บันทึกน้ำตาหนึ่งลิตร
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
บันทึกน้ำตาหนึ่งลิตร | |
---|---|
1リットルの涙 | |
แสดงนำ | เอริกะ ซะวะจิริ ฮิโระโกะ ยะกุชิมะรุ เรียว นิชิกิโดะ ทะกะโนะริ จินไน |
ดนตรีแก่นเรื่องปิด | โอนลีฮิวมัน (Only Human) |
ประเทศแหล่งกำเนิด | ญี่ปุ่น |
ภาษาต้นฉบับ | ญี่ปุ่น |
จำนวนตอน | 11 |
การผลิต | |
ผู้อำนวยการสร้าง | ซะโตะโกะ คะชิกะวะ (Satoko Kashikawa) |
ความยาวตอน | หนึ่งชั่วโมงโดยไม่พักโฆษณา |
ออกอากาศ | |
เครือข่าย | ทีวีไทย |
ออกอากาศ | จันทร์,อังคาร
20:30 – 21:30 น. |
บันทึกน้ำตาหนึ่งลิตร (ญี่ปุ่น: 1リットルの涙; โรมะจิ: Ichi Rittoru no Namida, อิชิ ริตโตะรุ โนะ นะมิดะ; แปล: น้ำตาหนึ่งลิตร) เป็นละครโทรทัศน์สัญชาติญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากบันทึกประจำวันชื่อ อิชิริตโตะรุโนะนะมิดะ ของอายะ คิโต (ญี่ปุ่น: 木藤亜也; โรมะจิ: Aya Kitō) (19 กรกฎาคม 2505—23 เมษายน 2531) ผู้ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อเสียการประสานงานจากสมองน้อยและไขสันหลังและต้องเผชิญชีวิตกระทั่งตายก่อนวัยอันควร
เรื่องย่อ
[แก้]ละครเรื่องนี้สร้างขึ้นจากชีวิตจริงของเด็กสาวชาวญี่ปุ่นวัยสิบห้าปีชื่ออายะ คิโต ซึ่งป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อเสียการประสานงานจากสมองน้อยและไขสันหลัง ซึ่งเป็นโรคที่ไร้หนทางเยียวยา กระทั่งตายเมื่อวัยยี่สิบห้า บทละครอ้างอิงบันทึกประจำวันที่อายะเขียนขึ้นกระทั่งไม่สามารถจับปากกาอีกต่อไปได้
ละครเริ่มต้นจากสมัยที่อายะกำลังจะสอบเข้าโรงเรียนมัธยมที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง เธอนั่งหลับบนรถจนเลยโรงเรียนไปเกือบจะเข้าสอบไม่ทัน อายะต้องวิ่งสุดชีวิตเพื่อไปเข้าสอบให้ทันและระหว่างนั้นได้ไปพบกับฮะรุโตะ (Haruto Aso) ซึ่งกำลังคิดจะไม่เข้าสอบอยู่พอดี แต่ด้วยความสงสารอายะจึงต้องถีบจักรยานไปส่งเธอที่สนามสอบท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ผลปรากฏว่าในที่สุดทั้งสองคนจึงได้เข้าสอบและผ่านเข้าไปเรียนในชั้นเรียนเดียวกัน เนื่องจากทั้งสองเป็นนักเรียนหญิงและนักเรียนชายที่เป็นชื่อแรกของห้องเรียน ทั้งสองจึงถูกคุณครูเลือกให้เป็นตัวแทนของชั้นเรียนในการประสานงานกิจกรรมของห้อง
ความผิดปกติค่อยๆ เกิดขึ้นกับอายะทีละเล็กทีละน้อยมีแต่มารดาของอายะซึ่งมีอาชีพในการให้คำปรึกษาสุขภาพเท่านั้นที่สังเกตรับรู้ได้ แม่ของอายะเป็นคนที่ละเอียดรอบคอบและเอาใจใส่ครอบครัว เธอพบว่าหลายครั้งที่อายะล้มนั้นจะไม่เอามือยันพื้นเหมือนคนทั่วไป ตลอดจนการหยิบจับสิ่งของก็ไม่ถนัดนัก เคยคีบอาหารหล่นอยู่บ่อยๆ และรินเหล้าหกใส่คุณพ่อในวันสำคัญ จนกระทั่งวันหนึ่งอายะล้มลงอย่างแรงขณะวิ่งไปโรงเรียนยามเช้า คางแตกเพราะกระแทกถนน มารดาของอายะจึงรุดพาตัวไปโรงพยาบาลและถือโอกาสนี้ในการตรวจหาสาเหตุที่เกิดขึ้น
งานชิ้นแรกที่อายะและฮารุโตะได้รับมอบหมายนั้นก็คือการประกวดร้องเพลงประสานเสียง ฮารุโตะแรกเริ่มนั้นมีท่าทีเย็นชาและไม่สุงสิงกับผู้คนจึงไม่ร่วมมือกับอายะเท่าที่ควร อายะต้องรับบทผู้อำนวยเพลงถือไม้บาตองกำกับการร้องประสานเสียงของชั้นเรียน ระหว่างที่การฝึกซ้อมดำเนินไป อายะก็ต้องเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลประกอบกันไป บางครั้งในการฝึกซ้อมอาการของโรคได้กำเริบขึ้นมาจนผิดสังเกตจนอายะพลั้งทำโน้ตเพลงหล่นกระจัดกระจายทั่วพื้นห้อง แต่ก็ไม่มีใครทราบว่าเกิดอะไรขึ้น วันสุดท้ายก่อนการแสดงนั้นพ่อแม่ของอายะไปที่โรงพยาบาลและรับทราบแล้วว่าอายะป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อเสียการประสานงานจากสมองน้อยและไขสันหลังซึ่งเป็นโรคที่ไม่อาจรักษาให้หายได้ แต่อายะยังไม่รู้ความจริงดังกล่าวนี้และยังขึ้นอำนวยเพลงอย่างเต็มภาคภูมิอย่างคนปกติเป็นครั้งสุดท้าย
หลังจากนั้นเมื่อเธอทราบความจริงเกี่ยวกับโรคร้ายและอาการของโรคได้ปรากฏเด่นชัดขึ้น ความรักครั้งแรกกับรุ่นพี่ ยุจิ คะวะโมะโตะ (Yuji Kawamoto) ในโรงเรียนก็ค่อยๆ สิ้นสุดลง เพราะรุ่นพี่หลีกเลี่ยงที่จะคบกับเธอที่ต้องเข้าออกโรงพยาบาลเป็นประจำ ในทางตรงข้ามฮะรุโตะที่เคยเป็นคนเฉยเมยไม่ไม่ใส่ใจใครก็กลับมาเอาใจใส่เธอมากขึ้น ครั้งหนึ่งรุ่นพี่คนนี้ทอดทิ้งให้อายะต้องรอท่ามกลางสายฝนที่สวนสัตว์แต่ฮะรุโตะก็รู้ว่ารุ่นพี่จะไม่มาจึงได้ไปพาอายะกลับโรงพยาบาล จากนั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองก็แนบแน่นขึ้นเป็นลำดับ
อายะได้เรียนรู้ว่าฮะรุโตะไม่ใช้คนเย็นชาอย่างไม่มีเหตุผล แต่เป็นเพราะพี่ชายของเขาได้เสียชีวิตไปอย่างกะทันหันทำให้เขาหมดอาลัยตายอยากกับชีวิตและเคยคุยกับอายะว่ามนุษย์นี่เห็นแก่ตัวที่อยากจะมีชีวิตอยู่ไปไม่รู้จักจบสิ้นในขณะที่พืชและสัตว์ดูเหมือนจะมีช่วงชีวิตของมัน ครั้งหนึ่งอายะถึงกับถามฮะรุโตะว่าชีวิตใครจะเป็นจะตายมันไม่สำคัญกับเขาเลยหรือ ฮะรุโตะในตอนนั้นก็ตอบว่าไม่ แต่ต่อมาฮะรุโตะจึงได้เรียนรู้ความหมายของการดำรงอยู่นี้จากอายะและตั้งใจเล่าเรียนเพื่อเป็นแพทย์ในอนาคต นับแต่ได้มาพบกับอายะ ฮะรุโตะได้เปลี่ยนแปลงตนเองจากหน้ามือเป็นหลังมือ ตั้งใจค้นคว้าตำราการแพทย์เจริญรอยตามบิดาที่เป็นอาจารย์แพทย์ประจำมหาวิทยาลัยโจนัน
แม้ว่าอาการของอายะจะยิ่งทรุดลงแต่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองก็ยิ่งแนบแน่นขึ้น จนกระทั่งวันหนึ่งอายะก็ไม่สามารถอยู่ที่โรงเรียนของคนปกติได้อีกต่อไปเธอต้องตัดสินใจย้ายไปเรียนที่โรงเรียนของผู้ทุพพลภาพ การตัดสินใจที่จะต้องจากโรงเรียนเดิมของเธอไปยังโรงเรียนแห่งใหม่นี้เธอกล่าวว่า "ต้องเสียน้ำตาถึงหนึ่งลิตร ถึงจะตัดสินใจได้"
การป่วยของอายะส่งผลกระทบต่อคนรอบข้างทุกคน และสะท้อนให้เห็นถึงความรักความเอาใจใส่ที่ครอบครัวมีให้กับเธอ ครั้งถึงแม่ของอายะถึงกับกล่าวว่า "แม่ขอโทษที่เป็นโรคนี้แทนหนูไม่ได้" และน้องสาวของเธอที่เคยอิจฉาริษยาอายะมาโดยตลอดก็กลับตัวกลับใจตั้งใจเรียนเพื่อสอบเข้าโรงเรียนเดียวกับอายะให้ได้ เพื่อสานฝันที่อายะไม่อาจเดินทางไปจนสุดทาง น้องชายคนเดียวของอายะก็ต้องกล้าหาญที่จะไม่ยอมให้ใครมาดูถูกดูแคลนพี่สาวตัวเองและภูมิใจในพี่อายะที่แม้จะป่วยพิกลพิการแต่ก็ฝึกสอนเขาเล่นฟุตบอลจนได้รับคัดเลือกให้ไปเล่นยิงประตูได้
ฮารุโตะเป็นคนรักธรรมชาติและชอบเลี้ยงสัตว์ อายะชอบให้เขาเล่าเรื่องสัตว์ต่างๆ ให้ฟังอยู่เสมอ จนวันหนึ่งอารุโตะพาอายะไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ อายะชอบปลาโลมานั้นสื่อสารกันได้ระยะใกล้โดยมิต้องใช้สุ้มเสียง ฮะรุโตะจึงซื้อที่ห้อยโทรศัพท์มือถือรูปปลาโลมาให้เป็นของขวัญ อายะและฮะรุโตะจึงมีที่ห้อยโทรศัพท์รูปปลาโลมานี้เป็นเครื่องสื่อใจถึงกัน
เวลาที่ล่วงเลยไปค่อยๆ นำเอาความสามารถที่อายะเคยมีไปทีละน้อย จากที่เคยเดินได้ทั้งในโลกแห่งความเป็นจริงและโลกแห่งความฝัน ก็กลายเป็นต้องอยู่ในรถเข็นและในที่สุดแม้กระทั่งในความฝันอายะก็เห็นตัวเองต้องนั่งอยู่ในรถเข็นเช่นกัน ด้วยโรคที่รุมเร้าทำให้เธอพูดได้ไม่ชัดเจนและไม่จบประโยค แต่คนที่ตั้งใจฟังอย่างฮะรุโตะก็เข้าใจเธอได้เสมอ เธอให้กำลังใจตัวเองว่าจะไม่พูดถึงสิ่งที่เคยทำได้ แต่จะพูดถึงที่ทำได้ในวันนี้ จนกระทั่งในปั้นปลายชีวิตของเธอ อายะสื่อสารกับคนรอบข้างโดยการใช้นิ้วที่สั้นไหวชี้ตัวอักษรบนกระดานตัวอักษร แต่เธอก็ไม่เคยย่อท้อที่จะทำในสิ่งที่เธอยังทำได้อยู่
ด้วยเหตุที่ทราบว่าคงไม่อาจใช้ชีวิตอย่างคนทั่วไป ไม่มีอนาคตและไม่อาจแต่งงานได้ วันหนึ่งหลังจากที่กลับจากงานแต่งงานของคุณครูโรงเรียนผู้ทุพพลภาพ อายะจึงคืนของขวัญที่ฮะรุโตะมอบให้ ตอนจบของเรื่อง อายะเสียชีวิตลงโดยสงบ เรื่องราวของเธอเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ป่วยจำนวนมากมีกำลังใจในการต่อสู้ชีวิตต่อไป
ฟูจิทีวีได้ทำรายการตอนพิเศษเป็นเรื่องราวหลังจากที่อายะเสียชีวิตไปแล้ว น้องสาวของอายะได้เป็นพยาบาล ส่วนฮะรุโตะได้เป็นหมอที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยที่อายะเคยรักษาตัวอยู่ ฮารุโตะต้องพบกับคนไข้ที่เป็นเด็กสาวที่ดื้อดึงไม่ร่วมมือในการรักษา จนในที่สุดฮารุโตะต้องนำเธอขึ้นไปบนดาดฟ้าโรงพยาบาลและเล่าเรื่องราวของอายะให้ฟัง รายการตอนพิเศษนี้เป็นการเล่าเรื่องราวย้อนในตอนที่ผ่านๆ มาและแสดงให้เห็นว่าการต่อสู้ของอายะเป็นแบบอย่างให้กับคนอื่นๆ ได้อย่างไร
ผู้แสดง
[แก้]- เอริกะ ซะวะจิริ (Erika Sawajiri) : อายะ อิเกะอุชิ (Aya Ikeuchi)
- ฮิโระโกะ ยะกุชิมะรุ (Hiroko Yakushimaru) : ชิโอะกะ อิเกะอุชิ (Shioka Ikeuchi), แม่ของอายะ
- ทะกะโนะริ จินไน (Takanori Jinnai) : มิซุโอะ อิเกะอุชิ (Mizuo Ikeuchi), พ่อของอายะ
- ริโกะ นะรุมิ (Riko Narumi) : อาโกะ อิเกะอุชิ (Ako Ikeuchi), น้องสาวของอายะ
- ยูมะ ซานาดะ (Yuma Sanada) : ฮิโระกิ อิเกะอุชิ (Hiroki Ikeuchi), น้องชายของอายะ
- อานิ มิโยะชิ (Ani Miyoshi) : ริกะ อิเกะอุชิ (Rika Ikeuchi), น้องสาวคนเล็กของอายะ
- เรียว นิชิกิโดะ (Ryō Nishikido) : ฮะรุโตะ อาโซ (Haruto Asō), คู่รักของอายะ
- นาโอะฮิโตะ ฟุจิกิ (Naohito Fujiki) : ฮิโระชิ มิซุโนะ (Hiroshi Mizuno), แพทย์
- ซาโอะริ คิโอะเดะ (Saori Koide) : มาริ ซุงิอุระ (Mari Sugiura), เพื่อนของอายะ
- เคะนิชิ มะสึยะมะ (Kenichi Matsuyama) : ยุจิ คะวะโมะโตะ (Yuji Kawamoto), คู่รักคนแรกของอายะ ((รุ่นพี่))
- คะนะ มะสึโมะโตะ (Kana Matsumoto) : ซะกิ มะสึมุระ (Saki Matsumura)
- โมะโมะซุเกะ มิซุตะนิ (Momosuke Mizutani) : โคะเฮ องดะ (Kohei Onda)
- เรียว ฮะชิดุเมะ (Ryo Hashidume) : เคตะ นะกะฮะระ (Keita Nakahara)
- ฮิโระชิ คะสึโนะ (Hiroshi Katsuno) : โยะชิฟุมิ อาโซ (Yoshifumi Asō), บิดาของฮารุโตะ
- อาซะเอะ โอนิชิ (Asae Onishi) : อาซุมิ โออิกะวะ (Asumi Oikawa), เพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งของอายะที่โรงเรียนสำหรับบุคคลทุพพลภาพ อาซุมิป่วยเป็นโรคเดียวกับอายะ
- ยูกิ ซะโตะ (Yuuki Sato) : เคซุเกะ อาโซ (Keisuke Asō), พี่ชายของฮะรุโตะ
- มะยะ ฮะมะโอกะ (Maya Hamaoka) : คิกุเอะ โออิกะวะ (Kikue Oikawa)
- คะซุโกะ คะโต (Kazuko Katō) : มะโดะกะ ฟุจิมุระ (Madoka Fujimura)
- โทะชิฮิเดะ โทะเนะซะกุ (Toshihide Tonesaku) : คีชิ ทะกะโนะ (Kiichi Takano), อาสาสมัครคนหนึ่งที่โรงเรียนสำหรับบุคคลทุพพลภาพ ผู้ซึ่งต่อมาสมรสกับผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว
- ชิเงะยุกิ ซะโต (Shigeyuki Satō) : นิชิโนะ (Nishino), ครูประจำชั้นของอายะสมัยมัธยมศึกษา
การแพร่ภาพ
[แก้]- วันแพร่ภาพ: 4 พฤษภาคม—18 พฤษภาคม 2550
- วันแพร่ภาพ: 2 กรกฎาคม—18 กรกฎาคม 2550
- วันแพร่ภาพ: 4 กรกฎาคม—20 ตุลาคม 2550
- เวลาแพร่ภาพ : วันเสาร์ เวลา 18:00—19:00 นาฬิกา
- สถานีโทรทัศน์: เอททีวี (8TV)
- วันแพร่ภาพ: 5 พฤษภาคม 2551-9 มิถุนายน 2551
- เวลาแพร่ภาพ : วันจันทร์—วันอังคาร เวลา 20:30—21:30 นาฬิกา
- สถานีโทรทัศน์: ทีวีไทย
- วันแพร่ภาพ: 25 พฤษภาคม 2552-19 มิถุนายน 2552
- เวลาแพร่ภาพ : วันจันทร์—วันศุกร์ เวลา 10:15—10:45 นาฬิกา
กำหนดการแพร่ภาพในประเทศไทย
[แก้]ตอนที่ | ชื่อตอน | วันแพร่ภาพ |
---|---|---|
1 | ภาวะเริ่มแรกของวัยรุ่น ある青春の始まり |
5 พฤษภาคม 2551 |
2 | วัยสิบห้าปี เมื่อโรคร้ายย่างกรายเข้าหา 15才、忍びよる病魔 |
6 พฤษภาคม 2551 |
3 | ทำไมโรคนี้จึงเลือกฉัน 病気はどうして私を選んだの |
12 พฤษภาคม 2551 |
4 | สองคนผู้โดดเดี่ยว 二人の孤独 |
13 พฤษภาคม 2551 |
5 | บัตรประจำตัวผู้ทุพพลภาพ 障害者手帳 |
19 พฤษภาคม 2551 |
6 | สายตาอันโหดร้าย 心ない視線 |
20 พฤษภาคม 2551 |
7 | ที่ของฉัน 私のいる場所 |
26 พฤษภาคม 2551 |
8 | น้ำตาหนึ่งลิตร 1リットルの涙 |
27 พฤษภาคม 2551 |
9 | ชีวิตในตอนนี้ 今を生きる |
2 มิถุนายน 2551 |
10 | จดหมายรัก Love Letter |
3 มิถุนายน 2551 |
11 | จากไปไกลแสนไกล ไปยังที่ที่น้ำตาจางหาย 遠くへ、涙の尽きた場所に |
9 มิถุนายน 2551 |
พิเศษ | บันทึกน้ำตาหนึ่งลิตรตอนพิเศษ 1リットルの涙」特別篇‧追憶 |
ยังไม่มีกำหนดการแพร่ภาพ |
เพลงประกอบละคร
[แก้]เพลงประกอบละครทั้งหมดประพันธ์ขึ้นโดยซุซุมุ อุเอะดะ (Susumu Ueda) รายชื่อเพลงอย่างเป็นทางการตามที่วางจำหน่ายเป็นครั้งแรกใน พ.ศ. 2548 มีดังต่อไปนี้ตามลำดับ
- Main Theme (4.10 นาที)
- Hurdle Wo Keote (2.53 นาที)
- Anata Ga Oshiete Kure Tamono (Ai No Theme) (3.18 นาที)
- Yasashisa Ni Tsutsumarete (2.45 นาที)
- Anji (2.32 นาที)
- Sunadokei (3.09 นาที)
- Kimi He No Long Pass (2.28 นาที)
- Rakujitsu (2.25 นาที)
- Shinobiyoru Byouma (2.33 นาที)
- Furi Aoge Ba Aoi Sora (2.20 นาที)
- Namida No Imi (2.32 นาที)
- Senkoku (2.23 นาที)
- Mou Utae Nai (2.56 นาที)
- Te Wo Nobase Ba Anata Ga (3.07 นาที)
- Kunou No Senritsu (2.54 นาที)
- Nagare Yuku Jikan (2.54 นาที)
- Sagashi Te Goran (2.38 นาที)
- Nigiyaka Na Danran (2.22 นาที)
- Toumei Na Sekai (3.03 นาที)
- Seimei Aru Kagiri (Sub Theme) (4.17 นาที)
- Only Human (Piano Version) (2.57 นาที)
- Konayuki (Piano Version) (4.34 นาที)
- Only Human (Cello Version) (3.06 นาที)