ไทยคม (บริษัท)
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
เนื้อหาในบทความนี้ล้าสมัย โปรดปรับปรุงข้อมูลให้เป็นไปตามเหตุการณ์ปัจจุบันหรือล่าสุด ดูหน้าอภิปรายประกอบ |
ประเภท | บริษัทมหาชน SET:THCOM |
---|---|
ISIN | TH0380010Y15 |
อุตสาหกรรม | โทรคมนาคม |
ก่อตั้ง | 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2534 |
ผู้ก่อตั้ง | ทักษิณ ชินวัตร |
สำนักงานใหญ่ | กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย |
บุคลากรหลัก | สมประสงค์ บุญยะชัย, ประธานกรรมการ สารัชถ์ รัตนาวะดี, รองประธานกรรมการ ปฐมภพ สุวรรณศิริ, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร |
ผลิตภัณฑ์ | ดาวเทียมโทรคมนาคม และบริการที่เกี่ยวข้อง |
รายได้ | 500,136.40 ล้านบาท (ปี 2558) |
เว็บไซต์ | http://www.thaicom.net |
บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) (Thaicom Public Company Limited) เดิมชื่อ บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) (Shin Satellite Public Company Limited) เป็นบริษัทแรกและบริษัทเดียวของประเทศไทยที่เป็นผู้ให้บริการธุรกิจดาวเทียมเชิงพาณิชย์ ได้รับสัมปทานจากกระทรวงคมนาคม (ปัจจุบันอำนาจการดูแลสัญญาถูกโอนไปยัง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม) ในปี พ.ศ. 2534 เพื่อดำเนินการจัดส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรและให้บริการช่องสัญญาณดาวเทียม รวมถึงบริหารงานโครงการดาวเทียมไทยคมภายใต้ข้อตกลงแบบ BTO (Build-Transfer-Operate)
"ไทยคม" (Thaicom) เป็นชื่อที่พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้เป็นชื่อของดาวเทียม ซึ่งมาจากคำว่า "ไทยคมนาคม" และ "Thai Communications" ในภาษาอังกฤษ[1]
เหตุการณ์สำคัญ
- 11 กันยายน พ.ศ. 2534 - บริษัท ชินวัตรแซทเทลไลท์ จำกัด (SATTEL) ได้รับสัมปทานธุรกิจดาวเทียมจากกระทรวงคมนาคมเป็นระยะเวลา 30 ปี เป็นบริษัทแรกของประเทศไทยที่ประกอบธุรกิจดาวเทียม
- 27 สิงหาคม พ.ศ. 2536 - บริษัท ชินวัตรแซทเทลไลท์ จำกัด แปลงสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ใช้ชื่อใหม่ว่า "บริษัท ชินวัตรแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ปีเดียวกัน
- 17 ธันวาคม พ.ศ. 2536 - ไทยคม 1 ขึ้นสู่วงโคจร
- 18 มกราคม พ.ศ. 2537 - บริษัท ชินวัตรแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนเข้าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์
- 7 ตุลาคม พ.ศ. 2537 - ไทยคม 2 ขึ้นสู่วงโคจร
- 16 เมษายน พ.ศ. 2540 - ไทยคม 3 ขึ้นสู่วงโคจร
- 2 สิงหาคม พ.ศ. 2542 - บริษัท ชินวัตรแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน)
- 27 กันยายน พ.ศ. 2542 - บริษัทฯ ขายหุ้นสามัญใน Shenington Investemts Pte Ltd. (Shenington) ที่ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 100 ให้แก่บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) ทั้งนี้เพื่อปรับโครงสร้างของกลุ่มบริษัทฯ ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
- พฤศจิกายน พ.ศ. 2545 - SATTEL ลงนามในสัญญาเงินกู้สำหรับโครงการ IPSTAR จำนวนประมาณ 390 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยลงนามในสัญญากับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา (US Ex-Im Bank) และองค์การเพื่อการส่งออกแห่งฝรั่งเศส (COFACE) จำนวน 265 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งได้มีการลงนามกับกลุ่มธนาคารพาณิชย์ นำโดยธนาคารซิตี้แบงก์ (Citibank) และธนาคารบีเอ็นพี พาร์ริบาร์ (BNP Paribas) สำหรับวงเงินกู้จำนวน 125 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้โครงการ iPSTAR มีความพร้อมอย่างเต็มที่ในด้านการเงิน
- 11 สิงหาคม พ.ศ. 2548 - ไทยคม 4 หรือ ไอพีสตาร์ (iPSTAR) ขึ้นสู่วงโคจร หลังเกิดความล่าช้าถึง 2 ชั่วโมงจากเวลาที่กำหนดไว้ เนื่องจากเกิดปัญหาด้านเทคนิคขี้นใน 15 วินาทีสุดท้าย ก่อนยิงจรวดขึ้นสู่ตำแหน่งปล่อยดาวเทียม
- 10 เมษายน พ.ศ. 2551 - บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) และเปลี่ยนตัวย่อในตลาดหลักทรัพย์เป็น THCOM
- 7 มกราคม พ.ศ. 2557 - ไทยคม 6 ขึ้นสู่วงโคจร
- 7 กันยายน พ.ศ. 2557 - ไทยคม 7 ในชื่อของเอเชียแซต 6 ขึ้นสู่วงโคจร
- 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 - ไทยคม 8 ขึ้นสู่วงโคจร
- 1 มกราคม พ.ศ. 2565 - นาย ปฐมภพ สุวรรณศิริ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
ดาวเทียมในจัดการ
- บริษัท ไทย แอดวานซ์ อินโนเวชั่น จำกัด (ไทยเอไอ)
เดิมคือ บริษัท ดีทีวี เซอร์วิส จำกัด บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ได้จัดตั้งบริษัท บริษัท ดีทีวี เซอร์วิส ขึ้น ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2543 โดยทำหน้าที่ให้บริการด้านการทำธุรกรรมบนอินเทอร์เน็ต ด้วยความพร้อมในด้านศักยภาพ และประสบการณ์ทางด้านสื่อสารผ่านดาวเทียม การให้บริการอินเทอร์เน็ต ตลอดจนการขยายตัวของธุรกิจ นอกจากนี้ DTV ยังเป็นผู้ให้บริการการรับชมโทรทัศน์ผ่านทางอินเทอร์เน็ต (Internet Protocol TV) ภายใต้ชื่อ “iPTV” เป็นรายแรกของประเทศอีกด้วย
- Shenington Investments Pte. Ltd. (Shenington)
Shenington เป็นบริษัทเพื่อการลงทุนที่จดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ เพื่อลงทุนด้านการสื่อสารโทรคมนาคมในระดับนานาชาติ ซึ่ง SATTEL ได้เข้าซื้อกิจการของ Shenington เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2542 ในราคา 50 ล้านบาท ซึ่งมีธุรกิจในเครือคือ บริษัท ลาวโทรคมนาคม จำกัด และ บริษัท กัมพูชา ชินวัตร จำกัด Shenington มีบริษัทในเครือ ได้แก่:
- บริษัท ลาว โทรคมนาคม จำกัด (Lao Telecommunications Co., Ltd. - LTC)
LTC เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Shenington กับรัฐบาลลาว ในสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 49 และ 51 ตามลำดับ เพื่อดำเนินกิจการให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมแบบครบวงจรในประเทศลาว โดยมีบริการต่างๆประกอบด้วยบริการโทรศัพท์พื้นฐานระบบ Public Switched Telephone Network (PSTN), บริการโทรศพท์เคลื่อนที่ทั้ง Postpaid และ Prepaid ในระบบ GSM 900, International Direct Dialing (IDD), โทรศัพท์สาธารณะ วิทยุติดตามตัว และบริการอินเทอร์เน็ต
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
- ข้อมูล ณ วันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 [2]
ลำดับที่ | รายชื่อผู้ถือหุ้น | จำนวนหุ้นสามัญ | สัดส่วนการถือหุ้น |
1 | บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) | 450,870,934 | 41.14% |
2 | STATE STREET BANK EUROPE LIMITED | 83,991,500 | 7.66% |
3 | บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด | 66,197,580 | 6.07% |
4 | NORTRUST NOMINEES LTD-CL AC | 21,582,426 | 1.97% |
5 | RBC INVESTOR SERVICES BANK S.A. | 20,624,000 | 1.88% |
อ้างอิง
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=zyydbtSEDLM ในหลวง ร.9 เสด็จพิธีเปิดสถานีดาวเทียมไทยคม 4-5
- ↑ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เซ็ทเทรดดอตคอม