ข้ามไปเนื้อหา

วิกิพีเดีย:ทดลองเขียน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก ทดลองเขียน)

เมดอินไชนา 2025 (Made in China 2025; ย่อ: MIC25,[1] MIC 2025,[2] หรือ MIC2025; จีน: 中国制造2025; พินอิน: Zhōngguózhìzào èrlíng'èrwǔ)[3][4] เป็นแผนงานเชิงกลยุทธ์และนโยบายทางอุตสาหกรรมระดับชาติ[5] เพื่อมุ่งพัฒนาภาคการผลิตของจีน แผนงานดังกล่าวได้รับการลงนามโดยหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนในเดือนพฤษภาคม 2558[6] แผนพัฒนานี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนงานห้าปีฉบับที่สิบสามและสิบสี่ เพื่อให้จีนมุ่งเน้นจากการหลุดจากการเป็น "โรงงานแห่งโลก" ซึ่งหมายถึงผู้ผลิตสินค้าเทคโนโลยีต่ำโดยอาศัยค่าแรงงานที่ถูกกว่าและความได้เปรียบในระบบห่วงโซ่อุปทาน นโยบายทางอุตสาหกรรมนี้มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมจีนจากโรงผลิตที่เน้นการผลิตโดยแรงงาน ไปเป็นผู้นำการผลิตที่มุ่งเน้นทางเทคโนโลยีและการเพิ่มมูลค่าเพิ่ม[7]

เป้าหมายของเมดอินไชนา 2025 รวมถึงการเพิ่มจำนวนการผลิตสิ่งที่นำมาเป็นวัสดุสำคัญในประเทศจีนให้เป็นร้อยละ 40 ในปี 2563 และให้ถึงร้อยละ 70 ในปี 2568[8] เพื่อให้จีนมีความเป็นอิสระจากผู้จัดส่งสินค้าจากต่างประเทศ นโยบายดังกล่าวมุ่งส่งเสริมให้มีการผลิตในภาคผลิตภัณฑ์และบริการทางเทคโนโลยีขั้นสูง โดยมีศูนย์กลางของแผนงานอุตสาหกรรมอยู่ที่อุตสาหกรรมสารกึ่งตัวนำ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะความก้าวหน้าในเทคโนโลยีชิปอาจทำให้ "เกิดการค้นพบใหม่ ๆ ในเทคโนโลยีแขนงอื่น ๆ ทำให้ผู้ที่มีชิปที่ดีที่สุดมีความได้เปรียบ ซึ่งเป็นความได้เปรียบที่ปักกิ่งยังไม่สามารถเอื้อมถึงได้ในปัจจุบัน"[4][9][10][11]

ตั้งแต่ปี 2561 จากการที่สหรัฐอเมริกา ยุโรปและประเทศอื่น ๆ มีข้อวิพากย์วิจารณ์แผนงานดังกล่าว วลี "MIC 2025" ได้มีการลดทอนความสำคัญลงในระดับรัฐบาลและการสื่อสารอย่างเป็นทางการอื่น ๆ[12][13] แต่นโยบายดังกล่าวยังคงดำเนินอยู่ต่อไป รัฐบาลจีนยังคงมุ่งเน้นการลงทุนในเทคโนโลยีที่ระบุว่าเป็นส่วนสำคัญอยู่[12] โดยในปี 2561 เอง รัฐบาลจีนให้คำมั่นว่าจะลงทุนเป็นจำนวนเงินกว่า 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อให้บรรลุแผนงานทางเศรษฐกิจนี้ [11] ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส 2019 ทำให้มีการลงทุนเพิ่มลงไปในแผนงาน MIC 2025 อีกไม่น้อยกว่า 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ[14] ความที่ประเทศจีนยังคงมีสถานะประเทศที่มีรายได้ปานกลางอยู่ จึงมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการลงทุนเพื่อให้เกิดการพัฒนาทางเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในลักษณะที่ไม่อาจสมเหตุผลและไม่อาจปฏิบัติได้จริง[15]

ในเดือนตุลาคม 2567 สำนักข่าวบลูมเบิร์กได้เผยแพร่บทความหัวข้อ "ความพยายามของสหรัฐในการต้านทานแรงขับเคลื่อนของสี จิ้นผิงในการเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีกำลังเสื่อมถอยลง" โดยบทความชี้ให้เห็นว่าแผนงาน "เมดอินไชนา 2025" ประสบความสำเร็จเป็นส่วนมาก เนื่องจากจีนสามารถกลายมาเป็นผู้นำในเทคโนโลยี 5 ประการจาก 13 ประการสำคัญ ซึ่งรวมถึงรถไฟความเร็วสูง แกรฟีน อากาศยานไร้คนขับ แผงพลังงานแสงอาทิตย์ และรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ลิเธียม รวมถึงยังมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในอีกเจ็ดสาขาอื่น ๆ บทความดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าจีนกำลังมีอิทธิพลเพิ่มสูงขึ้นในอุตสาหกรรมที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ[16]

  1. "What is the 2019 biggest tech trend in China?". Red Digital. July 16, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-02-06. สืบค้นเมื่อ November 12, 2020.
  2. "Made in China 2025: The Industrial Plan that China Doesn't Want Anyone Talking About". PBS. May 7, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-11-07. สืบค้นเมื่อ November 12, 2020.
  3. Made in China 2025 เก็บถาวร ธันวาคม 29, 2018 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. CSIS, June 1, 2015.
  4. 4.0 4.1 Chan, Elaine (September 24, 2020). "'Made in China 2025': how new technologies could help Beijing achieve its dream of becoming a semiconductor giant". South China Morning Post. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-11-11. สืบค้นเมื่อ November 11, 2020.
  5. "Made in China 2025: Global Ambitions Built on Local Protections" (PDF). United States Chamber of Commerce. March 16, 2017. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ November 1, 2020. สืบค้นเมื่อ June 30, 2021.
  6. "Made in China 2025" plan unveiled to boost manufacturing เก็บถาวร กรกฎาคม 25, 2018 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. China News Service, May 2015.
  7. "China to invest big in 'Made in China 2025' strategy". english.gov.cn. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-01-11. สืบค้นเมื่อ 2019-01-10.
  8. Curran, Enda (February 15, 2017). "From 'Made in China' to 'Made by China for China'". Bloomberg News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 11, 2020. สืบค้นเมื่อ May 27, 2024.
  9. "China memory chip output zooms from zero to 5% of world total". Nikkei Asia. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-03-29. สืบค้นเมื่อ 2020-04-13.
  10. "Taiwan loses 3,000 chip engineers to 'Made in China 2025'". Nikkei Asia. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-03-28. สืบค้นเมื่อ 2020-04-13.
  11. 11.0 11.1 Fang, Jason; Walsh, Michael (April 29, 2018). "What is Made in China 2025 and why is the world concerned about it?". ABC News (ภาษาอังกฤษแบบออสเตรเลีย). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-01-10. สืบค้นเมื่อ 2019-01-10.
  12. 12.0 12.1 Doshi, Rush (July 31, 2020). "The United States, China, and the contest for the Fourth Industrial Revolution". Brookings Institution (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-11-02. สืบค้นเมื่อ 2020-10-31.
  13. "Beijing eases back on 'Made in China 2025' amid trade talks with U.S." Reuters (ภาษาอังกฤษ). December 13, 2018. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-11-05. สืบค้นเมื่อ 2020-10-31.
  14. "Analysis | China Is Winning the Trillion-Dollar 5G War". Washington Post (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0190-8286. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-11-09. สืบค้นเมื่อ 2023-05-03.
  15. Magnier, Mark (March 7, 2017). "China's Latest Industrial Policy Is a Waste and a Challenge, Business Group Says". The Wall Street Journal. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 14, 2021. สืบค้นเมื่อ March 18, 2021.
  16. "US Efforts to Contain Xi's Push for Tech Supremacy Are Faltering". Bloomberg.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2024-10-31.