพระปนัดดาอีก 7 คน[2]

หลังการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายโทโมฮิโตะแห่งมิกาซะผู้เป็นโอรสเป็นต้นมา เจ้าหญิงยูริโกะจึงเสด็จเยี่ยมพระสวามีที่ทรงรักษาพระองค์ในโรงพยาบาลบ่อยครั้งในช่วงบั้นปลายพระชนม์ของเจ้าชายทากาฮิโตะ กระทั่งวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เจ้าหญิงยูริโกะและพระสวามีได้ฉลองครบรอบ 75 ปีแห่งการเสกสมรส ณ ห้องพักภายในโรงพยาบาล ถือเป็นการฉลองร่วมกันครั้งสุดท้ายของทั้งสองพระองค์[3] ไม่กี่วันหลังจากนั้น เจ้าชายทากาฮิโตะก็สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2559 โดยมีเจ้าหญิงยูริโกะคอยประทับอยู่เคียงข้างในวาระสุดท้ายแห่งพระชนม์ชีพ[3] หลังจากนั้นเจ้าหญิงยูริโกะจึงทรงรับเป็นเจ้าภาพในพระราชพิธีปลงพระศพพระภัสดาในฐานะพระชายา[4]

พระพลานามัยช่วงปลายพระชนม์ชีพ

[แก้]

เจ้าหญิงยูริโกะมิได้เข้าร่วมในพระราชพิธีขึ้นครองสิริราชสมบัติจักรพรรดินารูฮิโตะเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2562[5] กันยายน พ.ศ. 2563 เจ้าหญิงยูริโกะขณะพระชันษา 97 ปี เข้ารับการถวายการรักษาเพราะประชวรด้วยพระหทัยพิการและพระปับผาสะอักเสบ[6] มีนาคม พ.ศ. 2564 เจ้าหญิงยูริโกะเข้ารับการถวายการรักษาการประชวรด้วยพระอาการพระหทัยเต้นผิดจังหวะ ณ โรงพยาบาลนานาชาติเซนต์ลู้ก แต่พระอาการประชวรไม่ร้ายแรงนัก สามวันหลังจากนั้นเจ้าหญิงยูริโกะจึงเสด็จกลับไปประทับที่พระตำหนักตามเดิม[7][8]

กรกฎาคม พ.ศ. 2565 มีรายงานว่าเจ้าหญิงยูริโกะ ขณะพระชันษาได้ 99 ปี มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก ทรงเข้ารับถวายการรักษาในโรงพยาบาลเพราะมีพระปรอทมากกว่า 37 องศาเซลเซียส และมีพระกรรสะเล็กน้อย ส่วนสถานะการรับถวายวัคซีนไม่ได้รับการเผยแพร่ ด้วยเหตุผลด้านความเป็นส่วนพระองค์[9]

ช่วงต้น พ.ศ. 2567 เจ้าหญิงยูริโกะเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนานาชาติเซนต์ลู้กเนื่องจากมีพระอาการใกล้เคียงกับกล้ามเนื้อหัวใจตาย[10] เบื้องต้นพระองค์ไม่สามารถเสวยพระกระยาหารได้ หลังคณะแพทย์ถวายการรักษาอย่างใกล้ชิด เจ้าหญิงยูริโกะกลับมาเสวยพระสุธารสเปล่าได้ และเสด็จออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2567[11] ต่อมาวันที่ 18 มีนาคม 2567 เจ้าหญิงยูริโกะถูกเชิญเสด็จกลับไปโรงพยาบาลนานาชาติเซนต์ลู้กอีกครั้ง หลังมีพระอาการพระหทัยพิการและหลอดพระโลหิตในพระสมองตีบ[12] กระทั่งวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2567 พระอาการประชวรของพระองค์ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และมีพระอาการกลับไปอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับตอนที่พระองค์เข้ารับถวายการรักษาที่โรงพยาบาลในครั้งแรก[13] เจ้าหญิงยูริโกะมีพระชันษาครบ 101 ปี เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2567 การนี้เจ้าหญิงฮิซาโกะ พระชายาในเจ้าชายโนริฮิโตะ พร้อมด้วยเจ้าหญิงอากิโกะแห่งมิกาซะ เจ้าหญิงโยโกะแห่งมิกาซะ และเจ้าหญิงสึงูโกะแห่งทากามาโดะ เสด็จพระดำเนินไปทรงเยี่ยมที่โรงพยาบาลนานาชาติเซนต์ลู้ก โดยเจ้าหญิงอากิโกะทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายดอกไม้แก่เจ้าหญิงยูริโกะ[14] กระทั่งวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เจ้าหญิงยูริโกะเข้ารับถวายการรักษาที่แผนกผู้ป่วยหนักของโรงพยาบาล หลังได้รับการวินิจฉัยว่าทรงพระประชวรพระปับผาสะอักเสบ[15][16] และย้ายไปรักษาพระองค์ที่แผนกผู้ป่วยทั่วไปเมื่อวันที่ 9 กันยายนปีเดียวกัน หลังพระอาการประชวรดีขึ้น[17][18]

สิ้นพระชนม์

[แก้]

เจ้าหญิงยูริโกะทรงเข้ารับถวายการตรวจพระวรกายเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 พบว่าประสิทธิภาพการทำงานของระบบอวัยวะภายใน เช่น พระหทัยและพระวักกะลดลงโดยลำดับ[19] หลังทรงรับถวายการบำบัดโดยคณะแพทย์ด้วยการประทับบนรถเข็นพระที่นั่งตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นมา เมื่อพระอาการประชวรของเจ้าหญิงยูริโกะเพียบหนัก ภายในวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เจ้าหญิงอากิโกะแห่งมิกาซะทรงร่นระยะเวลาพระกรณียกิจที่สหราชอาณาจักร แล้วทรงเสด็จนิวัตประเทศญี่ปุ่นเพื่อทรงเยี่ยมพระอัยยิกาเป็นการส่วนพระองค์ โดยมีเจ้าหญิงโยโกะ เจ้าหญิงฮิซาโกะ และยาซูโกะ โคโนเอะ โดยเสด็จด้วย[20][21][22] ส่วนเจ้าหญิงโนบูโกะ พระสุนิสาพระองค์ใหญ่ ทรงยกเลิกหมายพระกรณียกิจที่จะเสด็จเยือนเมืองเกียวโตภายในวันที่ 11–12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เพื่อทรงเยี่ยมเจ้าหญิงยูริโกะ[23]

วันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 สำนักพระราชวังญี่ปุ่น ประกาศว่าพระพลานามัยของเจ้าหญิงยูริโกะทรุดลงอย่างรวดเร็ว ในวันนั้นเจ้าหญิงอากิโกะ เจ้าหญิงฮิซาโกะ และเจ้าหญิงสึงูโกะ ทรงแวะเวียนมาเยี่ยมต่างช่วงเวลากัน[24][25] ส่วนสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ ต่างทรงปริวิตกต่อพระอาการประชวรของเจ้าหญิงยูริโกะที่ทรุดหนักลงเรื่อย ๆ[26] และภายในวันเดียวกันนั้นเอง สำนักพระราชวังญี่ปุ่นออกแถลงการณ์ว่าเจ้าหญิงยูริโกะสิ้นพระสติไม่รู้สึกพระองค์ และมีเจ้านายเสด็จไปทรงเยี่ยมอีกครั้งหนึ่ง[27] ต่อมาวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 ยาซูฮิโกะ นิชิมูระ เจ้าหน้าที่เลขานุการสำนักพระราชวังญี่ปุ่น รายงานว่า เจ้าหญิงยูริโกะยังไม่รู้สึกพระองค์ และช่วงบ่ายของวันเดียวกัน เจ้าหญิงอากิโกะ เจ้าหญิงฮิซาโกะ และเจ้าหญิงสึงูโกะเสด็จไปยังโรงพยาบาลเพื่อทรงเยี่ยมอีกครั้ง[28]

เจ้าหญิงยูริโกะสิ้นพระชนม์เมื่อเวลา 06.32 น. ของวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 ตามเวลาญี่ปุ่น ณ โรงพยาบาลนานาชาติเซนต์ลู้ก กรุงโตเกียว สิริพระชันษา 101 ปี โดยมีเจ้าหญิงอากิโกะ เจ้าหญิงโยโกะ เจ้าหญิงสึงูโกะ และเจ้าหญิงฮิซาโกะประทับอยู่เคียงข้างในวาระสุดท้ายแห่งพระชนม์ชีพ สำนักพระราชวังญี่ปุ่นประกาศแถลงการณ์เรื่องการสิ้นพระชนม์เผยแพร่ลงบนอินสตาแกรม[29] ภายในวันเดียวกันนั้น สมเด็จพระจักรพรรดิ สมเด็จพระจักรพรรดินี และเจ้าหญิงไอโกะ โทชิโนะมิยะ เสด็จไปพระตำหนักมิกาซะเพื่อถวายความเคารพพระศพ[30][31][32][33][34] มีการเคลื่อนพระศพเจ้าหญิงยูริโกะเข้ากรุงโตเกียว[30][35][36] พระบรมวงศานุวงศ์ทรงไว้ทุกข์ถวายเจ้าหญิงยูริโกะตามโบราณราชประเพณี โดยราชตระกูลของสมเด็จพระจักรพรรดิ ราชตระกูลของสมเด็จพระจักรพรรดิพระเจ้าหลวง ราชสกุลอากิชิโนะ และราชสกุลฮิตาจิ ไว้ทุกข์ถวายเป็นเวลา 5 วัน ขณะที่สายราชสกุลมิกาซะและราชสกุลทากามาโดะ ซึ่งเป็นพระทายาทสายตรงจะทรงไว้ทุกข์ถวาย 30 วัน[37] สมเด็จพระจักรพรรดิทรงยกเลิกหมายพระราชกรณียกิจออกไปก่อน[38] ส่วนสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะมีพระราชหัตถเลขาไว้อาลัยการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงยูริโกะ[39]

สำนักพระราชวังญี่ปุ่นแถลงสาเหตุแห่งการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงยูริโกะว่าเป็นด้วย "พระโรคชรา"[40] ขณะที่สำนักข่าวในประเทศญี่ปุ่นระบุว่าพระปับผาสะอักเสบเป็นสาเหตุแห่งการสิ้นพระชนม์[41]

พระราชพิธีปลงพระศพ

[แก้]

สำนักพระราชวังญี่ปุ่นได้ประกาศหมายกำหนดการพระราชพิธีปลงพระศพเจ้าหญิงยูริโกะไว้ในวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 และประกาศว่า เจ้าหญิงอากิโกะแห่งมิกาซะ พระนัดดา ทรงเป็นเจ้าภาพพระราชพิธีปลงพระศพ[42] นอกจากนี้อินสตาแกรมของสำนักพระราชวังญี่ปุ่น ได้เชิญชวนให้พสกนิกรชาวญี่ปุ่นลงนามถวายอาลัย ณ พระตำหนักมิกาซะ[43] ต่อมาในวันที่ 16 พฤศจิกายนปีเดียวกัน ได้มีพระราชพิธีไว้อาลัยเป็นการภายใน ณ เขตพระราชฐานมิกาซะ[44] โดยมีทาดาเตรุ โคโนเอะ และโซชิตสึ เซ็งที่ 16 ทั้งสองเป็นพระชามาดาของเจ้าหญิงยูริโกะ พร้อมกับเจ้าพนักงานประจำพระตำหนักมิกาซะจำนวนหนึ่ง คอยเฝ้ารับเสด็จพระบรมวงศานุวงศ์ญี่ปุ่นเมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงพระราชพิธีจนกระทั่งเสด็จพระราชดำเนินกลับ[45] ทั้งนี้พระราชพิธีไว้อาลัยจะถูกจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24–25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567[46]

พระกรณียกิจ

[แก้]

เจ้าหญิงยูริโกะเป็นประธานกิตติมศักดิ์ขององค์กรการกุศลต่าง ๆ โดยเฉพาะองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่น และทรงมีบทบาทยิ่งในสภากาชาดญี่ปุ่น[47]

ในปี พ.ศ. 2491 เจ้าหญิงยูริโกะเป็นประธานมูลนิธิอิมพีเรียลกิฟต์โบชิไอกุไก (Imperial Gift Foundation Boshi-Aiiku-kai) และทรงลาออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2553 นอกจากนี้ยังทรงเข้าร่วมกับองค์กรการกุศลต่าง ๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของแม่และเด็ก[47]

พระเกียรติยศ

[แก้]
ธรรมเนียมพระยศของ
เจ้าหญิงยูริโกะ พระชายาฯ
ตราประจำพระอิสริยยศ
ธงประจำพระอิสริยยศ
การทูลชินโนฮิเด็งกะ
การแทนตนโบกุ (บุรุษ) / วาตาชิ (สตรี)
การขานรับเด็งกะ (殿下)

พระอิสริยยศ

[แก้]
  • 4 มิถุนายน พ.ศ. 2466 – 22 ตุลาคม พ.ศ. 2484 : ยูริโกะ ทากางิ
  • 22 ตุลาคม พ.ศ. 2484 – 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 : เจ้าหญิงยูริโกะ พระชายาในเจ้าชายทากาฮิโตะ

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

[แก้]

ตำแหน่งกิตติมศักดิ์

[แก้]
  • สมาชิกสำรองของสภาราชวงศ์[52]
  • รองประธานกิตติมศักดิ์สภากาชาดญี่ปุ่น[52]

พระบุตร

[แก้]
พระนาม ประสูติ สิ้นพระชนม์ เสกสมรส พระนัดดา
ยาซูโกะ โคโนเอะ 26 เมษายน พ.ศ. 2487 16 ธันวาคม พ.ศ. 2509 ทาดาเตรุ โคโนเอะ ทาดาฮิโระ โคโนเอะ
เจ้าชายโทโมฮิโตะแห่งมิกาซะ 5 มกราคม พ.ศ. 2489 6 มิถุนายน พ.ศ. 2555 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2523 โนบูโกะ อาโซ เจ้าหญิงอากิโกะแห่งมิกาซะ
เจ้าหญิงโยโกะแห่งมิกาซะ
เจ้าชายโยชิฮิโตะ คัตสึระโนะมิยะ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2491 8 มิถุนายน พ.ศ. 2557
มาซาโกะ เซ็ง 23 ตุลาคม พ.ศ. 2494 14 ตุลาคม พ.ศ. 2526 โซชิตสึ เซ็งที่ 16 อากิฟูมิ คิกูจิ
มากิโกะ ซากาตะ
ทากาฟูมิ เซ็ง
เจ้าชายโนริฮิโตะ ทากามาโดะโนะมิยะ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2497 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2545 6 ธันวาคม พ.ศ. 2527 ฮิซาโกะ ทตโตริ เจ้าหญิงสึงูโกะแห่งทากามาโดะ
โนริโกะ เซ็งเงะ
อายาโกะ โมริยะ

พงศาวลี

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1.0 1.1 "高木氏 (Takagi genealogy)". Reichsarchiv. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-24. สืบค้นเมื่อ 28 May 2017. (ญี่ปุ่น)
  2. "Princess Yuriko, oldest in Japan's Imperial Family, turns 99". Arab News. 4 June 2022. สืบค้นเมื่อ 12 June 2022.
  3. 3.0 3.1 "UPDATE: Prince Mikasa, uncle of Akihito, dies at 100 years old". Asahi Shimbun. 27 October 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-03-29. สืบค้นเมื่อ 27 October 2016.
  4. "Prince Mikasa laid to rest in Imperial rite". The Japan Times. 4 November 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-11-30. สืบค้นเมื่อ 5 January 2017.
  5. https://english.kyodonews.net/news/2019/10/31bf12d1744f-japan-emperor-to-announce-enthronement-in-ancient-style-ceremony.html
  6. https://english.kyodonews.net/news/2020/10/933cf64a2687-update1-princess-yuriko-great-aunt-of-emperor-released-from-hospital.html
  7. "Japan emperor's great-aunt Princess Yuriko hospitalized for heart trouble". Kyodo News. 1 March 2021. สืบค้นเมื่อ 17 March 2021.
  8. "Emperor's great-aunt Princess Yuriko released from hospital". Kyodo News. 4 March 2021. สืบค้นเมื่อ 10 June 2021.
  9. 入院中の三笠宮妃百合子さま、コロナ感染…皇室の感染者は2人目
  10. "Princess Yuriko hospitalized for possible cerebral infarction". The Japan Times (ภาษาอังกฤษ). 2024-03-04. สืบค้นเมื่อ 2024-03-04.
  11. 日本テレビ. "入院中の三笠宮妃百合子さま、一般病室に 順調に回復へ 宮内庁|日テレNEWS NNN". 日テレNEWS NNN (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2024-03-12.
  12. 日本テレビ. "三笠宮妃百合子さま、心不全と新たな脳梗塞の症状 皇室最高齢の100歳|日テレNEWS NNN". 日テレNEWS NNN (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2024-03-18.
  13. 日本テレビ. "三笠宮妃百合子さま、心不全と脳梗塞の症状かなり改善 宮内庁|日テレNEWS NNN". 日テレNEWS NNN (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2024-03-26.
  14. 日本放送協会 (2024-06-04). "皇室で最高齢 三笠宮妃の百合子さま 101歳に 皇族方が病院訪問 | NHK". NHKニュース. สืบค้นเมื่อ 2024-06-04.
  15. "入院中の百合子さま、軽い肺炎との診断受けられる ご症状は回復 101歳、皇室で最高齢". Sankei Shimbun (ภาษาญี่ปุ่น). 26 August 2024. สืบค้นเมื่อ 9 November 2024.
  16. "Japan's 101-yr-old Princess in intensive care for mild pneumonia". Mainichi Shimbun (ภาษาอังกฤษ). 26 August 2024. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-09-27. สืบค้นเมื่อ 9 November 2024.
  17. "百合子さま、一般病室に 宮内庁". Jiji.com (ภาษาญี่ปุ่น). 9 September 2024. สืบค้นเมื่อ 9 November 2024.
  18. "Japan's 101-yr-old princess leaves ICU after pneumonia treatment". Mainichi Shimbun (ภาษาอังกฤษ). 9 September 2024. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-09-26. สืบค้นเมื่อ 9 September 2024.
  19. "皇族最高齢101歳の三笠宮妃百合子さまの容体が悪化…孫の彬子さまはイギリスから急きょ帰国へ|FNNプラ". Fnn.jp. 8 November 2024. สืบค้นเมื่อ 9 November 2024.
  20. "百合子さま、容体変わらず 彬子さま、急きょ帰国し病院に:時事ドットコム". Jiji.com (ภาษาญี่ปุ่น). 9 November 2024. สืบค้นเมื่อ 9 November 2024.
  21. "彬子さま、イギリスから緊急帰国 三笠宮妃百合子さまをお見舞い 高円宮妃久子さまも". News.ntv (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 9 November 2024.
  22. "三笠宮妃百合子さま容体悪化、長女ら親族が病院に 久子さまも:朝日新聞デジタル". Asahi Shimbun (ภาษาญี่ปุ่น). 9 November 2024. สืบค้นเมื่อ 9 November 2024.
  23. "寛仁親王妃信子さま、京都訪問を取りやめ…三笠宮妃百合子さまは容体に大きな変化なし". Yomiuri Shimbun (ภาษาญี่ปุ่น). 11 November 2024. สืบค้นเมื่อ 11 November 2024.
  24. "入院中の三笠宮妃百合子さまへお見舞い続々 声がけに目を開ける". Mainichi Shimbun (ภาษาญี่ปุ่น). 11 November 2024. สืบค้นเมื่อ 11 November 2024.
  25. "百合子さま、容体に変化なし 彬子さまら親族が見舞う | 共同通信". Nordot.app (ภาษาญี่ปุ่น). 10 November 2024. สืบค้นเมื่อ 11 November 2024.
  26. "天皇皇后両陛下 大分訪問 豊かな海づくり大会出席へ". News.ntv (ภาษาญี่ปุ่น). 11 November 2024. สืบค้นเมื่อ 11 November 2024.
  27. "「意識は低下した状態」と宮内庁 三笠宮妃百合子さま容体". Nordot.app (ภาษาญี่ปุ่น). 11 November 2024. สืบค้นเมื่อ 11 November 2024.
  28. "三笠宮妃百合子さま、心臓や腎臓の機能の低下続く 「主治医が注意深く見守っている」と宮内庁". Newsdig.tbs (ภาษาญี่ปุ่น). 14 November 2024. สืบค้นเมื่อ 14 November 2024.
  29. "Instagram". www.instagram.com. สืบค้นเมื่อ 15 November 2024.
  30. 30.0 30.1 "彬子さま、うつむき聖路加国際病院を後にされる 百合子さま薨去". Sankei Shimbun (ภาษาญี่ปุ่น). 15 November 2024. สืบค้นเมื่อ 15 November 2024.
  31. "三笠宮妃百合子さま逝去 天皇、皇后両陛下が弔問". Mainichi Shimbun (ภาษาญี่ปุ่น). 15 November 2024. สืบค้นเมื่อ 15 November 2024.
  32. "両陛下、赤坂御用地ご訪問 百合子さま薨去". Sankei Shimbun (ภาษาญี่ปุ่น). 15 November 2024. สืบค้นเมื่อ 15 November 2024.
  33. "【速報】愛子さまが赤坂御用地を出られる 三笠宮妃百合子さま逝去で弔問 宮内庁". News.ntv (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 15 November 2024.
  34. "上皇ご夫妻、愛子さまはじめ皇族方も三笠宮邸ご弔問 百合子さま薨去". Sankei Shimbun (ภาษาญี่ปุ่น). 15 November 2024. สืบค้นเมื่อ 15 November 2024.
  35. "三笠宮妃百合子さま逝去 101歳、皇室最高齢:時事ドットコム". Jiji.com (ภาษาญี่ปุ่น). 15 November 2024. สืบค้นเมื่อ 15 November 2024.
  36. "百合子さまを乗せた車両:時事ドットコム". Jiji.com (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 15 November 2024.
  37. "百合子さま逝去で天皇家など5日の服喪 19日の愛子さま佳子さまの鴨場接待取りやめ". Newsdig.tbs (ภาษาญี่ปุ่น). 15 November 2024. สืบค้นเมื่อ 15 November 2024.
  38. "【速報】天皇皇后両陛下が百合子さまを弔問 陛下は大おばの逝去で公務取り止め|FNNプライムオンライン". Fnn.jp. 15 November 2024. สืบค้นเมื่อ 15 November 2024.
  39. "三笠宮妃百合子さまご逝去 上皇ご夫妻のお気持ち…側近が発表". news.ntv.co.jp. November 15, 2024.
  40. "三笠宮妃百合子さま 死因は老衰~宮内庁が会見". News.ntv (ภาษาญี่ปุ่น). 15 November 2024. สืบค้นเมื่อ 15 November 2024.
  41. "Princess Yuriko, Oldest Member of Japan's Imperial Family, Dies at 101". The New York Times. The Associated Press. 15 November 2024.
  42. 日本テレビ. "三笠宮妃百合子さまご逝去 26日に「斂葬の儀」喪主は孫の彬子さま 宮内庁|日テレNEWS NNN". 日テレNEWS NNN (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2024-11-15.
  43. "Instagram". www.instagram.com. สืบค้นเมื่อ 2024-11-15.
  44. "Instagram". www.instagram.com. สืบค้นเมื่อ 2024-11-15.
  45. "三笠宮妃百合子さま「御舟入」 皇族方が拝礼 両陛下も弔問:朝日新聞デジタル". 朝日新聞デジタル (ภาษาญี่ปุ่น). 2024-11-16. สืบค้นเมื่อ 2024-11-16.
  46. "三笠宮妃百合子さま逝去から一夜 「御舟入」や「拝訣」で皇族方が百合子さまに別れを告げる | TBS NEWS DIG (1ページ)". TBS NEWS DIG (ภาษาญี่ปุ่น). 2024-11-16. สืบค้นเมื่อ 2024-11-16.
  47. 47.0 47.1 "Activities of Their Imperial Highnesses Prince and Princess Mikasa and their family". The Imperial Household Agency. สืบค้นเมื่อ 18 October 2012.
  48. 48.0 48.1 Red Cross Medals
  49. Persepolis
  50. Badraie เก็บถาวร 5 มีนาคม 2016 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
  51. Nationaal Archief, inventory 2.02.32, dossier 529/530
  52. 52.0 52.1 "Her Imperial Highnesses Princess Mikasa and her family". The Imperial Household Agency. สืบค้นเมื่อ 3 May 2023.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]