พระอรรถเปศลสรวดี (เจริญ ทรัพยสาร)
พระอรรถเปศลสรวดี (เจริญ ทรัพยสาร) | |
---|---|
เจ้าเมืองมหาสารคาม | |
ก่อนหน้า | พระยาสารคามคณาพิบาล (อนงค์ พยัคฆันต์) |
ถัดไป | หลวงอังคณานุรักษ์ (สมถวิล เทพาคำ) |
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ | |
ดำรงตำแหน่ง พ.ศ. 2483 – พ.ศ. 2490 | |
ก่อนหน้า | พระเสน่หามนตรี (ชื่น สุคนธหงษ์) |
ถัดไป | ขุนบริบาลบรรพตเขต |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | พ.ศ. 2422 กรุงเทพมหานคร |
เสียชีวิต | พ.ศ. 2510 กาฬสินธุ์ |
ศาสนา | ศาสนาพุทธ |
พระอรรถเปศลสรวดี (เจริญ ทรัพยสาร) ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ระหว่างพุทธศักราช 2474-2476 และดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ศ. 2483 - 2490 [1]
พระอรรถเปศลสรวดี (เจริญ ทรัพยสาร) เกิดเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2422 เป็นชาวกรุงเทพมหานคร ได้ดำรงตำแหน่งข้าหลวงประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ คนที่ 17 เมื่อจังหวัดกาฬสินธุ์ถูกยุบเป็นอำเภอไปขึ้นกับจังหวัดมหาสารคาม ต่อมาได้ย้ายไปดำรงตำแหน่งข้าหลวงประจำจังหวัดมหาสารคาม ในเวลาต่อมาได้ลาออกจากราชการ กลับมาใช้ชีวิตอยู่จังหวัดกาฬสินธุ์อีกครั้ง จนถึงแก่อนิจกรรมเมื่อปี พ.ศ. 2510 รวมอายุได้ 79 ปี
ผลงาน
[แก้]พระอรรถเปศลสรวดี (เจริญ ทรัพย์สาร) ในขณะที่ดำรงตำแหน่งข้าหลวงประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ได้พัฒนาและสร้างคุณประโยชน์นำความเจริญมาสู่จังหวัดกาฬสินธุ์มากมายพอประมวลได้ดังนี้
เป็นผู้สร้างสุขศาลาเป็นครั้งแรก คือ สุขศาลากาฬสินธุ์เป็นอาคารไม้ใต้ถุนสูงและได้ติดต่อขอแพทย์จากทางราชการมาประจำรักษาคนป่วย หมอคนแรกของสุขศาลา คือ หมอบำ
สร้างโรงเรียนประจำจังหวัด คือ โรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ และโรงเรียนสตรีประจำจังหวัด (โรงเรียนอนุกูลนารี)
ตัดถนนหลายสาย เช่น ถนนอรรถเปศลในปัจจุบัน
สร้างสะพานเลิงบักดอก เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในภาคอีสาน (ในขณะนั้นยาวประมาณ 1 กิโลเมตร อยู่ระหว่างวิบูลย์ฟาร์ม ยาวตลอดจนเกือบถึงสะพานข้ามลำน้ำพานในปัจจุบัน การปกครองบ้านเมืองในสมัยพระอรรถเปศลสรวดีขณะดำรงตำแหน่งข้าหลวงประจำจังหวัดมีความสงบเรียบร้อยดีมาก เนื่องจากพระอรรถเปศลสรวดีมีกุศโลบายในการปกครอง โดยใช้หลักเมตตาธรรม และขอร้องตักเตือนในเบื้องต้น ถ้าไม่เชื่อฟังก็ใช้วิธีเด็ดขาดเป็นวิธีสุดท้าย จึงทำให้พวกโจรผู้ร้ายและขโมยแทบไม่มี
การสร้างถาวรวัตถุ เช่น สุขศาลา โรงเรียน สะพาน ฯลฯ โดยอาศัยความร่วมมือจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวเมืองกาฬสินธุ์ให้ความช่วยเหลือ สนับสนุนเกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ์อย่างเพียงพอ จึงทำให้อาศัยงบประมาณจากทางราชการไม่มากนัก
ผลงานที่นับว่าเด่นที่สุดในสมัยพระอรรถเปศล คือ การการป้องกันและรักษาผู้ป่วยไข้ ทรพิษและอหิวาตกโรค โดยการติดต่อที่ขอวัคซีนจากทางราชการ ซึ่งในสมัยนั้นชาวกาฬสินธุ์ป่วยเป็นโรคไข้ทรพิษและอหิวาตกโรค ซึ่งเป็นโรคที่ติดต่อร้ายแรงมาก ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะเสียชีวิตจากโรคนี้ แต่ด้วยความสารถของพระอรรถเปศล ทำให้ป้องกันและรักษาโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นผลทำให้ชาวกาฬสินธุ์ล้มป่วยและเสียชีวิต จากไข้ทรพิษและอหิวาตกโรคน้อยลงกว่าเดิมมาก
ด้วยคุณงามความดีที่พระอรรถเปศลได้สร้างไว้แก่ชาวเมืองกาฬสินธุ์ทำให้ชาวเมืองกาฬสินธุ์ไว้วางใจเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองกาฬสินธุ์ 2 สมัย โดยที่ท่านไม่ขอรับค่าตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
[แก้]- พ.ศ. 2474 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 4 จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก (จ.ช.)[2]
- พ.ศ. 2472 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 4 จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย (จ.ม.)[3]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ ราชกิจจานุเบกษา,แจ้งความกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ปลด ตั้ง ย้าย ผู้ว่าราชการจังหวัด วันที่ ๒๑ เมษายน ๒๔๗๒ เล่ม ๔๖ หน้า ๒๓๒
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ส่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไปพระราชทาน เก็บถาวร 2022-06-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๔๘ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๓๔๘๑, ๖ ธันวาคม ๒๔๗๔
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ส่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไปพระราชทาน[ลิงก์เสีย], เล่ม ๔๖ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๓๖๐๔, ๑๒ มกราคม ๒๔๗๒
ก่อนหน้า | พระอรรถเปศลสรวดี (เจริญ ทรัพยสาร) | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระยาสารคามคณาพิบาล (อนงค์ พยัคฆันต์) | เจ้าเมืองมหาสารคาม, ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม (2474-2476) |
ขุนบริบาลบรรพตเขต | ||
พระเสน่หามนตรี (ชื่น สุคนธหงษ์) | เจ้าเมืองกาฬสินธุ์, ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ (2483 - 2490) |
หลวงอังคณานุรักษ์ (สมถวิล เทพาคำ) |
อ้างอิง
[แก้]http://www.mahasarakham.go.th/index.htm เก็บถาวร 2012-03-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
http://kanchanapisek.or.th/oncc-cgi/text.cgi?no=159609 เก็บถาวร 2005-02-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน